เมืองเซ็นไดในจังหวัดมิยากิ เป็นเมืองที่เปี่ยมไปด้วยวัฒนธรรมและธรรมชาติอันสมบูรณ์ ที่สามารถเพลินเพลินกับสถานที่ท่องเที่ยวและอาหารเลิศรสได้ตลอดทั้งปี สถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจก็มีมากมาย ไม่ว่าจะเป็น ปราสาทเซ็นได ที่ ดาเตะ มาซามูเนะ ขุนศึกในยุคเซ็นโกคุหรือยุคสงครามกลางเมืองเป็นผู้สร้าง สุสานซุยโฮเด็นที่ตระกูลดาเตะหลับใหลอยู่ อ่าวมัตสึชิมะที่ได้ชื่อว่าเป็นสุดยอดทิวทัศน์หนึ่งในสามแห่งของญี่ปุ่น ทะเลสาบโอคามะบนปากปล่องภูเขาไฟ ที่อยู่ในเส้นทาง
ของถนนชื่อ ซาโอ เอโค่ ไลน์ สะพานมิกาเอริบาชิ รวมไปถึงตลาดเช้าของเซ็นได ตลาดอาสะอิจิ เป็นต้น และเนื่องด้วยเป็นจังหวัดที่มีทั้งทะเลและภูเขาล้อมรอบ จึงมีวัตถุดิบอาหารที่คุณภาพดีมากมาย ถือเป็นพื้นที่ที่มีอาหารรสเลิศให้รับประทานอย่างหลากหลาย งานกิจกรรมอีเวนต์ประจำปีที่จัดขึ้นในช่วงฤดูกาลต่าง ๆ
ทั้งฤดูใบไม้ผลิ ฤดูร้อน ฤดูใบไม้ร่วง และฤดูหนาว เช่น เซ็นไดทานาบาตะมัตสึริ หรืองานเทศกาลทานาบาตะของเซ็นได งานเทศกาลประดับไฟในฤดูหนาว
เซ็นได เพเจนท์ ออฟ สตาร์ไลท์ ล้วนแต่เปี่ยมไปด้วยเสน่ห์ ซึ่งในครั้งนี้เราจะมานำเสนอข้อมูลของสถานที่ท่องเที่ยวเด็ด ๆ งานกิจกรรมอีเวนต์โดน ๆ อาหารเลิศรส และสถานที่ใกล้เคียงสุดน่าสนใจ ที่ห้ามพลาดสำหรับผู้ที่จะไปท่องเที่ยวเซ็นไดให้ท่านผู้อ่านกัน
*เนื่องจากอยู่ในช่วงดำเนินมาตราการป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 วันหยุดทำการและเวลาทำการของร้านและสถานที่ต่าง ๆ อาจจะมีการปรับเปลี่ยนได้ หากต้องการข้อมูลใหม่ที่อัปเดทอย่างละเอียด โปรดตรวจสอบที่เว็บไซต์ของสถานที่นั้น ๆ
มิยากิ・เซ็นได เป็นที่แบบไหนกันนะ?
จังหวัดมิยากิ อยู่ขึ้นไปทางตอนเหนือของญี่ปุ่น ตั้งอยู่ในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ฝั่งด้านมหาสมุทรแปซิฟิก มีเมืองที่ขึ้นชื่อเรื่องอาหารเลิศรสระดับประเทศอย่างเซ็นได อ่าวมัตสึชิมะที่มีความงามอันทรงเสน่ห์ แหล่งออนเซ็นที่ดีที่สุดแห่งหนึ่งในญี่ปุ่นอย่างนารุโกะออนเซ็น เมืองซาโอที่มีทะเลสาบโอคามะสีเขียวมรกตบนปากปล่องภูเขาไฟซาโอ ซึ่งไม่ว่าสถานที่ไหนก็ล้วนแต่เป็นสถานที่ที่มีจุดเด่นน่าไปเที่ยวชมทั้งนั้น ด้วยเหตุนี้จึงมีนักท่องเที่ยวจากทั้งในและนอกประเทศ เดินทางมาเยี่ยมเยือนอย่างมากมาย
เมืองที่ถือว่าเป็นประตูบานแรกสู่การท่องเที่ยวของจังหวัดมิยากิก็คือ เมืองเซ็นได เมืองที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในภูมิภาคตะวันออกเฉียงเหนือ มีประชากรเกินกว่า 1 ล้านคน มีจุดเด่นที่ถึงแม้จะเป็นเมืองใหญ่ที่มีตึกสูง มีโรงงานขนาดใหญ่ แต่ก็ยังมีธรรมชาติอันอุดมสมบูรณ์ให้สัมผัสในทุก ๆ ที่ของตัวเมือง และด้วยความสวยงามนี้ เมืองเซ็นได จึงถูกเรียกว่าเป็น “นครแมกไม้” นอกจากนี้ ร่องรอยปราสาทเซ็นไดและสุสานซุยโฮเด็น ซึ่งเป็นสถานที่ทางประวัติศาสตร์ที่เกี่ยวข้องกับขุนศึกชื่อก้องนาม
ดาเตะ มาซามูเนะ ก็เป็นสถานที่ท่องเที่ยวชื่อดังที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก และพอขับรถออกจากตัวเมืองไป 30 นาที ก็จะถึงสถานที่ที่มีแหล่งออนเซ็นสองแหล่งด้วยกัน ถือเป็นเรื่องที่น่าดีใจสำหรับนักท่องเที่ยวเลยล่ะ
。
จะเดินทางจากโตเกียวไปเซ็นไดได้อย่างไร?
