โดยปกตินักท่องเที่ยวมักจะเดินทางจากโตเกียวมายังฮาโกเน่จะใช้บริการ “โอดะคิวโรมานซ์คาร์” รถไฟที่วิ่งตรงเข้าสู่“สถานีฮาโกเน่ยูโมโตะ” ซึ่งเรียกได้ว่าเป็นประตูเข้าสู่เมืองฮาโกเน่ นอกจากนี้ยังมีวิธีอื่น ๆ เช่น การใช้บริการชินคันเซ็นหรือรถบัสทางด่วน จากสถานี โตเกียวและสถานีชินจูกุอีกด้วย

●รถไฟ
สถานีชินจูกุ→＜โอดะคิว โรมานซ์คาร์ 「ฮาโกเน่」「ซุปเปอร์ฮาโกเน่」＞→สถานีฮาโกเน่ยูโมโตะ　(ประมาณ 1ชั่วโมง 25 นาที ）

สถานีชินจูกุ→＜สายโอดะคิว รถด่วนพิเศษ ・รถด่วน＞→สถานีฮาโกเน่ยูโมโตะ　（ประมาณ 1ชั่วโมง 55 นาที）

สถานีชินจูกุ→＜JR โชนันชินจูกุไลน์ รถด่วนพิเศษ＞→สถานีโอดาวาระ →＜สายฮาโกเน่โทซัน＞→ สถานีฮาโกเน่ยูโมโตะ　（ประมาณ 1ชั่วโมง 30 นาที）

สถานีโตเกียว→＜JR ชินกันเซ็นโทไกโด「โกดามะ」＞→สถานีโอดาวาระ →＜สายฮาโกเน่โทซัน＞→สถานีฮาโกเน่ยูโมโตะ　（ประมาณ 50 นาที）

สถานีโตเกียว →＜JR สายด่วนโทไกโด 「โอโดริโกะ 」＞→สถานีโอดาวาระ →＜สายฮาโกเน่โทซัน＞→สถานีฮาโกเน่ยูโมโตะ　　（ประมาณ 1ชั่วโมง 15 นาที）

สถานีโตเกียว→＜JR โทไกโดรถด่วน「แอคตี้」＞→สถานีโอดาวาระ →＜สายฮาโกเน่โทซัน＞→สถานีฮาโกเน่ยูโมโตะ　（ประมาณ 1ชั่วโมง 30 นาที）

“โอดะคิวโรมานซ์คาร์”ที่เป็นที่รู้จัก เป็นรถไฟสายด่วน ภายในรถเป็นที่นั่งแบบจองล่วงหน้า และยังมีที่นั่งสำหรับชมวิว มีมุมกาแฟ สามารถซื้อข้าวกล่องมาทานระหว่างเดินทางอย่างเพลิดเพลินได้

●รถบัสทางด่วน
ชินจูกุ บัสเทอมินอล (ชั้น 4 ของบัสเทอมินอล) หรือ โตเกียว ยาเอะสุ มินามิ กุจิ ＜รถบัสทางด่วน โอดะคิวฮาโกเน่ 「สายฮาโกเน่」＞→ฮาโกเน่โทเกนได（ประมาณ 2 ชั่วโมง 15 นาที）

มาศึกษาสถานที่ท่องเที่ยวส่วนใหญ่ในฮาโกเน่ก่อนที่จะไปเที่ยวกันเถอะ เพราะหากรู้เอกลักษณ์ในแต่ละพื้นที่จะทำให้เราเที่ยวได้อย่างสะดวกสบายมากขึ้น

สถานีฮาโกเน่ยูโมโตะ สถานีปลายทางของของโอดะคิวโรมานซ์คาร์ พื้นที่ที่เต็มไปด้วยนักท่องเที่ยวตลอดเวลา ถนนการค้าหน้าสถานีมีร้านขายของฝากเรียงรายมากกว่า 50 ร้าน สามารถเพลิดเพลินกับการเดินรับประทานออนเซ็นมันจูได้ และยิ่งไปกว่านั้นฮาโกเน่ยูโมโตะ เป็นแหล่งบ่อน้ำพุร้อนที่เก่าแก่ที่สุดในเมืองบ่อน้ำพุร้อนแห่งนี้ และไม่ได้มีเพียงแต่บ่อน้ำพุร้อนเรียวกังแบบดั้งเดิมเท่านั้น แต่ยังมีบ่อน้ำพุร้อนที่สามารถเข้าไปใช้บริการสำหรับผู้แวะเข้ามาท่องเที่ยวแบบไปกลับหนึ่งวันอีกด้วย

