หากเดินในโตเกียวยามค่ำ คงจะเห็นภาพที่หนุ่มสาวออฟฟิสกำลังโค้งคำนับที่ทั้งเป็นการทักทาย และการกล่าวลากันใช่ไหม
แล้วจะต้องโค้งกันตอนไหน ต้องโค้งถึงไหนถึงจะเรียกว่าถูกต้องกัน การโค้งนี้บางทีก็ทำให้ชาวต่างชาตินั้นลำบากใจ แค่ภาษาญี่ปุ่นที่บางทีก็ใช้ภาษาสุภาพตามคู่สนทนาก็ถือว่าเป็นลักษณะเด่นมากแล้ว การโค้งก็เช่นกัน เป็นการแสดงออกถึงความเคารพและการให้เกียรติฝ่ายตรงข้าม แม้ว่าการทำความเข้าใจความต่างของการโค้งแต่ละแบบเป็นเรื่องยาก แต่ว่าหากต้องการทำความเข้าใจสังคมญี่ปุ่นแล้วล่ะก็ รู้ไว้ก็ไม่เสียหาย
ครั้งนี้เราจะมาทำความเข้าใจเกี่ยวกับวิธีการโค้งแบบพื้นฐานกัน
การโค้งในตอนนี้และอดีต
ว่ากันว่าคนญี่ปุ่นเริ่มนำวัฒนธรรมการโค้งมาใช้ เมื่อ 500 – 800 ปีก่อนเมื่อพระพุทธศาสนาจากประเทศจีน เข้ามาในญี่ปุ่น ในตอนนั้นการโค้งคำนับใช้แสดงถึงความสัมพันธ์สูงต่ำ เช่น เมื่อต้องต้อนรับบุุคคลที่มีสถานะสูงกว่าตน จะต้องทำให้ร่างกายของตนนั้นต่ำกว่าบุคคลนั้นเพื่อแสดงให้เห็นว่าไม่ได้มีเจตนาจะทำตัวเป็นใหญ่กว่า ซึ่งภาพเหตุการณ์แบบนี้มักเห็นตามหนังตามการแสดงละครย้อนยุค หากยกตัวอย่างลักษณะท่าทางที่คล้ายกับการคุกเข่าต่อผู้มีอำนาจอย่างพระมหากษัตริย์ หรือราชินีแล้วก็คงจะเข้าใจกันได้ง่ายขึ้น
สำหรับญี่ปุ่นปัจจุบัน การโค้งได้ถูกนำมาใช้ในหลายสถานการณ์ เช่น เมื่อทำผิดและต้องการจะแสดงความขอโทษ การแสดงยินดี เมื่อต้องการขอร้อง หรือแสดงความขอบคุณ เป็นมารยาทสังคมพื้นฐานที่ไม่ว่าเด็กหรือผู้ใหญ่จะต้องเรียนรู้
หัวใจสำคัญของการโค้ง
การโค้งนั้นมีทั้งแบบนั่งและแบบยืน ไม่ว่าลักษณะไหนก็มีข้อควรระวังอยู่สามสิ่ง ได้แก่ ห้ามงอหลัง ห้ามงอขาและสะโพก ห้ามหายใจเข้าขณะก้มหัวและเมื่อกลับมาในท่าปกติห้ามหายใจออก นอกจากนี้ก็ไม่มีอะไรผิดแปลกไปจากพื้นฐาน การโค้งนั้นมีหลากหลายรูปแบบตามข้อมูลด้านล่าง
การทักทาย
เมื่อฝ่ายตรงข้ามเป็นญาติพี่น้องหรือเพื่อนฝูงจะผงกศรีษะเบาๆ ก็ได้ หากเป็นเพื่อนร่วมงานหรือเพื่อนของเพื่อนนั้นจะต้องโค้งทักทาย ซึ่งการโค้งทักทายนี้ปกติจะกล่าวทักทายว่า “สวัสดีครับ/ค่ะ” “ขอบคุณที่ทำงานอย่างหนัก” เป็นต้นด้วย และจะโค้งประมาณ 15 องศา
การแสดงความเคารพแบบเซนเร
การแสดงความเคารพแบบเซนเรจะต้องกระทำในท่านั่ง และใช้ในพิธีทางการหรือกึ่งทางการ โดยโค้งศรีษะประมาณ 30 องศา และจะไม่เงยหน้าขึ้นโดยทันที จะต้องโค้งค้างไว้ราวๆ 2 – 3 วินาทีถึงจะเรียกว่าเป็นการโค้งที่ถูกต้อง
การแสดงความเคารพแบบเคเร
การโค้งแบบเคเรที่ถูกต้อง จะต้องกระทำในท่ายืน และโค้งประมาณ 30 องศา โดยปกติแล้วจะใช้ต้อนรับหรือส่งแขก หรือแสดงคาวมขอบคุณ นอกจากนี้ยังใช้กับผู้ที่เคยเจอกันครั้งแรกอีกด้วย
การโค้งแบบ “ไซเคเร” และ “ฉะไซ”
การโค้งแบบนี้ จะไม่ค่อยพบเห็นเท่าใดนัก จะทำต่อเจ้านาย พ่อแม่ของคู่สมรส หรือแขกคนสำคัญ เป็นต้น โดยจะโค้งศรีษะราวๆ 45 องศา และจะอยู่ในท่านั้นประมาณ 3 วินาที ถึงจะเรียกว่าเป็นการโค้งที่ถูกต้อง มักใช้เวลาที่ต้องการขอโทษมากๆ หรือ ต้องการแสดงความเคารพจากใจ