ขึ้นรถไฟชินคันเซ็นสายโทโฮคุ (ตะวันออกเฉียงเหนือ) สาย “ฮายาบูสะ” “ฮายาเตะ” จากสถานีโตเกียวถึงเซ็นได ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง 30 นาที หรือเมื่อลงจากเครื่องบินที่สนามบินนานาชาติเซ็นได ก็สามารถนั่งรถไฟสาย Sendai Airport Access Line ที่มีสถานีเชื่อมกับตัวอาคารผู้โดยสารของสนามบินได้เลย ใช้เวลาประมาณ 25 นาที ก็จะถึงสถานีเซ็นได หรือถ้าเป็นขบวนรถด่วน ก็จะใช้เวลาประมาณ 17 นาที และเนื่องจากสถานที่ท่องเที่ยวของเซ็นไดส่วนใหญ่จะอยู่ค่อนข้างห่างจากสถานีเซ็นได สำหรับการเดินทางไปเที่ยวชมนั้นแนะนำให้ใช้บริการ รถไฟใต้ดิน รถบัส หรือแท็กซี่ ในการเดินทาง ส่วนอาหารเลิศรสของเซ็นได เช่น ลิ้นวัว ซุนดะโมจิ (โมจิถั่วแระ) และเมนูดังต่าง ๆ ก็มีร้านอาหารที่ขายเมนูขึ้นชื่อเหล่านี้ มารวมตัวเปิดอยู่ใกล้สถานีเซ็นได สามารถเดินตระเวนหาของกินได้ที่บริเวณสถานีเลย
สำหรับนักท่องเที่ยวที่จะปักหมุดหมาย ณ เมืองเซ็นไดเป็นที่แรกในการท่องเที่ยวจังหวัดมิยากิ ถ้าจะเดินทางไปอ่าวมัตสึชิมะและเมืองชิโอกามะใช้รถไฟจะสะดวกที่สุด ส่วนถ้าจะไปสถานที่อื่นนอกเหนือจากนี้ ก็สามารถใช้รถไฟและรถบัสได้เหมือนกัน แต่ว่าจำนวนขบวนและรอบเดินรถนั้นมีจำกัด ดังนั้นควรตรวจสอบวิธีการเดินทางไว้ให้ดีล่วงหน้ากันด้วยนะ
1. ไปเยี่ยมจุดชมวิวที่ร่องรอยปราสาทเซ็นได และรูปปั้น ดาเตะ มาซามูเนะขี่ม้า กันเถอะ!