“โรงแรมฟูจิย่า” ที่พักที่มีมายาวนานตั้งอยู่ในศูนย์กลางของมิยาโนชิตะซึ่งได้รับความนิยมจากแขกวีไอพีทั่วโลก มีชาวต่างชาติมากมายเข้ามาตั้งแต่สมัยเมจิและต่างประทับใจกับถนนสไตล์ย้อนยุคแห่งนี้ ถึงแม้ว่าโรงแรมฟูจิย่าที่มีงานแกะสลักงดงามและสิ่งน่าชมมากมายแห่งนี้มีกำหนดการปรับปรุงจนถึงฤดูร้อนปี 2020 ท่านก็ยังสามารถไปใช้บริการ “ซากุฮานะโซ” ที่พักขนาดกว้างสไตล์สวนญี่ปุ่น ท่านสามารถเพลิดเพลินกับอาหารญี่ปุ่น ใช้บริการโรงอาบน้ำสำหรับผู้เดินทางไปกลับ นอกจากนี้ยังเป็นบริเวณที่มีร้านเก่าแก่　มีประวัติศาสตร์ยาวนานกว่า 100 ปีตั้งอยู่ด้วย

สถานที่ยอดนิยมในโควากุดานิ คือ “ฮาโกเน่โควากุดานิ ยูเนสซัน” บ่อน้ำพุร้อนที่เป็นสวนน้ำ มีทั้งสไลด์เดอร์และอ่างอาบน้ำที่เป็นเอกลักษณ์ ภายในบ่อจะถูกแบ่งออกเป็นส่วน ๆ โดย ส่วนแรกคือ “ยูเนสซัน” ท่านสามารถใส่ชุดว่ายน้ำเข้าไปแช่ในบ่อไวน์, บ่อชาเขียวได้ อีกส่วนคือ “โมริโนะยุ” ซึ่งเป็นบ่อกลางแจ้งที่ต้องเปลือยกายลงไป นอกจากนี้ ยังมี “พิพิธภัณฑ์ศิลปะโอกาดะบิ” จัดแสดงรูปภาพศิลปะ, เครื่องปั้นดินเผา จากประเทศญี่ปุ่น, ประเทศจีน และประเทศเกาหลี ที่พลาดไม่ได้อีกด้วย

โกระ จุดปลายทางของ “รถไฟฮาโกเน่โทซัน”ยอดนิยม เป็นแหล่งบ่อน้ำพุร้อนที่ใหญ่รองลงมาจากฮาโกเน่ยูโมโตะ หากได้ลองนั่งรถไฟโทซันที่ค่อย ๆ วิ่งผ่านทางลาดชัน รับรองว่าไม่ว่าจะเด็กหรือผู้ใหญ่จะต้องร้องหวาดเสียวออกมาแน่นอน และมีสถานที่ที่ได้สัมผัสธรรมชาติสวยงามของฮาโกเน่มากมาย เช่น “พิพิธภัณฑ์กลางแจ้งโจโคขุ” พิพิธภัณฑ์ซึ่งผสมผสานศิลปะเข้ากับธรรมชาติอย่างลงตัว “สวนสาธารณะฮาโกเน่โกระ” สวนแนวฝรั่งเศสที่เก่าแก่ที่สุดในประเทศญี่ปุ่น เป็นต้น

โอวากูดานิแห่งนี้ที่มีควันสีขาวที่พวยพุ่ง และกลิ่นกรดกำมะถันล่องลอยอยู่ในอากาศ กำเนิดขึ้นมาตั้งแต่ 3,000 ปีก่อน จนถึงตอนนี้ภูเขาไฟก็ยังคงไม่ดับ หากได้มาพบเห็นควันสีขาวที่พุ่งขึ้นมาจากพื้นอยู่ทุกที่ก็จะเข้าใจถึงเหตุผลว่าทำไมโอวากูดานิถึงได้ชื่อว่า “หุบเขานรก” การเดินทางไปโอวากูดานิ แนะนำให้ใช้บริการกระเช้าลอยฟ้าฮาโกเน่ที่อยู่ระหว่างโซอุนซันกับโทเก็นได จะได้เพลิดเพลินกับควันที่พุ่งขึ้นมาเมื่อมองลงไปข้างล่างระหว่างนั่งชมทิวทัศน์บนท้องฟ้า และที่สำคัญอย่าลืมลองทาน “คุโรทามาโกะหรือไข่ดำ” ของขึ้นชื่อโอวากูดานิ ที่ได้รับการกล่าวขานว่าทาน 1 ลูกจะช่วยต่ออายุขัยได้ 7 ปี

การระเบิดของภูเขาไฟเมื่อ 3,000 ปีก่อน ก่อให้เกิดแอ่งยุบปากปล่องขนาดใหญ่เป็น “ทะเลสาบอาชิโนโกะ” มีความลึกจากระดับน้ำทะเล 724 เมตร พื้นที่กว้างประมาณ 19 กิโลเมตร หากกล่าวถึงทะเลสาบอาชิโนโกะ ก็ต้องพูดถึงการล่องเรือชมวิวยอดนิยม ไม่ว่าเป็นเรือโจรสลัดที่ตกแต่งได้อย่างมีเอกลักษณ์โดดเด่น หรือเรือสำราญ จากท่าเรือสามารถชมวิวของภูเขาไฟฟูจิพร้อมกับดอกซากุระ ต้นไม้สีเขียวชอุ่ม ใบไม้แดง หรือทิวทัศน์หิมะได้แตกตามกันในแต่ละฤดู ยิ่งไปกว่านั้นที่ทะเลสาบอาชิโนโกะยังเป็นที่ตั้งของศาลเจ้าฮาโกเน่ที่ขึ้นชื่อเรื่องความรัก ดังนั้นอย่าลืมแวะมาขอพรที่ศาลเจ้าแห่งนี้กันด้วยล่ะ

คิวไคโด หนึ่งในเส้นโทไคโด เป็นที่รู้จักว่ามีเส้นทางที่ชันมาก เชื่อมระหว่างเมืองเอโดะ (โตเกียวในปัจจุบัน) ไปถึงเกียวโตในสมัยเอโดะ ในเส้นถนนคิวไคโด จากเมืองฮาโกเน่ซึ่งเป็นเมืองพักระหว่างทางจนถึงฮาทาจูกุ มีต้นซีดาร์ญี่ปุ่นเรียงรายและทางเดินหินระยะทางกว่า 3 กิโลเมตร ที่จะทำให้ได้สัมผัสถึงบรรยากาศของยุคเอโดะได้อย่างแน่นอน

พื้นที่กว้างบริเวณตีนเขาคินโทคิยามะ ซึ่งเป็นสถานที่ในฉากของ “คินทาโร่” นิทานชื่อดังของประเทศญี่ปุ่น ที่ท่องเที่ยวยอดนิยมในฤดูใบไม้ร่วงเพราะทั้งพื้นทุ่งจะมีต้นซูซูกิออกสีเงินอร่ามราวกับอยู่ในดินแดนแห่งความฝัน ยิ่งไปกว่านั้นยังเหมาะสำหรับเดินเที่ยวชมพิพิธภัณฑ์ศิลปะที่มีเอกลักษณ์ต่าง ๆ ในบริเวณนี้ เช่น พิพิธภัณฑ์ศิลปะฮาโกเน่ลาริค

หากมีโอกาสมาท่องเที่ยวที่ฮาโกเน่ เราอยากให้ท่านแวะเข้ามาท่องเที่ยวใน “โกเท็มบะ” ศูนย์การค้าที่จำหน่ายสินค้าจากผู้ผลิตขนาดใหญ่ที่มีร้านค้ายี่ห้อดัง ร้านอาหารกว่า 210 ร้านในบริเวณพื้นที่อันกว้างขวาง และอยู่ใกล้กับทางด่วนโกเท็มบะ IC ทำให้สามารถขับรถแวะเข้ามาได้อย่างสะดวกสบาย อีกทั้งยังมีรถโดยสารประจำทางบริการจากฮาโกเน่อีกด้วย

ในรอบหนึ่งปี ฮาโกเน่มีกิจกรรมหลากหลายให้ได้สัมผัส และยังมีเสน่ห์ที่แตกต่างกันในแต่ละสี่ฤดูกาล มาทำความเข้าใจสภาพอากาศในแต่ฤดูและเพลิดเพลินกับการท่องเที่ยวในฮาโกเน่กันเถอะ

ช่วงเดือนมีนาคมอากาศจะยังค่อนข้างหนาว อุณหภูมิเฉลี่ยประมาณ 6 องศา ดังนั้นชุดกันหนาวเป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้ในช่วงนี้ แต่พอขึ้นเดือนเมษายนตั้งแต่ฮาโกโน่ยูโมโตะไปถึงอาชิโนโกะ ซากุระจะเริ่มบานและอากาศจะอบอุ่นขึ้น ในเดือนพฤษภาคมอุณหภูมิจะอบอุ่นถึงประมาณ 14 องศา สถานที่ที่มีชื่อเสียง เช่น “ยามะโนโฮเต็ล” ดอกซึซึจิหรือดอกอาซาเลียจะเริ่มบานสะพรั่ง แต่อย่างไรก็ตามในช่วงเวลากลางคืนของเดือนเมษายนและพฤษภาคม อากาศก็ยังคงหนาวอยู่จึงควรเตรียมเสื้อกันหนาวไปด้วย

