กินซ่าอยู่ห่างจากสถานีโตเกียวโดยรถไฟใต้ดิน 2 ถึง 3 นาที ซึ่งเป็นแหล่งจำหน่ายสินค้าชั้นนำของญี่ปุ่น และมีสิ่งก่อสร้างขนาดใหญ่เป็นจำนวนมาก เช่น ห้างสรรพสินค้าเก่าแก่อย่าง
“กินซ่ามิตซึโคชิ” ร้านสินค้าแบรนด์หรูอย่าง “มัทสึยะกินซ่า” หรือ “วะโก สำนักงานใหญ่”
และร้านที่มีหลากหลายแบรนด์แฟชั่นอย่าง “ห้างแพรงต็องส์กินซ่า” เป็นต้น เรียกการ
เดินเล่นที่กินซ่าว่า “กินบุระ” มาตั้งแต่สมัยก่อน และการเดินเล่นที่กินซ่าพร้อมกับกินอาหารหรือซื้อของนั้นเป็นวิธีการเพลิดเพลินของผู้หญิงส่วนมาก ทั้งยังมีชื่อเสียงในเรื่อง
เป็นแหล่งซื้อของที่มีแสงไฟนีออนจากคลับและบาร์หรูส่องแสงสว่างในยามกลางคืนอีกด้วย สถานที่ที่นั่งรถไฟใต้ดินออกจากกินซ่าไปอีก 3 ถึง 4 นาทีคือ ซึกิจิ ที่ซึกิจิมี
ตลาดปลาที่ใหญ่ที่สุดในญี่ปุ่น (มีกำหนดการย้ายตลาดภายในไปโทโยสุในเดือนพฤศจิกายน ปี ค.ศ. 2016) และได้รวบรวมวัตถุดิบอาหารที่ผลิตได้จากภายในญี่ปุ่นไว้ช่วงหลังมานี้มีนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติมาเยี่ยมชมเป็นจำนวนมาก และเพลิดเพลินไปกับ
ความมีชีวิตชีวาของตลาด และอาหารบริเวณโดยรอบ ตลาดซึกิจิมีตลาดด้านในกับตลาดด้านนอก และนักท่องเที่ยวก็สามารถใช้บริการอุโอกาชิ โยโคโชของตลาดด้านในได้
มีร้านอาหารประมาณ 400 ร้านเรียงรายกันอยู่ที่ตลาดด้านนอก “วัดซึกิจิฮงกันจิ” ที่อยู่ฝั่งตะวันออกเฉียงเหนือของตลาดด้านนอกมีตัวโบสถ์สไตล์อินเดียที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว และเป็นที่รู้จักกันในฐานะหนึ่งในวัดตัวแทนของโตเกียว

เรียกได้ว่าเป็นห้องครัวของโตเกียวก็ว่าได้　เนื่องจากเป็นที่ตั้งของตลาดที่ใหญ่ที่สุดของญี่ปุ่น　ตลาดสึกิจิ มีบรรยากาศคึกคักของการประมูลปลาที่มาจากทั่วประเทศ　เเละมีนักท่องเที่ยวเป็นจำนวนมากที่ยอมตื่นเเต่เช้าเพื่อมาเข้าชม ตลาดสึกิจิเเบ่งเป็นฝั่งในกับฝั่งนอก　ฝั่งด้านในตลาดก็จะมีร้านขายปลา อุโอะงะชิโยโกะโจที่นักท่องเที่ยวนั้นก็สามาราถเลือกซื้อได้ ส่วนด้านนอกก็จะเป็นส่วนของร้านค้าเเละร้านอาหารมากกว่า400ร้าน　ถึงเเม้ว่าเดือนพฤศจิกายนปี2016ตลาดปลาจะย้ายไปที่โทโยสึ ร้านอาหารญี่ปุ่นที่ใช้ปลาสดๆบริเวณฝั่งนอกตลาดก็ยังคงเปิดให้บริการอยู่เหมือนเดิม เเละก็ยังมีของขายอยู่เหมือนเดิม ร้านขายปลา ของทะเล ลูกชิ้น สาหร่ายเเห้ง ปลาตากเเห้ง ผงปลาโอตากเเห้ง ผลิตภัณฑ์เเปรรูปต่างๆมีอยู่เรียงรายให้เลือกชิม เมื่อถูกใจก็สามารถซื้อกลับไปเป็นของฝากได้อีกด้วย
