
กินซะ
กินซะของภาพรวมและประวัติศาสตร์

กินซ่า สถานที่ซึ่งดึงดูดผู้คนมาอย่างยาวนานในฐานะเมืองของผู้ใหญ่มีรสนิยม บรรยากาศในเมืองดูแตกต่างกันออกไป ไม่ว่าจะบนท้องถนนในเมือง ถนนด้านหน้าหรือซอยด้านหลัง รวมทั้งเวลาเช้าและเวลากลางคืน ที่นี่มีทั้งร้านเก่าแก่ดั้งเดิมและ ร้านสุดทันสมัยผสมกัน ความที่มีสองด้านในหนึ่งเดียวนี้ จึงเรียกได้ว่าเป็นจุดเด่นของกินซ่านั่นเอง นอกจากนั้น ชื่อ “กินซ่า” นั้นมาจากที่นี่เคยเป็นโรงงานหลอมทองผลิตเหรียญกษาปณ์ในสมัยเอโดะ เมื่อโรงงานหลอมทองได้ย้ายออกไป และเข้าสู่สมัยเมจิ เมืองที่สร้างจากอิฐสไตล์ตะวันตกก็ถือกำเนิดขึ้น และได้พัฒนากลายเป็นสถานที่กระจายความเจริญและความทันสมัย ทั้งแฟชั่นและอาหารสไตล์ฝรั่ง เมื่อเข้ายุคไทโช ก็ได้กลายเป็นเมืองที่รวมเหล่าวัยรุ่นทันสมัยจนมีคำว่า “กินซ่าบุระ (แปลว่าการเดินเล่นในกินซ่า)”เกิดขึ้น ซึ่งกินซ่านี้เมื่อเกิดสงครามโลกครั้งที่ 2 (ช่วงต้นสมัยโชวะ) ก็โดนเผาทำลายไปจากการโจมตีทางอากาศ แต่หลังสงครามก็ฟื้นตัวกลับมาใหม่ได้ด้วยความพยายามของทั้งภาครัฐและภาคเอกชน ในปี1970 (กลางโชวะ) ถนนกินซ่า (กินซ่าจูโอโดโอริ) ได้เริ่มเปิด “ถนนคนเดิน” เป็นครั้งแรก นับจากนั้น ก็ได้กลายเป็นกิจกรรมที่ทุกคนต้องรู้จักของกินซ่าในวันหยุด (วันเสาร์ อาทิตย์ วันหยุดนักขัตฤกษ์ ฤดูร้อนเปิดตั้งแต่ 12:00-18:00 ฤดูหนาวเปิดตั้งแต่ 12:00-17:00 ) ภายในบริเวณมีสถานีรถไฟใต้ดินรวมกันอยู่ 3 สถานี (สถานีกินซ่า สถานีกินซ่าอิจโจเมะ สถานีฮิงาชิกินซ่า※ใช้ทางรถไฟสายโทเอร่วมกัน) นอกจากนั้นสถานีรถไฟ JR ยูระคุโจก็อยู่ไม่ไกล จึงเดินทางไปในพื้นที่อื่นๆได้สะดวก และถึงแม้กินซ่าจะดูคึกครื้นอยู่เสมอ แต่ความจริงมีประชากรในเขตเพียง 3,500 คนเท่านั้น เพราะว่ากินซ่าเหมือนกับพื้นที่อื่นๆของเคียวบาชิเขตจูโอ ที่มีร้านอาหาร บริษัทห้างร้านเยอะ จึงมีผู้คนอาศัยอยู่น้อยนั่นเอง
กินซะของข้อมูลพื้นที่
พื้นที่บริเวณสี่แยกซุกิยะบาชิ