ปราสาทเซ็นไดนั้น ถูกสร้างขึ้นในปี ค.ศ. 1602 โดยผู้ครองแคว้นเซ็นไดรุ่นแรก ดาเตะ มาซามูเนะ ซึ่งเป็นที่กล่าวถึงในเรื่องที่เป็นนักรบในยุคเซ็นโกคุที่ชอบความโดนเด่นสะดุดตา จนถึงตอนนี้หากพูดว่า “ดาเตะโอโตโกะ” ก็จะหมายถึงผู้ชายที่แต่งตัวได้อย่างโดดเด่นโก้เก๋ และเรื่องที่ว่าหมวกซามูไรของมาซามูเนะ เป็นต้นแบบของชุดของตัวละครดาร์ธ เวเดอร์ในภาพยนตร์เรื่อง ”สตาร์วอร์ส” ของฮอลลีวู้ด ก็เป็นเรื่องที่โด่งดังทีเดียว
ส่วนของหอหลักหรือเทนชูไดของปราสาทเซ็นไดนั้น เป็นที่รู้จักในฐานะจุดชมวิวที่สามารถชมสภาพบ้านเมืองของเมืองเซ็นไดได้อย่างสุดลูกหูลูกตา หากเป็นวันที่มีอากาศดี จะสามารถมองเห็นใจกลางเมืองเซ็นได ที่ราบเซ็นได ไปจนถึงมหาสมุทรแปซิฟิกจากสถานที่นี้ได้เลย รูปปั้นดาเตะ มาซามูเนะขี่ม้า ก็ถูกตั้งอยู่ ณ ที่แห่งนี้
ปราสาทเซ็นไดเป็นปราสาทเลื่องชื่อได้รับการแต่งตั้งเป็นหนึ่งใน “ร้อยปราสาทเลื่องชื่อประจำปี 2006” จากสมาคมปราสาทญี่ปุ่น แต่ทว่าปราสาทหลังนี้ เมื่อครั้งสงครามโลกครั้งที่ 2 ในการโจมตีทางอากาศ ได้ถูกระเบิดเผาทำลาย เหลือเพียงวาคิโระหรือฐานหินของปราสาทที่ถูกบูรณะไว้เท่านั้น สำหรับผู้ที่อยากเห็นสภาพของปราสาทเมื่อครั้งยังอยู่ในสภาพดี สามารถไปชมได้ที่ “หอจดหมายเหตุปราสาทอาโอบะ” จะมีการทำคอมพิวเตอร์กราฟฟิกจำลองภาพภายในปราสาทเซ็นไดไว้ และยังมีการจัด Virtual tour หรือทัวร์เสมือน ที่สามารถพาเราไปสัมผัสประสบการณ์ท่องไปในปราสาทเซ็นไดได้อีกด้วย
-
ร่องรอยปราสาทเซ็นได仙台城跡
- Address เลขที่1 คาวาอุจิ เขตอาโอบะ เมืองเซ็นได จังหวัดมิยากิ
เบอร์โทร:022-268-9568 (สมาคมนานาชาติการท่องเที่ยวเซ็นได)
เวลาทำการ:ตลอดเวลา
ค่าเข้าชม:ไม่มีค่าเข้าชม
วันหยุด:ไม่มีวันหยุด
2. ไปทัศนศึกษาที่สุสานซุยโฮเด็นสถานที่บูชาดวงวิญญาณของ ดาเตะ มาซามูเนะ กันเถอะ
สุสานซุยโฮเด็นสร้างขึ้นเมื่อปี ค.ศ. 1637 เพื่อเป็นสถานที่บูชาดวงวิญญาณของผู้ครองแคว้นเซ็นได ดาเตะ มาซามูเนะ ภายในบริเวณรายล้อมไปด้วยสีเขียวของแมกไม้ ช่วงฤดูใบไม้ผลิจะเปลี่ยนเป็นซากุระ ช่วงหน้าฝนจะเป็นดอกไฮเดรนเยีย ฤดูใบไม้ร่วงเป็นใบไม้สีแดง ในฤดูหนาวก็จะเป็นทิวทัศน์สีขาวของหิมะ ซึ่งทิวทัศน์ที่แตกต่างไปตามแต่ละฤดู ถือว่าเป็นจุดสำคัญอย่างหนึ่งของสถานที่นี้ โดยเฉพาะในช่วงงานเทศกาลทานาบาตะ จะมีการประดับตกแต่งโคมไม้ไผ่เทศกาลทานาบาตะแบบดั้งเดิมกว่า 1,200 ต้น กลายเป็นภาพทิวทัศน์ที่สวยงามเหนือจิตนาการ