นอกจากนี้　ด้านฝั่งตะวันออกเฉียงเหนือของตัวตลาด ก็มีที่ท่องเที่ยวที่ห้ามพลาด วัดสึกิจิฮองงันจิ ตั้งเเต่สมัยเอโดะ ปี1617 ที่ย้ายมาจากอาซากุสะหลังเกิดไฟไหม้ครั้งใหญ่　เป็นตึกญี่ปุ่นเเต่สร้างเป็นเเบบสถาปัตยกรรมอินเดีย　ขั้นบันไดเหมือนวัง มีกระจกสีเเละเครื่องดนตรีไปป์ออร์แกนแบบโบสถ์ไสตล์ชาติตะวันตก ที่มีความโด่ดเด่นเฉพาะตัวเป็นอย่างมาก

สถานีโตเกียวเป็นสถานีขนาดใหญ่ที่รวมเส้นทางไว้มากมาย เช่น รถไฟใต้ดินเมโทร โตเกียว สาย JR ที่มีมาแต่เดิมและชินคันเซ็นที่มุ่งหน้าไปยังแต่ละท้องถิ่นของญี่ปุ่น สถานที่มองเห็นพระราชวังซึ่งเป็นปราสาทเอโดะในสมัยก่อนอยู่ทิศเหนือและได้กลาย เป็นประตูทางเข้าของโตเกียวสมกับคำร่ำลือ อาคารสถานีอิฐสีแดงสไตล์ย้อนยุคตามการ ออกแบบของ ทัทซึโนะ คินโกะ บิดาแห่งสถาปัตยกรรมสมัยใหม่ของญี่ปุ่น มีการตกแต่ง ภายในอันงดงามและเป็นหนึ่งในสถานที่ที่มีชื่อเสียงของโตเกียว ในปัจจุบันบริเวณรอบ ๆ สถานีได้ถูกพัฒนาใหม่ และอาคารสถานีก็ได้ซ่อมแซมให้กลับสู่สภาพเดิมตามสมัยที่เปิด บริการในปี ค.ศ. 1914 ด้วย นอกจากนั้นตึกที่สูงระฟ้าอย่างเช่น “หอคอยเซเปีย” หรือ “แกรนด์โตเกียว” ก็ได้สร้างเสร็จ และดำเนินการเตรียมความพร้อมของสถานที่ซึ่งขาย ของฝาก หรือข้าวกล่องภายในชานชาลาและถนนร้านดื่มกินภายในเวลาเดียวกัน และ “โตเกียว สเตชั่น ชิตี้” ก็ได้ถูกสร้างขึ้นมา เมื่อเดินไป 1 นาทีจากทางออกมารุโนะอุจิ สถานีโตเกียวมีย่านสำนักงานของมารุโนะอิจิอยู่ซึ่งเป็นเขตพื้นที่ชั้นหนึ่งที่มีอาคาร สำนักงานใหญ่ของธุรกิจชื่อดังหรือบริษัท ธนาคารใหญ่ ๆ ตั้งเรียงราย และได้กลายเป็น จุดศูนย์กลางเศรษฐกิจของญี่ปุ่น นอกจากนี้มารุโนะอุจินะกะโดริ ยังมีร้านค้าจำนวนมาก และร้านค้าแบรนด์หรูเรียงรายอยู่ตามถนนด้วย

อากิฮะบาระที่บรรลุผลสำเร็จในการเปลี่ยนโฉมหน้าให้เป็นเมืองแห่งเครื่องใช้ไฟฟ้า ตัวแทนของญี่ปุ่น ซึ่งเริ่มมาจากตลาดมืดที่ขายสินค้าขยะที่มาจากกองทหารประจำการ ในต่างถิ่นหลังจากสงคราม เมื่อก่อนเป็นศูนย์กลางร้านขายส่งเครื่องใช้ไฟฟ้าหรืออุปกรณ์ ไฟฟ้า และร้านเฉพาะทางชิ้นส่วน เป็นต้น และมีกลุ่มลูกค้าคนสำคัญมาอุดหนุน แต่สภาพ ของเมืองได้เปลี่ยนแปลงไปตามยุคสมัย เช่น ความเป็นที่นิยมของเครื่องเล่นเกมไฟฟ้า เป็นต้น ในปัจจุบันนี้มีร้านเฉพาะทางอนิเมะ การ์ตูน หรือร้านงานอดิเรกเป็นหลัก และ ก่อเกิดขึ้นมาเป็นเมืองแห่ง “โอตาคุ (กลุ่มบุคคลผู้ซึ่งลุ่มหลงในโลกแห่งการ์ตูนและ อนิเมชั่น)” ที่รู้จักกันดี สำหรับร้าน “เมดคาเฟ่” ที่ให้สาว ๆ แต่งกายเป็นสาวใช้ที่ไม่ว่า ลูกค้าคนไหนก็จะได้เป็น “นายท่าน” กันทุกคน การลองได้รับบริการที่ไม่ซ้ำแบบใคร ก็เป็นเรื่องที่น่าสนใจ มีโรงละครของ “AKB48” ซึ่งนำพาวัฒนธรรมไอดอลของญี่ปุ่น นอกจากจะจัดการแสดงอยู่เป็นประจำแล้วยังมี “AKB48 CAFE & SHOP” อยู่ใกล้ ๆ อีกด้วย สามารถซื้อของที่ระลึก หรือเพลิดเพลินไปกับเมนูอาหารว่างที่เกี่ยวข้องกับ สมาชิกได้ที่นี่ด้วย ในปัจจุบันมีการบุกตลาดอาคารอเนกประสงค์อย่างต่อเนื่องด้วยการ พัฒนาใหม่ ๆ อากิฮะบาระได้บรรลุเป้าหมายในหน้าที่สถานีเพราะการเปิดทำการซึคุบะ เอ็กเพรสที่กำลังจะเปิดเผยโฉมหน้าใหม่ ๆ อีก

เป็นที่ตั้งของวัดที่เก่าเเก่ที่สุดของโตเกียว　วัดเซ็นโซจิ　เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่หลงเหลือกลิ่นอายของสมัยเอโดะที่โดดเด่นของโตเกียว เมื่อเข้ามาทางประตูคามินาริมงที่มีโคมไฟยักษ์ ตามทางนากามิเซะโดหริก่อนจะถึงตัววัดร่วม250เมตร　จะครึกครื้นไปด้วยนักท่องเที่ยวที่ซื้อของตามร้านของฝาก ทั้งขนมเเละของเล่นต่างๆของญี่ปุ่นตั้งเเต่สมัยโบราณ รวมกว่า90ร้านเรียงราย เเป้งมันจูทอด ข้าวเหนียวปิ้งคิบิดังโกะ โยกังมันเทศ ข้าวเกรียบเซมเบ้ย่าง ขนมที่นิยมของชาวญี่ปุ่นมาช้านาน　ทำกันสดๆกันในร้าน　ให้เดินดูเดินชิมกันได้อย่างเพลิดเพลิน　เมื่อหลังจากสักการะวัดเซ็นโซจิเเล้ว ก็สามารถไปชิมอาหารของร้านเก่าเเก่อย่างปลาไหลย่างเเบบคาบะยากิ　หม้อไฟโดโจนาเบะ　มุหงิโทโระ　เทมปุระก็มีอยู่มากมาย เเละยังมีที่ให้ลองประสบการณ์ทางวัฒนธรรมให้เช่าลองชุดกิโมโน ทัวร์นั่งรถคนลาก หรือทัวร์ล่องเเม่น้ำสุมิดะ ที่เป็นการท่องเที่ยวมุมมองใหม่ไปอีกเเบบ
ส่วนทางอีกฝั่งของเเม่น้ำสุมิดะก็จะมีหอสกายทรีที่เป็นเเหล่งท่องเที่ยวใหม่　เพียงออกจากประตูคามินาริมง　ไปทางซ้าย ข้ามสะพานอาซึมะบาชิ ไปตามถนนอาซากุสะ　ผ่านสะพานนาริฮิระบาชิ　ข้ามไปจะเจอทางด้านซ้ายมือทันที เรียกว่าเป็นเขตที่สามารถเพลิดเพลินกับความทันสมัยเเละความโบราณได้ทั้งสองด้านเลยทีเดียว