สี่แยกซุกิยะบาชิแห่งนี้คุณจะได้เพลิดเพลินกับทิวทัศน์ที่ทุกคนรู้จักกันดี ที่มีมีตึกตั้งเรียงราย เช่น “ยูระคุโจมาริออน” “โทคิวพลาซ่ากินซ่า” ซึ่งจากบริเวณสี่แยกจะพบกับ “ซุคิยะบาชิจิโร่”ตั้งอยู่ไม่ห่างนัก ที่นี่คือร้านซูชิระดับต้นๆของญี่ปุ่น แถมยังได้3ดาวมิชลินอีกด้วย ร้านนี้โด่งดังขนาดที่ในปี2014ประธานาธิบดีของอเมริกาในตอนนั้น บารัค โอบาม่า ยังเลือกมากินเป็นอาหารเย็นอย่างไม่เป็นทางการเลยทีเดียว แม้ราคาจะแพงแต่ก็ได้รับความนิยมสูง ขนาดที่จองกันแทบไม่ได้ ถ้าอยากลองไปพิสูจน์ความอร่อยที่ว่านั้นดูล่ะ ลองโทรไปจองล่วงหน้าสักเดือนดูกันได้ (วันที่เริ่มเปิดจองต่างไปตามแต่ละเดือน) นอกจากนั้นรอบๆซุกิยะบาชิยังมีร้านเหล้าและบาร์นับไม่ถ้วน ทั้งร้านที่ให้บรรยากาศยุคโชวะอย่าง “ยูระคุโจ กาโดะชิตะ” หรือบาร์ที่ได้บรรยากาศดีๆด้วยไลท์อัพส่องสว่างอย่าง “กินซ่าโคะริโดไก” สำหรับ “คิริโกะเล้าจ์ (แก้วลายคิริโกะในสมัยเอโดะที่มีลักษณะเฉพาะตัว)”ซึ่งตั้งอยู่ในฟรีสเปสบนชั้น 6 ของ “โทคิวพลาซ่ากินซ่า”แห่งนี้นั้น จะสามารถมองเห็นบ้านเมืองที่เรียงรายของกินซ่า รวมทั้งสี่แยกซุกิยะบาชิได้
พื้นที่บริเวณสี่แยกกินซ่ายงโจเมะ

สี่แยกกินซ่ายงโจเมะซึ่งเป็นศูนย์กลางของกินซ่าและมีผู้คนผ่านไปมามากมาย ที่นี่มีหอนาฬิกา “วะโคฮงคัง” ที่มีชื่อเสียงและถือเป็นสัญลักษณ์เวลาถ่ายภาพกินซ่าเลยทีเดียว หอนาฬิกาแห่งนี้ไม่ใช่หอแรกที่ถูกสร้างขึ้น แต่เป็นการสร้างขึ้นใหม่ด้วยศิลปะในยุคนีโอเรเนซองส์ ทุกวันก่อนเวลาเที่ยงตรง 45 วินาที ระฆังสไตล์เวสต์มินสเตอร์จะดังไปทั่วบริเวณ ถือเป็นของขึ้นชื่อลับๆ ของกินซ่าเลยทีเดียว ห้างสรรพสินค้า “กินซ่า มิซึโคชิ(เปิดตัวในปี1930)” ที่ตั้งอยู่ตรงข้ามกับวะโคเองก็ถือเป็นสัญลักษณ์ของกินซ่าเช่นเดียวกับวะโค สำหรับ “กินซ่าเพลส” อาคารที่รวมร้านค้าเข้าด้วยกันซึ่งตั้งทแยงมุมอยู่ ที่นี่ นอกจากร้านอาหารกระทะร้อนที่คุณจะได้ลิ้มรสเนื้อวัวโกเบ ยังมีร้าน “กินซ่าไลอ้อน” ร้านเบียร์ชื่อดัง และยังมีโชว์รูมของ นิชสัน และโซนี่อยู่อีกด้วย และหากกำลังตามหาของกระจุกกระจิกสไตล์ญี่ปุ่น เช่น กระดาษเขียนจดหมาย น้ำหอม หรือ กระดาษญี่ปุ่น ขอแนะนำให้ไปยัง “คิวเคียโด(เปิดทำการในปี1663)”ซึ่งเป็นร้านเก่าแก่ทางฝั่งสี่แยกแห่งนี้ และร้านที่มีชื่อเสียงอีกร้านคือ “กินซ่าคิมูระยะ”ของวะโค ร้านขาย “อันปัง(ขนมปังไส้ถั่วแดง)”อันมีรสชาติที่คนญี่ปุ่นแทบทุกคนหลงรัก
พื้นที่รอบๆสี่แยกกินซ่าซังโจเมะ