สุสานซุยโฮเด็นนั้น ได้ถูกทำลายลงไปจากการโจมตีทางอากาศ แต่ในปีค.ศ. 1979 ได้มีการสร้างใหม่อีกครั้ง และในปีค.ศ. 2001 ก็มีการบูรณะใหญ่อย่างละเอียดประณีต ทำให้ฟื้นฟูกลับมาในรูปโฉมที่งดงาม ภายในบริเวณนี้ยังมี ”สุสานคันเซ็นเด็น” ของ ดาเตะ ทาดามูเนะ ผู้ครองแคว้นคนที่สอง และ ”สุสานเซ็นโนเด็น” ของ
ดาเตะ สึนามูเนะ ผู้ครองแคว้นคนที่สามด้วย ที่หอจดหมายเหตุของที่นั่น เราสามารถชมสิ่งของล้ำค่าเช่น ข้าวของที่ฝังไปพร้อมกับร่าง ที่มีการขุดค้นขึ้นมาได้ด้วย
ที่นี่ในหนึ่งปีจะมีการจัดงานหลายอย่าง ในช่วงปลายเดือนกุมภาพันธ์ถึงต้นเดือนมีนาคม จะเป็นการจัดแสดงตุ๊กตาฮินะในชื่องาน ”มาซามูเนะและตุ๊กตาฮินะตัวเล็กอันเป็นที่รัก” ตอนที่อยู่ในช่วงงานเซ็นไดทานาบาตะก็จะมีงานจัดไลท์อัพ “ค่ำคืนแห่งโคมไฟเหนือจินตนาการ ซุยโฮเด็นไนท์” และในเดือนตุลาคม ก็จะมีการแสดง “ละครโนห์ ฤดูใบไม้ร่วง” จากสมาคมส่งเสริมละครโนห์เซ็นได (งานกิจกรรมทั้งหมดถูกยกเลิกการจัดในปี 2021)
-
ซุยโฮเด็น瑞鳳殿
- Address เลขที่ 23-2 โอทามะยะชิตะ เขตอาโอบะ เมืองเซ็นได จังหวัดมิยากิ
- Phone Number 022-262-6250
วันที่ 1 ธันวาคม - วันที่ 31 มกราคม 9:00 น. – 16:20 น. (เข้าชมรอบสุดท้ายก่อน 16:00 น.)
วันที่ 1 กุมภาพันธ์ - วันที่ 30 พฤศจิกายน 9:00 น. – 16:50 น. (เข้าชมรอบสุดท้ายก่อน 16:30 น.)
วันที่ 31 ธันวาคม (อาคารปิดทำการทั้งหมด)
วันที่ 1 มกราคม (เปิดแค่ซุยโฮเด็น หอจดหมายเหตุและส่วนอื่น ๆ ไม่สามารถเข้าชมได้)
ค่าเข้าชม: 570 เยน (ผู้ใหญ่)
วันหยุด:ไม่มี
3. ชมสุดยอดทิวทัศน์หนึ่งในสามแห่งของญี่ปุ่น ที่อ่าวมัตสึชิมะ
อ่าวมัตสึชิมะ ที่ใช้เวลาเดินทางประมาณ 40 นาที เมื่อนั่งรถไฟจากสถานี JR เซ็นได ก็เป็นสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญที่หนึ่งที่จะไม่เอ่ยถึงไม่ได้ของจังหวัดมิยากิ ภายในอ่าวมัตสึชิมะที่ดูสงบสุขแห่งนี้ มีเกาะน้อยใหญ่จำนวนกว่า 260 เกาะกระจายตัวอยู่ นับเป็นสุดยอดทิวทัศน์ที่มีความงามติดหนึ่งในสามของญี่ปุ่น เฉกเช่นเดียวกับเกาะมิยาจิมะ จังหวัดฮิโรชิม่า และจุดชมวิวทะเลอามาโนะฮาชิดาเตะในจังหวัดเกียวโต นอกจากจะเดินรับลมชมวิวที่บริเวณริมชายหาดได้แล้ว เข้าไปในฝั่งยังมี “โอทากาโมริ” และ “ทามงซัง” ซึ่งเป็นจุดชมวิวที่จะทำให้ได้เห็นวิวของอ่าวมัตสึชิมะได้อย่างกว้างไกลสุดสายตาอีกด้วย จากสถานีมัตสึชิมะไคคังเดินประมาณ 7 นาทีก็จะถึงสถานที่ให้บริการเรือชมวิวอ่าวมัตสึชิมะ การล่องเรือชมความงามของเกาะน้อยใหญ่ในอ่าวมัตสึชิมะก็เป็นอีกหนึ่งกิจกรรมที่ขอแนะนำ