ทั้งสวนสัตว์　หอศิลป์ พิพิธภัณฑ์สถาน เมืองเเห่งศิลปะเเละวัฒนธรรม ในสวนสัตว์อุเอโนะ มีหมีเเพนด้ายักษ์ที่เป็นที่นิยมอย่างสูง นั้นเปิดมาตั้งเเค่ปี1882 เป็นสวนสัตว์เเห่งเเรกของประเทศญี่ปุ่น มีทั้งหมีขั้วโลก ลิงกอลิล่า ยีราฟ สัตว์ต่างๆกว่า500ชนิดในสวนสัตว์ เเละยังมีพิพิธภัณฑ์ธรรมชาติและวิทยาศาสตร์แห่งชาติซึ่งเป็นพิพิธภัณฑ์สถานที่เก่าเเก่ที่สุดของญี่ปุ่น　เเละพิพิธภัณฑ์ศิลปะกรุงโตเกียวซึ่งเป็นพิพิธภัณฑ์ศิลปะเเห่งเเรกของรัฐที่สร้างมาตั้งเเต่ปี1926 เเม้เเค่บริเวณด้านนอกก็ควรเข้าไปชมยิ่งนัก ติดกับสวนอุโอเนะออนชินั้นจะมีอนุสาวรีย์ของไซโก ทากาโมริ ซามุไรเเละนักการเมืองที่มีชื่อเสียงที่คนญี่ปุ่นทุกคนต้องรู้จัก　ในฤดูใบไม้ผลิก็จะเป็นเเหล่งชมดอกซากุระบานที่ครึกครื้นโดยผู้คนจำนวนมากที่เข้ามาชม　เเละในช่วงประมาณเดือน7-8 ก็จะสามารถชมดอกบัวบานของบ่อชิโนบาซึโนะอิเคะ ในสวน ที่มีเขียนไว้ในภาพอุกิโยในสมัยเอโดะ
อีกหนึ่งสถานที่ที่ได้รับความนิยมอย่างมากคือตลาดอาเมะยะโยโกโจ
หรือเรียกสั้นๆว่า“อาเมโยโกะ”ซึ่งมีเรื่องเล่าว่ามาจากการที่มีร้านกระจายขายของของเหล่ากองทัพอเมริกาเป็นจำนวนมาก ภายหลังช่วงสิ้นสุดสงครามโลก จึงได้ชื่อนี้มา ตลอดทางระยะ400เมตร เต็มไปด้วยร้านขายของอาหารของกิน เสื้อผ้า สินค้าเบ็ดเตล็ด หลากหลายตั้งเเต่ราคาถูกจนถึงของราคาเเพง

รปปงหงิตั้งอยู่ในเขตมินาโตะซึ่งอยู่ในส่วนตะวันตกเฉียงใต้ของโตเกียว ซึ่งเป็นแหล่งซื้อ ของที่คับคั่งไปด้วยผู้คนมากที่สุดแห่งหนึ่งในโตเกียว แต่ในปัจจุบันมีการพัฒนาให้เป็น ย่านสำนักงานมากขึ้นด้วย พื้นที่หนึ่งซึ่งเรียกว่า “รปปหงงิฮิลส์” มีศูนย์กลางเป็นจุดชมวิวคือ “โมริทาวเวอร์” และรวมไปด้วยโรงแรม บริษัทโทรทัศน์ และอพาร์ทเมนต์หรู “โมริทาวเวอร์” เป็นอาคารสูงจากพื้นดิน 54 ชั้น ซึ่งสามารถชมวิวของโตเกียวได้ทั่วจาก “Sky deck” ที่อยู่บน “Tokyo city view” ที่มีทางเดินชมวิวภายในอาคารสูงจาก ระดับน้ำทะเล 250 เมตร และทางเดินชมวิวนอกอาคารสูงจากระดับน้ำทะเล 270 เมตร และสามารถมองเห็นโตเกียวทาวเวอร์อยู่ใกล้ ๆ ได้อีกด้วย ฝั่งตรงข้ามของ “รปปงหงิฮิลส์” คือ “โตเกียวมิดทาวน์” ที่นี่เป็นอาคารอเนกประสงค์ที่รวบรวมสำนักงาน แหล่งซื้อของ และโรงแรม เป็นต้น จุดสังเกต “มิดทาวน์ ทาวเวอร์” เป็นตึกระฟ้าที่สูงที่สุดแห่งหนึ่งใน โตเกียว นอกจากนี้ยังมีสถานทูตสเปนกับสวีเดนและสิ่งก่อสร้างที่เกี่ยวข้องกับ ทหารอเมริกันในบริเวณรปปงหงิ และเนื่องจากมีธุรกิจร่วมหุ้นต่างประเทศอยู่มาก จึงมี เอกลักษณ์โดดเด่นตรงที่ชาวต่างประเทศรวมตัวกันอยู่มากอีกด้วย