นอกจากนี้ยังมีการโค้งที่สุภาพและหายากมากๆ คือการโค้งแบบ “ฉะไซ (การขอโทษ)” การโค้งแบบนี้จะต้องโค้งประมาณ 70 องศา และจะต้องค้างอยู่อย่างนั้นประมาณ 4 วินาทีถึงจะเรียกว่าเป็นการโค้งอย่างถูดต้อง โดยปกติการโค้งแบบนี้จะกระทำเมื่อต้องการขอโทษแขกคนสำคัญเมื่อบริษัทได้กระทำความผิดอันใหญ่หลวง
ฝึกฝนทักษะการโค้งให้ชำนาญกันเถอะ
นอกจากที่กล่าวไป ยังมีการโค้งอยู่อีกหลายแบบ ซึ่งส่วนมากเป็นการโค้งที่ใช้ในกิจกรรมทางศาสนาเท่านั้น การจำกฏของการโค้งให้หมดในคราวเดียวนั้น ถือว่าเป็นเรื่องยากเพราะฉะนั้น เราจะมาสรุปให้เหลือเพียง 2 ประเด็น อย่างแรกคือ ระดับการโค้ง ยิ่งฝ่ายตรงข้ามสูงกว่าเราเท่าใด หรือยิ่งเป็นทางการมากเท่าใด ก็จะต้องยิ่งโค้งให้ต่ำมากเท่านั้น และการประสานไหว้ไปด้วยขณะโค้งนั้นถือว่าเป็นสิ่งที่ไม่ถูกต้อง การโค้งแบบนี้ปัจจุบันจะทำที่ศาลเจ้าเวลาไหว้พระขอพรเท่านั้น
การโค้งนั้นเป็นสิ่งที่อยู่คู่กับสังคมญี่ปุ่น เพราะฉะนั้นคนญี่ปุ่นมักจะทำจนติดเป็นนิสัย เราอาจเห็นคนญี่ปุ่นที่โค้งให้คู่สนทนาไปด้วยขณะโทรศัพท์ ซึ่งอาจกล่าวได้ว่าการให้เกียรติและให้ความเคารพต่อฝ่ายตรงข้ามแบบนี้เป็นคุณลักษณะอันโดดเด่นที่เติบโตขึ้นมาในประวัติศาสตร์อันยาวนานของคนญี่ปุ่นก็เป็นได้
*Prices and options mentioned are subject to change.
*Unless stated otherwise, all prices include tax.
Recommended places for you
-
กูรูด้านอาหารต้องรู้! รวมคำศัพท์ “เฉพาะเกี่ยวกับอาหารญี่ปุ่น” ที่สามารถใช้ได้ในร้านอาหาร
-
ไม่ต้องไปไกลถึงฟุคุโอกะ ก็ทานราเม็งซุปกระดูกหมูสูตรเด็ดในโตเกียวได้!
-
[MOVIE] ไปดูโชว์แล่ปลามากุโร่และลิ้มรสปลาสดๆแล่ใหม่ๆกันเถอะ!
-
เส้นทางยอดนิยมสำหรับท่องเที่ยวอะตะมิ
-
5 จุดแนะนำสำหรับท่องเที่ยวมือเปล่ารอบ ๆ นาริตะ เหมาะกับเวลาว่างก่อนหรือหลังขึ้นเครื่อง!
-
[คู่มือท่องเที่ยวนิกโก้] ไม่ได้มีเพียงแค่ใบไม้เปลี่ยนสีในฤดูใบไม้ร่วงเท่านั้น! ยังรวบรวมกิจกรรมและสถานที่ท่องเที่ยวแนะนำในแต่ละฤดูกาล
-
Top Ranked Hakone Hotels with Mt. Fuji View: Enjoy Stunning Scenery from Your Private Space
-
Convenient Tokyo Hotels with Airport Shuttle: Ideal for Families and Heavy Luggage
-
Stunning Tokyo Tower View Hotels: Enjoy Spectacular Scenery from Your Private Space
-
Family-Friendly Hotels with Free Shuttle to Disneyland: Convenient Access for a Magical Stay
-
Convenient Asakusa Hotels with Kitchens: Ideal for Extended Family Visits
-
Experience Luxury: Hakone's 10 Best Five-Star Accommodations
-
Enjoy Mt. Fuji Autumn Leaves! Top Hotels Near the Popular Autumn Leaves Corridor
-
Experience Hakone Fall Foliage from Your Room with Stunning Views
-
Enjoy Mt. Fuji from the Comfort of Your Room! Recommended Ryokan with Mt. Fuji View
-
Experience Luxury at Mt. Fuji Resort Hotels! Best Extended Stay Options for Families