นอกจากนี้ ในบริเวณใกล้ ๆ สถานียังมีสถานที่ท่องเที่ยวดังๆ อย่าง ”วัดซุยกันจิ” ที่เป็นสมบัติแห่งชาติ และสิ่งปลูกสร้างที่เป็นสมบัติทางวัฒนธรรมแห่งชาติ เช่น
“วัดเอ็นซืออิน” และ “หอโกะไดโด” ก็อยู่ในบริเวณนี้เช่นกัน ในบริเวณชายหาดมีร้านค้าที่จำหน่ายอาหารทะเลอย่างหอยนางรม ที่เป็นของขึ้นชื่อและอาหารทะเลอื่น ๆ อยู่เรียงราย นักท่องเทียวที่พึงใจกับการเดินไปกินไปก็มีอยู่จำนวนไม่น้อย
4. ใช้ถนนเส้นซาโอ เอโค่ ไลน์ ไปชมทะเลสาบโอคามะกันเถอะ
ซาโอ เอโค่ ไลน์ เป็นถนนสายภูเขาที่ตัดผ่านเทือกเขาซาโอ เป็นเส้นทางขับรถที่เป็นที่รู้จักกันดีว่าทิวทัศน์ ในฤดูร้อนจะเป็นสีเขียวขจี ฤดูใบไม้ร่วงจะเป็นสีแดง ในฤดูใบไม้ผลิก็จะมีกำแพงหิมะให้ได้ชมกัน และสถานที่สำคัญที่อยากจะให้ได้ไปเยือนในเส้นทางสาย ซาโอ เอโค่ ไลน์ นี้ก็คือทะเลสาบโอคามะ ที่อยู่ที่เมืองซาโอ จังหวัดมิยากิ
ทะเลสาบโอคามะมีเส้นรอบวงประมาณ 1 กิโลเมตร ตั้งอยู่บนปากปล่องภูเขาไฟที่มีเส้นผ่านศูนย์กลางขนาด 330 เมตร พื้นน้ำสีเขียวมรกตของทะเลสาบถูกปากปล่องภูเขาไฟล้อมไว้เป็นวงกลม ดูราวกับเป็นหม้อ จึงเป็นที่มาของชื่อทะเลสาบโอคามะ (หม้อ) ตั้งอยู่บนพื้นที่ของยอดเขา 3 ยอด คือ ซาโอคัตตะ คุมาโนะ และโกชิคิ
การเดินทางจากตัวเมืองเซ็นไดมาจนถึงทะเลสาบโอคามะจะใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมงครึ่ง โดยรถยนต์หรือรถบัส
ตั้งแต่ช่วงต้นเดือนพฤศจิกายนจนถึงช่วงปลายเดือนมีนาคม เส้นทางสาย ซาโอ เอโค่ ไลน์ จะปิดทำการในช่วงฤดูหนาว แต่หลังจากที่เปิดใช้อีกครั้งในช่วงประมาณเดือนเมษายนหรือพฤษภาคม จะสามารถชมกำแพงหิมะสูงร่วม 9 เมตร ที่เกิดจากหิมะที่ตกทับถมกันในช่วงฤดูหนาวได้ด้วย
-
โอคามะ御釜
- Address ป่าสงวนแห่งชาติคุระอิชิดาเกะ โทกัตตะออนเซ็น ซาโอมาจิ คัตตะกุน จังหวัดมิยากิ 989-0916
-
Nearest Station
การเดินทาง:รถยนต์ส่วนตัวหรือรถบัส
เดินทางจากสถานีเซ็นไดโดยรถบัสของจังหวัดมิยากิที่แล่นบนทางไฮเวย์ถึง “แอคทีฟ รีสอร์ต มิยากิ ซาโอ” ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง จากนั้นเปลี่ยนรถเป็น รถบัสของจังหวัดมิยากิ สาย ”คัตตะซังโชอิคิ” ใช้เวลาประมาณ 40 นาที ลงรถที่สุดสาย ป้ายชื่อ “ซาโอคัตตะซังโช” และเดินอีก 5 นาทีก็จะถึงจุดหมาย