ตั้งแต่เดือนมิถุนายนและเดือนกรกฎาคมจะมี ”รถไฟอาจิไซ” วิ่งพาท่านไปชมดอกไฮเดรนเยียผ่านหน้าต่างรถไฟ ในเดือนสิงหาคมจะมีกิจกรรมฤดูร้อนจัดมากมายในฮาโกเน่ เช่น เทศกาลฤดูร้อน เทศกาลดอกไม้ไฟ ในเดือนมิถุนายนท้องฟ้าอาจจะไม่ปลอดโปร่งเนื่องจากฝนที่ตกเป็นเวลานาน และหน้าร้อนจะเริ่มในช่วงเดือนกรกฎาคม สิงหาคม อย่างไรก็ตามหน้าร้อนในฮาโกเน่ จะมีอุณหภูมิเฉลี่ยประมาณ 23 องศาดังนั้นจึงควรเตรียมเสื้อหนาวบาง ๆ ไว้สักตัวจะช่วยให้อุ่นใจขึ้น

ก่อนจะหมดหน้าร้อนในเดือนกันยายน อุณหภูมิเฉลี่ยจะอยู่ประมาณ　21 องศา อาจจะรู้สึกร้อนบ้าง แต่ในช่วงเช้าและเย็นจะรู้สึกได้ถึงความหนาว เมื่อเข้าเดือนตุลาคม อากาศจะลดเหลือเหลือ 14 องศา เข้าสู่สภาพอากาศฤดูใบไม้ร่วงอย่างเต็มรูปแบบ ในเดือนตุลาคม ที่เซ็นโกคูบาระ ทุ่งต้นหญ้าซูซูกิจะขึ้นเต็มที่ ในเดือนพฤศจิกายน ไม่ว่าไปที่ไหนก็จะสามารถชมใบไม้เปลี่ยนสีที่สวยงามได้ อีกทั้งในเดือนพฤศจิกายนจะมีวันที่อุณหภูมิลดลงเหลือ 10 องศาบ่อยขึ้น จึงควรเตรียมเสื้อกันหนาวหนา ๆ ไว้ด้วย

ท่านอาจจะได้เห็นวิวภูเขาไฟฟูจิที่งดงามราวกับภาพวาดในวันที่ท้องฟ้าปลอดโปร่งที่ฮาโกเน่ในฤดูหนาว โดยเฉพาะทิวทัศน์ของภูเขาฟูจิกลับด้านเนื่องจากสะท้อนลงผิวน้ำที่อาชิโนโกะก็เป็นอีกหนึ่งมุมพลาดไม่ได้ แต่อย่างไรก็ตาม เวลาเดินทางต้องระมัดระวังหิมะทับถมและถนนที่น้ำแข็งเกาะตัวเพราะเกิดจากความหนาว ในเดือนธันวาคมจะมีอุณหภูมิเฉลี่ยประมาณ 6 องศา และในเดือนมกราคมอากาศจะค่อนข้างหนาวมากถึงประมาณ 1 องศา จึงควรแต่งกายให้อบอุ่นก่อนเดินทางออกข้างนอก
main image：Krishna.Wu / Shutterstock.com

เกี่ยวกับการท่องเที่ยวที่โอวากุดานิ
วันที่ 19 เดือนพฤษภาคม 2562 เวลา 2 นาฬิกา 15 นาที ประกาศจากกรมอุตุวิทยา ฝ่ายแผ่นดินไหวและภูเขาไฟ
＜ประกาศเตือนภัยบริเวณรอบปากปล่องภูเขาไฟฮาโกเน่ (เตือนภัยการปะทุของภูเขาไฟระดับ 2, ห้ามเข้าใกล้บริเวณปากปล่อง)＞

โปรดระมัดระวังการปะทุของภูเขาไฟบริเวณพื้นที่ปากปล่องตามประกาศ อีกทั้ง หากเกิดเหตุการณ์ดังกล่าวห้ามเข้าไปในบริเวณโอวากุดานิ รายละเอียดเพิ่มเติมดูได้ที่เว็บไซต์ด้านล่าง

●สถานการณ์ของภูเขาไฟ – โฮมเพจกรมอุตุวิทยา
http://www.data.jma.go.jp/svd/vois/data/tokyo/STOCK/activity_info/315.html#nheader

●ถึงนักท่องเที่ยวทุกท่าน – เมืองฮาโกเน่
ภาษาอังกฤษ
http://www.town.hakone.kanagawa.jp/index.cfm/11,16731,c,html/16731/20190527-115645.pdf