ร้าน “Ganzo Kamakura korokke torigoya” เป็นร้านขายโคร็อกเกะที่ทอดสดใหม่เสมอ โคร็อกเกะร้อนๆ
ที่มีความหวานแบบไม่ปรุงแต่งมีให้เลือกหลากหลายรสชาติอย่าง โคร็อกเกะไส้มันม่วง ไส้เนื้อวัว
ไส้งาดำ ไส้บ๊วยผสมใบ Shiso ฯลฯ แต่ที่เราขอแนะนำก็คือไส้ช็อคโกแล็ตร้อนๆเข้ากันได้ดีกับแป้งทอด
กรุบกรอบด้านนอก ไม่ว่าจะไส้ไหนก็ชิ้นละ 200 เยน ถ้าจะกินเลยทันทีซื้อได้ตั้งแต่ 1 ชิ้นขึ้นไป
แต่สำหรับห่อกลับบ้านต้องซื้อตั้งแต่ 2 ชิ้นขึ้นไป

ร้านดังประจำถนน Komachi-dori ที่เคยออกทีวีและลงนิตยสารมาแล้วนับครั้งไม่ถ้วน เมนูประจำร้าน
“Han'nari Inari” นั้นคืออินาริซูชิโรลชิ้นพอดีคำ ที่ใช้เต้าหู้ทอดที่ทำมาจากถั่วเหลืองผลิตในประเทศ100%
สอดไส้ด้วยข้าวผสมงาดำ และเมนูเดินไปชิมไปที่เราขอแนะนำก็คือ “Han'nari inari Bou”
ซูชิ Han'nari inari ที่ใส่ Yamakobou หมักมิโสะ ราคา 1 ชิ้น 250 เยน

ร้านนี้มีขายขนมดังโงะมากมายหลายชนิด ตั้งแต่แบบเบสิคธรรมดาๆอย่าง มิตาราชิดังโงะ
ราคาไม้ละ 120 เยน หรือโชยุดังโงะ ราคา 130 เยน ไปจนถึงขนมดังโงะในแบบฉบับของร้านอย่าง
ขนมดังโงะท็อปปิ้งรสน้ำผึ้งมะนาว ราคาไม้ละ 180 เยน หรือ มิตาราชิดังโงะรสซากุระ ยิ่งไปกว่านั้น
ทางร้านยังมีเมนูพิเศษตามฤดูกาลซึ่งจะใช้ผลไม้จากช่วงนั้นๆมาทำเป็นขนมดังโงะวางขายอีกด้วย
เมนูพิเศษช่วงหน้าหนาวก็คือรสสตอเบอร์รี่ และในช่วงฤดูร้อนจะมีรส แอปริคอท บ๊วย และลูกท้อ

ที่ร้านขายขนมที่ทำมาจากมันม่วง “Imoyoshiyakata” สาขา Komachidori แห่งนี้ มีโคร็อกเกะและ
ซอฟครีมสำหรับซื้อกลับบ้านขายด้วย ซอฟครีมนั้นมีทั้งหมด 8 รสชาติให้เลือกชิม เช่น รสมันม่วง
รสขาเขียว รสสตอเบอร์รี่ และรส Ramune เป็นต้น แต่รสที่ได้รับความนิยมมากที่สุด และได้ชื่อว่า
เป็นของขึ้นชื่อแห่งเมืองคามาคุระนั่นก็คือ รสอะจิไซ (ไฮเดรนเยีย) หรือก็คือเวอร์ชั่นรวมร่างของ
ซอฟครีมรสมันม่วงและ รสชาเขียวนั่นเอง (ราคา 350 เยน) หากยอมจ่ายเพิ่ม 30 เยนเราจะสามารถ
เปลี่ยนโคนธรรมดาเป็นวัฟเฟิ่ลโคนได้อีกด้วย และซอฟครีมตัวเด็ดที่รายการโทรทัศน์เคยนำไปโปรโมท
จนกลายเป็นที่กล่าวถึง ด้วยสรรพคุณที่เชื่อกันว่าทานแล้วจะช่วยเสริมดวงความรักได้นั้นก็คือ
“ฮาร์ท มาร์ชเมลโล่ ซอฟ” ซึ่งก็คือการนำเอาท็อปปิ้งมาร์ชเมลโล่รูปหัวใจไปใส่ไว้บนซอฟครีมรสโปรด
ของเรานั่นเอง (ราคา 450 เยน)
* “ฮาร์ท มาร์ชเมลโล่ ซอฟ” อยู่ในช่วงหยุดจำหน่าย มีกำหนดการเริ่มขายอีกครั้งในช่วง
ปลายเดือนตุลาคม 2017

