เมื่อพูดถึงสถานที่ท่องเที่ยวในฤดูใบไม้ผลิของจิจิบุคงหนีไม่พ้น ภาพแสนเพลินตาจากทุ่งแห่งสีสันสวยงามที่ถูกรังสรรค์ด้วยสีชมพู สีขาว และสีม่วงอ่อนจาก “ดอกชิบะซากุระแห่งสวนสาธารณะมิตสึจิยามะ” บนพื้นที่ขนาดใหญ่ประมาณ 17,600 ตารางเมตร ที่เต็มไปด้วยดอกชิบะซากุระกว่า 400,000 ต้น จาก 9 สายพันธุ์ ซึ่งตอนที่เบ่งบานเต็มที่และมีสีสันที่สดใสไล่โทนกันอย่างงดงาม และในวันที่ท้องฟ้าแจ่มใสคุณจะได้เห็นภูเขาบุโค อันเป็นสัญลักษณ์ของจิจิบุ หนึ่งใน 200 ภูเขาที่มีชื่อเสียงของประเทศญี่ปุ่นเป็นฉากหลังตัดกับสีสันของพรมดอกไม้ที่บานสะพรั่ง

ในช่วงเวลาที่ดอกชิบะซากุระกำลังเบ่งบานนั้น (ระหว่างเดือนเมษายนถึงต้นเดือนพฤษภาคม) จะมีตลาด “จิจิบุจิโนะโตคุซันอิจิ” ที่เต็มไปด้วยร้านค้าชั่วคราวและสินค้าท้องถิ่นตามแบบฉบับของเมืองจิจิบุจำนวนมากเพื่อให้นักท่องเที่ยวเลือกซื้อได้อย่างเพลิดเพลิน และในสวนสาธารณะแห่งนี้จะมีการแบ่งพื้นที่สำหรับนักท่องเที่ยวที่มาเป็นครอบครัวไว้ด้วย เช่น พื้นที่ฟาร์ม “ฟุเรไอมาคิบะ” ที่สามารถสัมผัสและเล่นกับแกะ หรือพื้นที่ลานสนามหญ้า “ชิบาฟุฮิโรบะ” ที่สามารถนั่งชมดอกไม้ใต้ต้นซากุระได้ เป็นต้น

กิจกรรมยอดนิยมสำหรับฤดูร้อนในจิจิบุคือ “ล่องแพในนางาโตโระ” สนุกสนานกับประสบการณ์ในการล่องแพโยนตัวไปตามจังหวะของเกลียวคลื่นด้วยเรือแบบญี่ปุ่น ชื่นชม “ก้อนหินนางาโตโระ” ที่ได้รับการสงวนให้เป็นสมบัติทางธรรมชาติที่งดงามของประเทศ และสัมผัสกับน้ำใสไหลเย็น นอกจากนี้ยังมีเส้นทางที่ให้คุณค่อยๆล่องแพในเส้นทางน้ำที่ไหลเอื่อย เพื่อชมสัตว์ป่า เช่น เป็ดป่า ได้อีกด้วย

จุดเด่นคือ คุณสามารถเลือกเส้นทางการล่องแพได้ ไม่ว่าจะเป็นเส้นทางระยะสั้น 3 กิโลเมตร ด้วยความรวดเร็วในเวลา 20 นาที หรือเส้นทางระยะ 6 กิโลเมตร ที่ใช้เวลา 40 นาที ซึ่งเส้นทางเหล่านี้จะมีให้บริการแค่เฉพาะวันเสาร์และวันอาทิตย์เท่านั้น ถ้าโชคดีคุณจะได้เห็นรถจักรไอน้ำแล่นผ่านอีกด้วย

นอกจากนี้ ยังมีร้านขายน้ำแข็งไสที่มีชื่อเสียงชื่อ “อาซามิเรอิโซ” ที่รอคอยให้คุณมาลิ้มลองของหวานที่เป็นตัวแทนของประเทศญี่ปุ่นเพื่อเพิ่มความเย็นสดชื่นหลังจากการล่องแพ

ขบวนรถจักรไอน้ำ "SL Paleo Express" ส่วนใหญ่จะใช้หัวรถจักรไอน้ำรุ่น SL C58 363 ซึ่งครั้งหนึ่งเคยมีบทบาทอย่างมากในภูมิภาคโทโฮคุของประเทศญี่ปุ่น ซึ่งจะพาคุณเดินทางด้วยรถไฟไปอย่างสนุกเพลิดเพลิน เต็มเปี่ยมไปด้วยพลัง จากสถานีคุมางายะในจังหวัดไซตามะ เชื่อมต่อมายังสถานีมิตสึมิเนกุจิ โดยเปิดให้บริการในช่วงเดือนมีนาคมถึงเดือนธันวาคม และช่วงเวลาที่อยากแนะนำให้มาเยือนคือ ฤดูใบร่วงที่เมืองจิจิบุจะถูกแต่งแต้มไปด้วยสีสันของใบไม้เปลี่ยนสี และคุณสามารถชื่นชมความงามของผืนป่าที่ถูกย้อมสีแดงและสีเหลืองระหว่างนั่งอยู่ในขบวนรถไฟที่วิ่งอย่างเชื่องช้า ซึ่งในช่วงที่รถไฟวิ่งเหนือแม่น้ำอาราคาวะที่โด่งดังในเรื่องการล่องแพ คุณก็จะได้เห็นความงามของทัศนียภาพของใบไม้เปลี่ยนสีตัดกับแม่น้ำด้วย