เมื่อเดินจากถนนใหญ่ที่ตั้งของห้างสรรพสินค้าอย่าง “มัตซึยะกินซ่า” เข้าไปยังซอยด้านหลัง จะพบกับร้านชื่อดังเล็กๆ ตั้งกระจัดกระจายอยู่ เช่น “คังกะเท” ก่อตั้งในปี1895 ซึ่งเป็นร้านอาหารฝรั่งที่เข้ามาในญี่ปุ่นก่อนเพื่อนและสอนให้คนญี่ปุ่นรู้จักอาหารตะวันตก คุณจะสามารถเอร็ดอร่อยไปกับต้นกำเนิดของอาหารฝรั่งสไตล์ญี่ปุ่นได้ ตั้งแต่ “พอร์คคาซึเรซึ” ซึ่งเป็นต้นกำเนิดของ “ทงคัตสึ(หมูทอด)” ซึ่งเป็นเมนูของญี่ปุ่นที่ทุกคนรู้จักกันดี นอกจากนั้นยังมี “กันโซะออมไรส์” ที่เป็นเคยเป็นอาหารเลี้ยงพนักงาน แต่ลูกค้าเรียกร้องจนกลายเป็นเมนูหลักในร้าน และ “กันโซะออมไรส์” ยังต่างกับออมไรส์ร้านอื่นๆที่เป็นข้าวผัดมะเขือเทศห่อไข่เจียว แต่ร้านนี้จะเป็นข้าวห่อด้วยแรร์ออมเร็ต และร้านอาหารฝรั่งที่มีชื่อเสียงของกินซ่าอีกแห่งคือ “กิลล์สวิส(กินซ่าสวิส)” ร้านชื่อดังในฐานะผู้กำเนิด “คัตซึคาเร” หรือทงคะซึที่วางบนข้างราดแกงกะหรี่
บริเวณรอบๆสี่แยกกินซ่าอิจโจเมะ

“ไดว่ารอยเน็ตโฮเทลกินซ่า” โรงแรมซึ่งตั้งอยู่ที่ทางออก 10 ของสถานีรถไฟใต้ดินกินซ่าอิจโจเมะ เสน่ห์ของโรงแรมแห่งนี้คือ เพิ่งเปิดเมื่อปี 2015 จึงยังใหม่ และทำเลดีเพราะตั้งอยู่ใกล้สถานีรถไฟหลายสายรวมทั้งย่านท่องเที่ยวและออกแบบอาคารด้วยศิลปะแบบอลังการศิลป์ คุณจะสามารถเพลิดเพลินไปกับบุฟเฟ่ต์อาหารเช้าที่มีอาหารญี่ปุ่นและฝรั่งรวมที่ร้าน “SalvatoreCuomo”ร้านอาหารอิตาเลี่ยนภายในโรงแรม นอกจากนั้นบริเวณรอบๆโรงแรมยังมีร้านอาหารชื่อดังหลายๆร้าน เช่น “กินซ่า อิโต้ยะ ชินฮงเตง” ร้านขายเครื่องเขียนที่มีประวัติอันยาวนาน และ “Qu'il fait bongrand meison กินซ่า” ร้านทาร์ตผลไม้หรูหราชื่อดัง
บริเวณคาบุกิซะ
คาบุกิซะ หนึ่งในการแสดงดั้งเดิมของญี่ปุ่นที่มีชื่อเสียงไปทั่วโลก “คาบุกิซะ” ได้กำเนิดขึ้นเพื่อให้ทั่วโลกได้รู้ถึงเสน่ห์ของคาบุกิ โรงละครคาบุกิที่เห็นในตอนนี้ ถูกปรับปรุงใหม่หลายต่อหลายครั้ง เพราะไฟไหม้บ้าง หรือเพราะความเก่าแก่ผุพังของตัวอาคารเองบ้าง โดยสร้างเสร็จสมบูรณ์ (รุ่นที่5) ในปี 2013 ภายนอกของตัวอาคารออกแบบเป็นสไตล์ญี่ปุ่นแท้ๆ เปี่ยมไปด้วยพลัง ดึงดูดนักท่องเที่ยวทั้งในและต่างประเทศให้เหลียวมอง ภายในตัวอาคารแบ่งออกเป็นส่วนในที่ผู้ชมละครเท่านั้นเข้าได้ กับส่วนนอกที่ใครก็เข้าได้ โดยส่วนที่นักท่องเที่ยวห้ามพลาดคือส่วนนอก สำหรับ “โคะบิคิโจ พลาซ่า” ใต้ดินชั้น 2 (ตรงเข้ามาจากทางออกหมายเลข3ของรถไฟใต้ดินสายฮิบิย่า) คุณสามารถซื้อสินค้าคาบุกิที่ไม่เหมือนใครได้ และใน “สตูดิโอ อลิสคาบูกิฉะชินคัง” ในชั้น 5 คุณยังสามารถลองใส่ชุดที่นำไปใช้แสดงจริงซึ่งผู้เชี่ยวชาญเป็นผู้ตัดเย็บ รวมทั้งสามารถใช้อุปกรณ์ที่ใช้จริงบนเวทีแสดงได้ ให้คุณได้สนุกสนานไปกับการถ่ายภาพในชุดคาบุกิ นอกจากนั้นภายในตึกเดียวกันบนชั้น5ยังมี “คาบุกิซะ แกลอรี่”ซึ่ง นำเสนอคาบุกิและวัฒนธรรมญี่ปุ่นอีกด้วย ที่นี่ จึงมีมีสิ่งที่น่าดูมากมาย หากจะถ่ายภาพด้านหน้าของคาบุกิซะ แนะนำให้ถ่ายจากทางฝั่งประตูทางออกหมายเลข 4 ของสถานีรถไฟใต้ดินฮิกาชิกินซ่าจะดีที่สุด (ถ่ายบนดิน)
Latest Spot Info
- Menu
- Goods
-
This is an Amabie cloisonné decorative plate made with the wish to dispel the plague. The production is limited to 100 pieces. The craftsmen have made many prototypes to ensure the beautiful colors.4,400JPY(Including tax)See all 21 items
- limited quantities
- Japanese culture
- craftsmanship
- Traditional Crafts
- Gift Shops
13days ago -
This is an Amabie cloisonné decorative plate made with the wish to dispel the plague. The production is limited to 100 pieces. The craftsmen have made many prototypes to ensure the beautiful colors.4,400JPY(Including tax)See all 21 items
- limited quantities
- Japanese culture
- craftsmanship
- Traditional Crafts
- Gift Shops
14days ago -
This is an Amabie cloisonné decorative plate made with the wish to dispel the plague. The production is limited to 100 pieces. The craftsmen have made many prototypes to ensure the beautiful colors.4,400JPY(Including tax)See all 21 items
- limited quantities
- Japanese culture
- craftsmanship
- Traditional Crafts
- Gift Shops
15days ago
ท่องเที่ยว
สถานที่ยอดนิยม
เลือกสถานที่
อาหารการกิน
สถานที่ยอดนิยม
เลือกสถานที่
ช้อปปิ้ง
เลือกสถานที่
บทความที่เลือก
-
กินซะ บาร์และผับ ห้ามพลาด