HOME พื้นที่โดยรอบมหานครโตเกียว โตเกียว สึกิจิ "สึคุดะและสึคิชิมะ" ที่ไม่ได้มีเฉพาะแค่สึคุดะนิ (อาหารต้มซีอิ้ว) และขนมมอนจายากิเท่านั้น

"สึคุดะและสึคิชิมะ" ที่ไม่ได้มีเฉพาะแค่สึคุดะนิ (อาหารต้มซีอิ้ว) และขนมมอนจายากิเท่านั้น

Last updated: 30 ต.ค. 2561

"พื้นที่แถบสึคุดะ/สึคิชิมะ" ที่คนส่วนใหญ่มักจะนึกถึงอาหารต้มซีอิ้วและขนมมอนจายากิ เป็นเมืองที่ถ่ายทอดได้ถึงรสนิยมของความเป็นชานเมืองใหญ่ซึ่งเป็นแถบอาศัยของพ่อค้าและช่างฝีมือซึ่งมีความเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวที่ผสมผสานระหว่างอาคารที่มีการปรับปรุงใหม่ และบรรยากาศแบบชานเมืองเข้าด้วยกัน　ภาพจาก: สมาคมการท่องเที่ยวเขตจูโอ

พื้นที่แถบสึคุดะและสึคิชิมะที่ขยายกว้างเลียบไปตามแม่น้ำสุมิดะนั้น
เป็นเมืองที่ยังคงมีกลิ่นอายของชานเมืองแบบเก่า ๆ หลงเหลืออยู่
แต่เนื่องด้วยอิทธิพลจากงานโอลิมปิกที่จะจัดขึ้นในโตเกียวปี ค.ศ. 2020 จึงเริ่มมีการปรับปรุงพัฒนาขึ้น ในขณะที่แมนชั่นสูงและอาคาร
ต่าง ๆ ก็กำลังเริ่มมีการก่อสร้างขึ้น ท่ามกลางเขตที่อยู่อาศัยที่อบอวลไปด้วยบรรยากาศแบบชานเมืองปลีกตัวออกมาเรียงรายอยู่อีกด้านหนึ่ง
ด้วยเช่นกัน ทำให้รู้สึกเพลิดเพลินไปกับการเปรียบเทียบสิ่งของ
ที่เป็นแบบใหม่และแบบเก่าพร้อมอยากจะมาเดินเล่น

เมื่อเดินไปตามบริเวณสึคิชิมะแล้ว จะสามารถพบเห็นผู้คนที่อาศัยอยู่ในเมืองนี้มาตั้งแต่สมัยก่อนได้ ไม่ว่าจะเป็นพื้นที่หน้าบ้านแคบ ๆ กับกระถางต้นไม้ที่เรียงรายกันบ้าง เครื่องซักผ้าที่นำออกมาวางด้านนอก
บ้างหรือแม้แต่ร้านอิซากายะที่ประดับไปด้วยโคมไฟกระดาษบ้าง
ซึ่งมีแต่บรรยากาศที่ชวนให้คิดถึงวันวานอยู่เต็มไปหมด หากพบเห็นผู้สูงอายุที่นั่งพักอยู่ตามเก้าอี้ทรงกลมตามถนนและทางเดินแล้ว ลองเข้าไปทักทายพูดคุยดูก็ดีเหมือนกันเพราะผู้สูงอายุตามชานเมืองมักจะมี
อัธยาศัยดีและบางทีอาจจะมีโอกาสได้แลกเปลี่ยนวัฒนธรรมกันผ่านทางคำพูดด้วยก็เป็นได้

ย่านชานเมืองของโตเกียวนั้นมีบริเวณที่อบอวลไปด้วยบรรยากาศอันแสนอบอุ่นของความเป็นชานเมืองอยู่ตามริมฝั่งแม่น้ำหลายแห่งด้วยกัน
"สวนสาธารณะสึคุดะ" เองก็เป็นหนึ่งในนั้นโดยสวนสาธารณะที่มีสะพานจูโอใหญ่ (จูโอโอบาชิ) อยู่ทางฝั่งทิศตะวันตก และทอดต่อไปเป็นแนวยาวเลียบแม่น้ำสุมิดะแห่งนี้ มีประภาคารที่ฟื้นฟูปรับปรุงขึ้นมาใหม่หลังการใช้งานมาแล้วหลายร้อยปีตั้งอยู่ ถ้าพูดถึงแม่น้ำสุมิดะแล้วนับว่าเป็นแม่น้ำที่ให้ความรู้สึกราวกับเป็นสัญลักษณ์แห่งความเป็นชานเมือง
ในโตเกียวได้อย่างดีเลยทีเดียว ในฤดูร้อนจะมีบ้านเรือล่องผ่านผิวน้ำและมีจัดเทศกาลดอกไม้ไฟที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในญี่ปุ่นอีกด้วย นอกจากนี้ตามริมฝั่งแม่น้ำสุมิดะทั้งสองฝั่งและยังมีส่วนที่สร้างยื่นลงไปในแม่น้ำสำหรับชมวิวแม่น้ำที่เรียกว่า "Sumidagawa Terrace" อีกด้วยเพียงแค่เดินไปตามริมฝั่งแม่น้ำเท่านั้น รับรองว่าคุณจะต้องเห็นโตเกียวในมุมมองที่แตกต่างออกไปอย่างแน่นอน
ภาพจาก: สมาคมท่องเที่ยวเขตจูโอ

จากสวนสาธารณะสึคุดะก่อนจะข้ามสะพานเล็กสุมิโยชิจะมี
"ศาลเจ้าสุมิโยชิ" ตั้งอยู่ตรงข้ามกับศาลเจ้ามีอาคารแมนชั่นสูงตั้งอยู่มากมาย ทำให้เราสามารถเห็นความเป็นสึคุดะและสึคิชิมะได้ด้วย
นอกจากนี้ ศาลเจ้าแห่งนี้ยังก่อตั้งมาตั้งแต่ปี ค.ศ. 1646 เป็นศาลเจ้าริมน้ำและได้รับความเชื่อถือศรัทธาจากคนในท้องถิ่นในฐานะเทพผู้ปกปัก
รักษาเรือ

ที่ปลายน้ำของแม่น้ำสุมิดะนั้นจะมีสะพานคาชิโดคิตั้งอยู่ซึ่งเป็นสะพานแบบเปิด-ปิดได้ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในญี่ปุ่น และเป็นสะพานที่มีคุณค่าทางด้านประวัติศาสตร์ เป็นสมบัติทางวัฒนธรรมของชาติที่สำคัญถ้าอยากดูสะพานคาชิโดคิล่ะก็ ไปที่ Sumidagawa Terrace กันเถอะ ที่นี่เราสามารถกินลมชมแม่น้ำไปพร้อม ๆ กับดูภาพรวมของสะพานคาชิโดคิ แม่น้ำสุมิดะ และอาคารสูงไปพร้อมกันได้ทั้งหมด ช่วงเย็นที่มีการเปิดไฟไลท์อัพที่สุดยอดไม่แพ้กัน แม้ว่าในปัจจุบันสะพานดังกล่าวจะเลิกทำการเปิด-ปิด ไปแล้วเนื่องจากปัญหาจราจรติดขัด แต่ก็ยังสามารถที่จะชมเครื่องจักรขนาดใหญ่ที่ใช้เปิด-ปิดสะพานได้ที่ "พิพิธภัณฑ์ข้อมูลสะพานคาชิโดคิ" ที่อยู่ใกล้กับสะพานนี้