นอกจากใบไม้เปลี่ยนสีแล้วยังมีสถานที่ท่องเที่ยวที่โดดเด่นอื่น ๆ อีกมากมาย เช่น “ภูเขาบุโค” อันเป็นสัญลักษณ์ของเมืองจิจิบุ “เขื่อนทามาโยโดะ” ที่น้ำมีสีเขียวมรกตสดใส หรือจะเป็น “ดอกพลับพลึงแดง” ที่บานสะพรั่งตลอดเส้นทางรถไฟสายคามินางาโตโระ รวมไปถึงรถจักรไอน้ำที่เด็กๆ ชื่นชอบและทั้งครอบครัวสามารถนั่งทำกิจกรรมร่วมกันได้อย่างสนุกสนาน อีกทั้งยังมีสินค้าท้องถิ่นดั้งเดิมจำหน่ายบนรถไฟอีกด้วย หากมีโอกาสได้ขึ้นรถไฟขบวนนี้อย่าลืมอุดหนุนสินค้าท้องถิ่นกันด้วยนะ

“น้ำแข็งย้อยแห่งอาชิงาคุโบะ” หนึ่งในสามจุดที่มีน้ำแข็งย้อยที่ใหญ่ที่สุดบนถนนจิจิบุ เป็นกลุ่มแท่งน้ำแข็งย้อยตามธรรมชาติขนาดใหญ่ซึ่งเกิดจากน้ำที่ไหลลงตามแนวเขาลาดเอียง ความโดดเด่นอยู่ที่ ขนาดที่ใหญ่อลังการมีความกว้างประมาณ 200 เมตร และความสูงถึงประมาณ 30 เมตร โดยคุณสามารถเยี่ยมชมได้ตลอดทั้งวัน แต่ทั้งนี้อยากแนะนำให้มาชมในช่วงกลางคืนเพราะมีการประดับไฟไว้อย่างสวยงาม เราเชื่อว่าจะทำให้คุณจะหลงเสน่ห์ทัศนียภาพอันงดงามที่ถูกรังสรรค์ด้วยแสงสีที่หลากหลายละลานตาอย่างแน่นอน!

สีสันของการประดับไฟจะถูกเปลี่ยนไปตามช่วงเวลาเปรียบเสมือนเป็นผลงานศิลปะ ด้านข้างจะเป็นเส้นทางที่ขบวนรถไฟเซบุวิ่งผ่านและหากจังหวะเวลาพอเหมาะคุณก็จะสามารถถ่ายรูปแท่งน้ำแข็งย้อยที่มีรถไฟวิ่งผ่านอยู่ในรูปภาพได้ด้วย ทั้งนี้ยังมีพื้นที่นั่งพักและอาหารเครื่องดื่มไว้คอยจำหน่ายให้นักท่องเที่ยวด้วย ไม่ว่าจะเป็น “โอเด้ง”, “ซุปซุยโด” และ “เหล้าหวานญี่ปุ่น (อามาซาเกะ)” เพื่อได้นั่งพักผ่อนและชื่นชมน้ำแข็งย้อยได้อย่างเพลิดเพลิน

"จิจิบุโยรุมัตสึริ (เทศกาลจิจิบุยามค่ำคืน)" เทศกาลที่เปรียบเสมือนตัวแทนของฤดูหนาวของเมืองจิจิบุ ซึ่งจะจัดขึ้นในเดือนธันวาคม โดยจะมีขบวนแห่ภายในเมืองและมีการจัดแสดงดอกไม้ไฟฤดูหนาวอีกด้วย เทศกาลนี้เป็นเทศกาลท้องถิ่นดั้งเดิมที่ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกทางวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ของยูเนสโก ในปี 2017 และเป็นหนึ่งใน 3 เทศกาลที่มีการลากจูงรถแห่ที่มีชื่อเสียงของญี่ปุ่น หรือที่เรียกว่า “นิฮนซานไดฮิคิยามามัตสึริ”

นอกจากนี้ ตั้งแต่เดือนมกราคมถึงเดือนกุมภาพันธ์จะเป็นช่วงที่ดีที่สุดในการชม “ดอกโรไบแห่งเขาโฮโดซาน” ที่มีจำนวนมากถึง 3,000 ต้น เบ่งบานเต็มที่บนเนื้อที่กว่า 15,000 ตารางเมตร ทั่วยอดเขาโฮโดซานที่มีความสูง 497 เมตร จากระดับน้ำทะเล และท่ามกลางความหอมของกลิ่นดอกไม้บนยอดเขาโฮโดซานนี้ คุณยังสามารถชมวิวทิวทัศน์ของ “ภูเขาบุโค” อันเป็นสัญลักษณ์ของเมืองจิจิบุ และ “ภูเขาเรียวคามิซาน” ซึ่งติดหนึ่งใน 100 ภูเขาที่มีชื่อเสียงของประเทศญี่ปุ่นได้อีกด้วย

เมืองจิจิบุนั้นมีเสน่ห์น่าดึงดูดใจด้วยกิจกรรมต่างๆ ที่หลายหลายในแต่ละฤดูกาล โดยสามารถเดินทางจากโตเกียวมาได้อย่างสะดวกไม่ว่าจะเป็นการท่องเที่ยวแบบมาเช้าเย็นกลับ หรือจะเป็นแบบ 2 วัน 1 คืนก็ได้ ดังนั้นหากมีโอกาสอยากให้ลองแวะมาสัมผัสประสบการณ์ท่องเที่ยวที่เมืองจิจิบุที่เต็มไปด้วยสถานที่อันโดดเด่นมากมายให้คุณมาเยี่ยมชมได้ในทุกฤดูกาล