ร้านขาย Tenmusu โดยเฉพาะที่ตำแหน่งของร้านอยู่ในจุดที่ไม่ค่อยสะดุดตาซักเท่าไหร่ แต่ก็มีแฟนๆ
มากมายที่ดั้นด้นไปถึงร้าน Tenmusu ก็คือ ข้าวปั้นขนาดพอดีคำที่ใส่กุ้งเทมปุระที่ทอดโดยชุปแป้ง
สูตรพิเศษของทางร้าน เคล็ดไม่ลับแห่งความอร่อยของร้านนี้ก็คือ พิถีพิถันตั้งแต่การเลือกวัตถุดิบ
ข้าวที่ใช้คือข้าวจากจังหวัดกิฟุ “Hatsushimo” ที่ว่ากันว่าต่อให้เย็ฯชืดแล้วก็ยังอร่อย สาหร่ายที่ใช้
ก็สั่งมาจากร้านสาหร่ายเก่าแก่แห่งเมืองโยโกฮาม่า และที่สำคัญ ทางร้านจะเริ่มทอดกุ้งและปั้นข้าวปั้น
ทุกชิ้นหลังจากที่รับออเดอร์เท่านั้น เซ็ท Tenmusu สำหรับทานในร้านราคา 700 เยน จะมี Tenmusu 5 ชิ้น
เสริฟพร้อมเต้าหู้ และซุปมิโสะ

ร้านขายไส้กรอกและฮ็อทด๊อกที่เจ้าของร้านเคยบินข้ามน้ำข้ามทะเลไปทำงานถึงเยอรมันเมืองต้นตำหรับ
แห่งไส้กรอก และไส้กรอกทั้งหมดที่วางขายภายในร้าน ล้วนแล้วแต่ผลิตมาจากโรงงานส่วนตัว รสชาติ
ของไส้กรอกก็มีให้เลือกชิมมากมายตั้งแต่แบบธรรมดา ไปจนถึง แบบ Arabiki Smoke Calabresa
ชีสพิซซ่า และซอสพริก ซึ่งราคาไส้กรอก 1 ชิ้นจะมีตั้งแต่ 350 เยน ไปจนถึง 380 เยน ไส้กรอก
แบบเป็นเซ็ทคู่กับเบียร์ก็มีขายในราคา 1,050 เยน นั่งพักเหนื่อย กินไส้กรอก จบเบียร์ในร้านได้แบบชิวๆ
นอกจากนี้ยังมีขายฮ็อทด๊อก ซึ่งใช้ไส้กรอกสูตรเด็ดของร้านประกบด้วยขนมปังในราคาค่าตัวตั้งแต่
450 เยน / ชิ้น ขึ้นไป หรือจะเป็น “Double Dog” ที่จัดไส้กรอกแบบธรรมดาและแบบสโม้กมาอย่างละชิ้น
ในราคา 480 เยน รับรองว่าเต็มปากเต็มคำจนต้องให้ 100 คะแนนเต็มแน่นอน

ศาลเจ้า Tsurugaoka Hachimangu ถูกสร้างขึ้นในสมัยรัฐบาลคามาคุระ (ปีค.ศ. 1185 ถึง ปีค.ศ.1333)
ซึ่งเป็นศาลเจ้าที่มีความเกี่ยวข้องกับ “มินะโมะโตะ โยริโตะโมะ” ผู้เป็นต้นตระกูลโชกุนในสมัยนั้น
ว่ากันว่าที่ศาลเจ้าแห่งนี้มีเทพเจ้าที่ช่วยให้ดวงของวงศ์ตระกูลมีความมั่งคั่ง ในปัจจุบัน ศาลเจ้าแห่งนี้
ได้กลายเป็นศุนย์กลางของเมืองแห่งประวัติศาสตร์ “คามาคุระ” และมีนักท่องเที่ยวจำนวนมากทั้งจาก
ในและต่างประประเทศพากันมาสักการะศาลเจ้าแห่งนี้ ในปีค.ศ. 1063 “มินะโมะโตะ โยริโยชิ”
บรรพบุรุษของ “โยริโตะโมะ” ได้เดินทางไปทำสงครามที่ “Oshu (ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ)” ได้ไป
ขอพรให้ตัวเองมีชัยเหนือข้าศึกที่ศาลเจ้า “Iwashimizu Hachimangu” เมืองเกียวโต หลังจากได้รับชัยชนะ
จึงได้ทำการอัญเชิญส่วนหนึ่งของเทพเจ้าที่สถิตย์อยู่ในศาลเจ้า “Hachimangu” ให้มาประดิษฐานที่บริเวณ
Yui ga Hama ต่อมาในปีค.ศ. 1180 “มินะโมะโตะ โยริโตะโมะ” จึงได้อัญเชิญมาไว้ในที่อยู่ปัขขุบัน
และได้กลายเป็นศูนย์กลางในการสร้างเมืองคามาคุระ
ภายในพื้นที่ของศาลเจ้ามีจุดท่องเที่ยวอยู่มากมาย ไม่ว่าจะเป็นสิ่งก่อสร้างที่ถูกขึ้นทะเบียนเป็นสถานที่
สำคัญทางวัฒนธรรมอย่าง Hongu (ศาลเจ้าหลัก) และ Wakamiya (ศาลเจ้ารอง) บ่อน้ำ “Genpei ike”
ซึ่งเป็นจุดชมซากุระและดอกบัวที่มีชื่อเสียง “Masako ishi” หินสำหรับขอพรให้ชีวิตรักประสบ
ความสำเร็จ “Shizukagozen no Maiden” ฯลฯ ใน 1 ปีจะมีการจัดงานเทศกาลหลายงาน แต่เทศกาล
ที่ได้รับความนิยมมากที่สุดก็คือเทศกาลช่วงเดือนเมษายน เทศกาล“Kamakura no Matsuri” และ
เทศกาลเดือนกันยายน เทศกาล “Reitaisai” เทศกาลอันโด่งดังที่มีการโชว์ยาบุซาเมะ หรือการขี่ม้ายิงธนู