เบอร์โทร:0224-34-2725 (ศูนย์ข้อมูลนักท่องเที่ยวเมืองซาโอ)
เวลาทำการ:ปลายเดือนเมษายน – ต้นเดือนพฤศจิกายน เข้าชมได้อิสระ
5.เพลินเพลินไปกับออนเซ็นชื่อดังของเซ็นไดที่ อาคิอุออนเซ็น
จังหวัดมิยากิที่มีแหล่งออนเซ็นเลื่องชื่อระดับประเทศ ไม่ว่าจะเป็น “แหล่งออนเซ็นนารุโกะ” ที่มีชนิดของน้ำแร่ที่ผุดขึ้นมาแตกต่างกันไปถึง 8 ชนิด หรือ “โทกัตตะออนเซ็น” ที่มีประวัติความเป็นมาถึง 400 ปี ซึ่งแหล่งออนเซ็นแสนวิเศษเหล่านี้ได้กระจายตัวอยู่ตามแต่ละพื้นที่ในจังหวัด
ซึ่งในจำนวนออนเซ็นเหล่านั้น “อาคิอุออนเซ็น” ของเซ็นได เป็นออนเซ็นที่สามารถเดินทางไปจากสถานี JR เซ็นได ด้วยรถยนต์ในเวลาประมาณ 30 นาที และยังอยู่ในพื้นที่ที่มีสถานที่ท่องเที่ยวมากมายเช่น “น้ำตกอาคิอุ” ที่ได้รับการคัดเลือกให้เป็น “หนึ่งในร้อยสุดยอดน้ำตกของญี่ปุ่น” หรือ “อาคิอุ โคเก โนะ ซาโตะ” สถานที่ที่สามารถไปสัมผัสประสบการณ์การทำงานฝีมือแบบดั้งเดิมได้ นับว่าที่นี่เป็นจุดยอดนิยมของนักท่องเที่ยวเลยล่ะ ที่พักให้บริการแช่น้ำร้อนแบบไม่ต้องพักค้างคืนก็มีอยู่มาก ทำให้สามารถเพลิดเพลินกับการแช่น้ำได้อย่างสบาย ๆ
6. เต็มอิ่มกับ “ทิวแถวซากุระพันต้น ณ ริมฝั่งแม่น้ำชิโรอิชิกาวะ” ในฤดูใบไม้ผลิ
หากอยากจะเพลิดเพลินกับการชมดอกไม้ที่จังหวัดมิยากิ เราขอแนะนำ “ทิวแถวซากุระพันต้น ณ ริมฝั่งแม่น้ำชิโรอิชิกาวะ”
ต้นซากุระพันต้นที่ได้รับเลือกว่าเป็นหนึ่งใน “ร้อยสถานที่ชมซากุระขึ้นชื่อในญี่ปุ่น” คือต้นซากุระสายพันธุ์โซเมโยชิโนะ จำนวนกว่า 1,200 ต้น ซึ่งจะบานสะพรั่งตลอดริมฝั่งแม่น้ำชิโรอิชิกาวะเป็นความยาวประมาณ 8 กิโลเมตรด้วยกัน การเปิดไฟไลท์อัพหลังพระอาทิตย์ตกดินก็เป็นกิจกรรมที่ได้รับความนิยม ช่วงบานเต็มที่ของซากุระในจังหวัดมิยากิจะช้ากว่าที่โตเกียวเล็กน้อย จะอยู่ที่ประมาณช่วงกลางเดือนเมษายน จึงทำให้เราสามารถชมซากุระได้อีกรอบหลังจากที่ซากุระในโตเกียวร่วงโรยไปแล้ว
งานเทศกาล “โอกาวาระ ซากุระมัตสึริ” ที่จัดในช่วงซากุระบานของเมืองโอกาวาระมาจิ มีเรือชมดอกไม้ที่ล่องจากสถานที่จัดงานไปยังฝายนิรากามิเซกิ คอยให้บริการอยู่ด้วย ระยะทางไปกลับรวม 2.3 กิโลเมตร ใช้เวลาประมาณ 30 นาที เรือแล่นไปอย่างเนิบช้า ทำให้ได้สัมผัสช่วงเวลาพิเศษนี้ได้อย่างเต็มที่ ภาพกลุ่มเทือกเขาซาโอด้านหลังของทิวซากุระ ที่ยังมีสีขาวของหิมะปกคลุมอยู่ ก็ช่วยเพิ่มความงดงามยามมองดูยิ่งขึ้นไปอีก