บริเวณธุรกิจการค้าที่มีสถานีอิเคะบุคุโระซึ่งมีสาย JR ยามาโนเทะ รถไฟสายเซบุและ รถไฟใต้ดินเมโทรโตเกียวเป็นศูนย์กลาง ตั้งอยู่ทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือของโตเกียว และมี “ซันไชน์ซิตี้” เป็นจุดสังเกต ตึกระฟ้าสูงจากพื้นดิน 60 ชั้นและมีชั้นใต้ดิน 4 ชั้น และเปิดทำการในฐานะอาคารอเนกประสงค์ขนาดใหญ่แห่งแรกของญี่ปุ่นในปี ค.ศ. 1973 มีสิ่งอำนวยความสะดวกทางการค้าขายและสิ่งให้ความบันเทิงอยู่หลากหลาย เช่น “ซันไชน์ 60” ที่มีจุดชมวิว พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำภายในอาคารและหอดูดาว “เวิลด์ อิมพอร์ท มาร์ท” ที่มี “นัมจะทาวน์” สวนสนุกภายในอาคาร โรงละครซันไชน์และโรงแรมพริ้นส์ เป็นต้น “J-WORLD TOKYO” โลกแห่งการ์ตูนที่ลงพิมพ์อยู่ใน “โชเนนจัมพ์รายสัปดาห์” ก็เป็นจุดที่แฟนอนิเมะจะพลาดไปไม่ได้ “สเตเดี่ยมเกี๊ยวซ่านัมจะ” และ “ฟุคุบุคุโระ เดซาโตะ โยโคโช” ภายในนัมจะทาวน์ก็เป็นที่นิยมด้วยเช่นกัน นอกจากนั้นแล้วยังมี “ห้างสรรพสินค้าโทบุ” และ “ลูมิเนะอิเคะบุคุโระ” “โรงละครศิลปะโตเกียว” อยู่ทางออก ฝั่งตะวันตกของสถานี มี “ห้างสรรพสินค้าเซบุ” และ “อิเคะบุคุโระ พาร์โค” อยู่ทางออก ฝั่งตะวันออก ซึ่งเป็นบริเวณที่สามารถเที่ยวได้ทั้งวัน

ชินจูกุที่มีศาลาว่าการโตเกียวซึ่งอยู่ฝั่งตะวันตกของเมืองโตเกียวนั้นเป็นพื้นที่น่าตื่นเต้น ที่มีผู้คนคับคั่งทั้งกลางวันและกลางคืน ทั้งยังมีห้างสรรพสินค้าชั้นนำเรียงรายอยู่ เช่น “อิเซตัน” “ทาคาชิมายะ” “ห้างสรรพสินค้าเคโอ” “ห้างสรรพสินค้าโอดะคิว” เป็นต้น ในบรรดาห้างสรรพสินค้าทั้งหมดนั้น “อิเซตัน” ถือเป็นจุดสังเกตของชินจูกุ ที่ครบครันไป ด้วยแฟชั่นทั้งในและนอกประเทศกับสินค้าจิปาถะ และชั้นใต้ดินมีขนมหวานที่เป็นที่ นิยมขนาดมีคิวของเหล่าผู้หญิงอยู่บ่อย ๆ ศาลากลางโตเกียวมีความภาคภูมิใจในความสูง เป็นอันดับหนึ่งในบรรดาตึกระฟ้าทั้งหมดของชินจูกุ มีห้องชมวิวสองแห่งคือทิศเหนือกับ ทิศใต้ และมีความสูงจากพื้นดิน 202 เมตร ซึ่งสามารถเพลิดเพลินกับทิวทัศน์ได้ โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย สามารถชมสถานที่ขึ้นชื่ออย่าง TOKYO SKYTREE(R) หรือ โตเกียวทาวเวอร์ และรปปงหงิฮิลส์ได้ และถ้าอากาศดีก็จะสามารถมองเห็นภูเขาไฟฟูจิ ได้อีกด้วย ถ้าอยากสัมผัสกับประสบการณ์วัฒนธรรมตลกของญี่ปุ่นก็ต้องที่ “ลูมิเนะ เดอะ โยชิโมโตะ” ซึ่งสามารถเพลิดเพลินได้กับมันไซ (การเล่าเรื่องตลกที่มีผู้แสดงสองคน) และการแสดงตลก “ชินจูกุเกียวเอน” เป็นสวนสาธารณะขนาดใหญ่ที่ถูกสร้างขึ้นเพื่อเป็น สวนของพระราชวงศ์ซึ่งอุดมสมบูรณ์ไปด้วยต้นไม้และได้กลายเป็นโอเอซิสของเมืองหลวง ชินจูกุเป็นที่รู้จักกันในฐานะเป็นแหล่งบันเทิงขนาดใหญ่ตอนกลางคืน และในตอนกลางวัน ได้แสดงให้เห็นถึงอีกโฉมหน้าหนึ่งซึ่งเป็นแหล่งซื้อของและสำนักงาน