ที่นี่ขายขนม “Kamakura Yaki” ขนมที่จะซื้อเดินกินก็ดี ซื้อกลับไปเป็นของฝากก็ได้ และ
“Yakumi (เครื่องเทศ)” แบบดั้งเดิมของญี่ปุ่นที่ได้รับการยอมรับมาเป็นเวลานาน Kamakura Yaki คือ
ขนมไซส์พอดีคำที่ใช้ไข่ไก่ แป้งข้าวสาลี และชาเขียวอุจิมัทฉะ มานวดผสมกันจนกลายเป็นเนื้อเดียวกัน
จากนั้นนำงาดำบดมาใส่เป็นไส้แล้วนำไปปิ้งจนได้รสสัมผัสที่นุ่มมาพร้อมกับความหวานที่กำลังดี
ซึ่งเป็นเสน่ห์ของขนมนี้ ร้านนี้จะขายขนมที่ทำร้อนๆสดใหม่เสมอ แถมพื้นที่ทำขนมยังติดกระจกใส
ทำให้สามารถดูการทำขนมได้อีกด้วย ส่วน “Yakumi” ที่สามารถซื้อได้ที่นั้นมี
Yuzukosho Negikosho Mizansho Tsukudani ฯลฯ ทั้งหมด 6 ชนิด บรรจุในกล่องสุดหรู 2 ขวด
ราคาตั้งแต่ 2152 เยนขึ้นไป

“Waffle 21” ร้านเจ้าของเมนูวาฟเฟิ่ลรสเลิศที่มากับแป้งที่นุ่มจนน่าตกใจ อัดไส้ตรงกลางด้วย Fresh
(ครีมสด + คัสตาร์ด) จนแทบล้น ถึงที่นี่จะเป็นร้านแบบเทคเอาท์ แต่ตรงหน้าร้านจะมีเก้าอี้วางไว้
จะนั่งกินชิวๆตรงนี้ก็ได้ไม่ว่ากัน วาฟเฟิ่ลรสเด็ดของร้านนั้นมีทั้งหมด 8 ชนิด เช่น ถั่วแดงจาก
ฮอกไกโดมาทำเป็น “Azuki Fresh” อุจิมัทฉะจากเกียวโตที่เดียวแบบคัสตาร์ดจนได้ “Matcha Fresh”
คัสตาร์ดผสมเลมอน “Lemon Fresh” ฯลฯ ทุกอย่างมาในราคาชิ้นละ 280 เยน