-
ทิวแถวซากุระพันต้น ณ ริมฝั่งแม่น้ำชิโรอิชิกาวะ白石川堤一目千本桜
- Address เมืองชิบาตะ เมืองโอกาวาระ จังหวัดมิยากิ
-
Nearest Station
การเดินทาง:นั่งรถไฟสายโทโฮคุฮงเซ็นขาไปชิโรอิชิจากสถานี JR เซ็นได ประมาณ 34 นาที มาลงที่ สถานี JR โอกาวาระ และเดินต่ออีก 3 นาทีจะถึงจุดหมาย
เบอร์โทร:0224-53-2659 (สมาคมส่งเสริมการท่องเที่ยวและผลิตภัณฑ์เมืองโอกาวาระ)
เวลาทำการ:ช่วงต้นเดือนเมษายนจนถึงช่วงปลายเดือน เข้าชมได้ตลอดเวลา
7. เมื่อถึงฤดูร้อนไปร่วมงานเทศกาลเซ็นไดทานาบาตะมัตสึริกันเถอะ
งานเทศกาล “เซ็นไดทานาบาตะมัตสึริ” นั้น เป็นงานเทศกาลที่ใหญ่ที่สุดในช่วงฤดูร้อนของเซ็นได ซึ่งจะจัดขึ้นในช่วง วันที่ 6-8 สิงหาคม เป็นเวลา 3 วัน ของทุก ๆ ปี สิ่งที่เป็นไฮไลท์เลยก็คือ ของประดับไผ่อันสวยงามที่เรียกว่า ฟุคินากาชิ ที่เป็นพู่ห้อย บรรดาไผ่ประดับที่เห็นตั้งแต่ประตูทิศตะวันตกของสถานี JR เซ็นได ไปจนถึงย่านอาเขต ทั้งหมดเป็นฝีมือการตกแต่งจากเจ้าของร้านในย่านการค้านั้น ที่ได้เห็นแล้วจะต้องตกตะลึงไปกับสีสันอันสวยงามและความละเอียดอ่อนเลยทีเดียว และในคืนก่อนวันงานเทศกาล คืนวันที่ 5 สิงหาคม ยังมีการจัดแสดงงานดอกไม้ไฟอีกด้วย
งานเทศกาลนี้ที่ถูกบอกต่อกันมาว่าเป็นเทศกาลที่แม้แต่ ดาเตะ มาซามูเนะ ยังตั้งตารอนั้น เป็นงานเทศกาลที่จะบูชาแด่เทพเจ้าแห่งท้องนาให้เกิดผลผลิตงอกงาม ก็ฟังดูสมกับเป็นเซ็นไดเมืองอู่น้ำอู่ข้าวล่ะ แต่ทว่าที่งานเทศกาลทานาบาตะเกิดบูมขึ้นมาในเซ็นไดนั้น มีเรื่องเล่ากันว่าเป็นเพราะ ดาเตะ มาซามูเนะ เป็นคนรักภรรยามาก ตัวศรีภรรยาของ ดาเตะ มาซามูเนะ ซึ่งก็คือ เมโงฮิเมะ เพื่อไม่ให้ ดาเตะ มาซามูเนะ เป็นที่อับอายในหมู่แวดวงสังคมนักรบชั้นสูงของยุคเซ็นโกคุ เมื่อถึงงานเทศกาลตามฤดูกาลต่าง ๆ จะสั่งชุดกิโมโนที่สวยงามมา และสวมใส่พร้อมจัดแต่งให้งดงามด้วยตัวเอง ด้วยเหตุนี้ ดาเตะ มาซามูเนะ จึงเห็นภรรยาเป็นโอริฮิเมะ ตัวเอกของงานเทศกาลทานาบาตะ ไปโดยปริยาย
ความยาวของเครื่องประดับต้นไผ่ในงานเทศกาลทานาบาตะนั้นมีจนถึง 5-10 เมตร และจะมีกระดาษขอพรที่เรียกว่าทังซากุ ที่มีเนื้อหาทั้งการขอพรด้านสุขภาพ อายุยืนยาว ความก้าวหน้าในหน้าที่การงาน ขอให้การค้าร่ำรวย ติดไว้ ส่วนนกกระเรียนพันตัวที่เริ่มถูกนำมาประดับในปีถัดมา หลังจากเกิดเหตุการณ์แผ่นดินไหวขนาดใหญ่ทางฝั่งตะวันออกของญี่ปุ่นปี 2011 เหมือนจะเป็นผลงานของเหล่าเด็ก ๆ ในเซ็นได ที่ภวนาให้บ้านเมืองฟื้นคืนสู่สภาพเดิม ได้ช่วยกันทำในทุกปี