เริ่มตั้งแต่ ห้างSHIBUYA109 ห้างชิบุย่าฮิคาริเอะ ห้างปารุโกะ ห้างมารุอิ เป็นย่านที่ต้องนึกถึงวัยรุ่น ด้านหน้าของสถานีมีอนุสาวรีย์สุนัขฮาจิโกะ ที่เป็นเรื่องราวที่ถูกไปสร้างเป็นภาพยนตร์มาเเล้ว เเละก็เป็นสถานที่ที่ผู้คนใช้เป็นจุดนัดพบกันอีกด้วย ตรงข้ามกับอนุสาวรีย์ฮาจิโกะนั้นก็จะมี ห้าเเยกชิบุย่า ที่กลายเป็นจุดท่องเที่ยวสำคัญไปเเล้ว เมื่อเวลาไฟเเดงเเล้วรถหยุด ผู้คนก็จะเดินข้ามกันไปมา เป็นภาพที่เเสดงถึงความเป็นสัญลักษณ์ของโตเกียวเมืองใหญ่ นอกจากนี้ยังมีบ้านอาซากุระ　สวนนาเบชิม่าโชโต　พิพิธภัณฑ์ศิลปะยามาทาเนะ　ศาลเจ้าคนโนฮาจิมังกู สถานที่ทางประวัติศาสตร์เเละวัฒนธรรมอยู่หลายเเห่งที่สามารถเเวะเข้าไประหว่างช็อปปิ้งได้
เรื่องการกินก็มีร้านอร่อยคุ้มค่าอยู่มากมาย ร้านฟาสต์ฟูด คาเฟ่ชิกๆ ร้านราเมงร้านซูชิ อาหารของโตเกียวที่ราคาคุ้มค่าเพลิดเพลินในย่านนี้ได้ อีกทั้งถ้าเดินไปอีกหน่อยก็สามารถทะลุไปยังย่านเก๋ๆอย่าง ฮาราจูกุ โอโมเตะซันโดะ เอบิสึ ได้

เสื้อผ้าเเฟชั่นสบายๆสินค้าเบ็ดเตล็ดราคาถูก　หลากหลายร้านค้าสำหรับวัยรุ่น　ที่มีประวัติมานานหลายสิบปี ระยะทางความยาวประมาณ350เมตรของถนนทาเกชิตะโดหริ　เต็นไปด้วยร้านขายเสื้อมือสอง　เเละสินค้าเบ็ดเตล็ดอย่างเเน่นขนัด ทั้งร้านการ์ตูนร้านขายที่ระลึกของดารา　ในวันธรรมดาช่วงเวลาเย็นเเละวันหยุดสุดสัปดาห์จะครึกครื้นไปด้วยเหล่าวัยรุ่น การเดินทานเครประหว่างการเดินชมของในทาเกชิตะโดหริ　ก็เป็นเอกลักษณ์ของฮาราจุกุ　ด้านหลังฮาราจุกุกับเเคทสตรีท ที่เต็มไปด้วยย่านของร้านเเฟชั่นหลากหลาย　เป็นเเหล่งที่สาวๆผู้รักในเเฟชั่นนั้นห้ามพลาดเป็นอันขาด ท่ามกลางย่านอันครึกครื้นนั้นก็มีสถานที่อันเงียบสงบเต็มไปด้วยต้นไม้　ที่ศาลเจ้าเมจิจิงกู เป็นศาลเจ้าที่ว่ากันว่ามีผู้เดินทางมาสักการะเป็นจำนวนมากที่สุดของญี่ปุ่น　ต้นไม้บริจาคกว่า100,000ต้นภายในพื้นที่ป่าขนาดใหญ่กว่า700,000ตารางเมตร　หลุดพ้นจากความอึกทึกของเมืองมาเดินหย่อนใจก็ดีไม่ใช่น้อย นอกจากนั้นถ้าเดินต่อมาก็จะเป็นสวนโยโยหงิ　สวนสาธารณะใหญ่ที่เต็มไปด้วยต้นไม้เพื่อการพักผ่อนคลาย　เเละในช่วงเกือบทุกสุดสัปดาห์ ก็จะมีการจัดเทศกาลต่างๆ ภายในสวน ทั้งวันคุ้มครองโลก ตลาดของเก่า เทศกาลไทย เทศกาลเวียดนาม อื่นๆมากมาย