ร้านเครปเจ้าดัง “Coquelicot”เจ้านี้เปิดร้านในปีค.ศ. 1972 และรับความนิยมมาเป็นเวลากว่า 40 ปี
จนกลายเป็นความภาคภูมิใจของร้าน ถึงแม้ว่าในปัจจุบันร้านสาขาหลัก Komachidori Honten
จะอยู่ในช่วงปิดร้าน (มีกำหนดเปิดร้านในช่วงฤดูใบไม้ผลิปีค.ศ. 2018) แต่เราก็สามารถมาลิ้มลองเครป
รสเด็ดได้ที่ร้านสาขา “Onaridori” ซึ่งอยู่ทางฝั่งตะวันตกของสถานีคามาคุระ เครปของร้านนี้มีจุดเด่น
อยู่ที่แป้งที่ทั้งนุ่มทั้งกรอบ ที่จะมาในรสเบสิคอย่าง Lemon sugar, Cocoa sugar, Cinnamon sugar ฯลฯ
ซึ่งจะทำให้เราสามารถเพลิดเพลินไปกับแป้งรสเด็ดได้อย่างเต็มที่ เมนูยังมีให้เลือกอีกมากมาย
ไม่ว่าจะเป็น “เครปแบบผู้ใหญ่ (Otona no Crepe)” ที่จะมีเหล้าเป็นส่วนผสม เครปไส้ทูน่าหรือแฮม
สำหรับมื้อกลางวัน ฯลฯ

ก่อนอื่นเลยก็ต้องเริ่มจากบริเวณรอบๆสถานีคามาคุระ สถานีต้นทางของสายรถไฟ Eno-Den
เดินผ่านถนน Komachidori ที่มีร้านอาหารเด็ดๆ และร้านขายของฝากเรียงรายกันอยู่มากมาย
เพื่อมุ่งหน้าไปยังศาลเจ้า Tsurugaoka Hachimangu ถนน Komachidori นั้นคือถนนหลัก
ด้านหน้ามุ่งสู่ศาลเจ้า ซึ่งอยู่เกือบจะขนานกับถนน Wakamiya Oji มีความยาวประมาณ 600 เมตร
ซึ่งมีทางเข้าอยู่ตรงประตูโทริอิสีแดงที่ตั้งเด่นเป็นสง่าอยู่ใกล้ๆกับที่จอดรถบัสด้านหน้าประตูทางออก
East Exit ของสถานีคามาคุระ ซึ่งที่ประตูโทริอิจะมีป้ายเขียนว่า “Hachimangu Chikamichi
(八幡宮近道)” แขวนอยู่ หลังจากที่เดินผ่านประตูโทริอิแล้วก็จะเจอกับถนนคนเดินเส้นเดียวที่
มุ่งหน้าไปยังทิศเหนือ ทั้ง 2 ฝั่งถนนจะเรียงรายไปด้วยร้านอาหารและร้านขายของฝากมากมาย
และของกินเล่นที่สามารถเดินไปกินไปได้อย่าง โคร็อกเกะ ซอฟครีม ขนมดังโงะ ฯลฯ ที่เป็นเมนู
แนะนำก็มีอยู่เต็มไปหมด แม้แต่ร้านที่ขายเบียร์คามาคุระหรือร้านขายอาหารทะเลก็มีอยู่มากมายเช่นกัน

หากเดินไปจนสุดถนน Komachidori แล้วเดินไปทางขวามือก็จะพบประตู “ซังโนะโทริอิ (San no Torii)”
ตั้งอยู่ ซึ่งถือว่าเป็นทางเข้าของศาลเจ้า Tsurugaoka Hachimangu หลักจากที่ไปสักการะเทพเจ้าที่ศาลเจ้า
เรียบร้อยแล้วก็มาเดินกลับสถานีคามาคุระผ่านถนน Wakamiya Oji ซึ่งมีแนวโคมไฟหินตั้งอยู่กันดีกว่า
และบริเวณทางออก West Exit ของสถานีคามาคุระก็มีร้านเครปเจ้าเด็ด คาเฟ่ และร้านขายของจุกจิก
ตั้งอยู่มากมาย เพราะงั้นจะเดินออกไปสำรวจกันซักหน่อยก็คงไม่เลวเหมือนกัน

ที่ถนน Komachidori นั้นนอกจากเมนูที่สามารถเดินกินได้แล้วก็ยังมีร้านอาหารทะเลและคาเฟ่ที่สามารถ
เข้าไปนั่งชิวได้อยู่มากมาย สำหรับคนที่อยากชิวแล้วล่ะก็พลาดไม่ได้เลยล่ะ หลังจากที่เดินเล่นจนทั่วศาลเจ้า
Tsurugaoka Hachimangu แล้วใครที่รู้สึกเริ่มหิว จะลองแวะท้าทายเมนูใหม่ๆตอนขากลับก็ดีไม่น้อย
สำหรับข้อมูลตามแนวเส้นรถไฟจากสถานีคามาคุระนั้น ก็ต้องไปเช็คบทความ เดินเล่นตามสายรถไฟ
Eno-Den 2-4 (จากสถานี Hase / เดินเที่ยวชมวัดและพระใหญ่ / จากสถานี Hase สู่สถานี Gokurakuji /
สถานี Shichirigahama และสถานี Kamakurakoukoumae) กันดูด้วยนะ