-
เซ็นไดทานาบาตะมัตสึริ仙台七夕まつり
- Address ใจกลางเมืองเซ็นได จังหวัดมิยากิ (ตั้งแต่สถานีเซ็นได ไปจนถึงถนนจูโอ และย่านอาเขตของถนนอิจิบังมาจิ รวมไปถึงย่านการค้าในละแวกนั้น)
เบอร์โทร:022-265-8185 (สมาคมเซ็นไดทานาบาตะมัตสึริ)
8. เพลิดเพลินไปกับใบไม้แดงอันน่าประทับใจที่หุบเขานารุโกะในฤดูใบไม้ร่วง
หุบเขานารุโกะ เป็นสถานที่ชมใบไม้แดงที่มีชื่อเสียงของ นารุโกะออนเซ็น จังหวัดมิยากิ ณ หุบเขาใหญ่ ที่มีหน้าผาความลึก 100 เมตร และมีความยาวต่อเนื่อง 4 กิโลเมตร ในช่วงฤดูใบไม้เปลี่ยนสี (ปลายเดือนตุลาคมถึงต้นเดือนพฤศจิกายน) ทั้งหุบเขาจะถูกย้อมไปด้วยสีแดงและสีเหลืองของใบไม้ หากต้องการชมความสวยงามของหุบเขานารุโกะ ขอแนะนำที่หอชมวิวมิฮาราชิไดของนารุโกะเคียวเรสต์เฮ้าส์ หรือหากอยากจะเดินชม ขอแนะนำเส้นทางเดินเท้านารุโกะเคียว
ปัจจุบัน เส้นทางเดินเท้าของหุบเขานารุโกะ มีอยู่ด้วยดัน 2 สาย เส้นทางที่เริ่มจากทางเข้าฝั่งนากายามะไดระ (นารุโกะเคียวเรสต์เฮ้าส์) จนถึงสะพานมิกาเอริบาชิ นั้นมีความยาวแบบเที่ยวเดียวอยู่ที่ประมาณ 350 เมตร และยังมีหอชมวิวมิคาเอริบาชิด้วย เส้นทางนี้เป็นเส้นทางที่เดินได้ง่าย ๆ สบาย ๆ ในปี ค.ศ.2008 ก็มีการจัดทำเส้นทางเดินใหม่ที่ชื่อว่าเส้นทางเดินโอบุคาซาวะ ซึ่งมีนารุโกะเคียวเรสต์เฮ้าส์เป็นจุดเริ่มต้นเหมือนกัน เส้นทางนี้มีความยาว 2.2 กิโลเมตร
และเส้นทางที่เริ่มจากทางเข้าฝั่งนารุโกะ (สะพานโอยาบาชิ) ใกล้สถานี นารุโกะออนเซ็น ที่มีความยาวแบบเที่ยวเดียวประมาณ 230 เมตร เป็นเส้นทางที่มีเนินค่อนข้างชัน จึงขอแนะนำให้กับผู้ที่มีความมั่นใจในพละกำลังของร่างกายให้ไปลองดูกัน ที่สวนสาธารณะนารุโกะที่อยู่ที่บริเวณทางเข้าฝั่งนารุโกะนั้น ก็มีจุดชมวิวที่สามารถทำให้มองเห็นแหล่งออนเซ็นนารุโกะได้แบบกว้างไกลสุดสายตา นอกจากนี้ยังมีพิพิธภัณฑ์โคเคชิ ที่มีตุ๊กตาโคเคชิตัวใหญ่ตั้งคอยต้อนรับนักท่องเที่ยวอยู่ด้านหน้าด้วย
-
หุบเขานารุโกะ鳴子峡
- Address นารุโกะออนเซ็น เมืองโอซากิ จังหวัดมิยากิ 989-6100
-
Nearest Station
วิธีการเดินทาง:นั่งรถไฟชินคันเซ็นสายโทโฮคุ จากสถานี JR เซ็นได ประมาณ 13 นาที มาลงที่สถานีฟุรุคาวะ เปลี่ยนขบวนเป็นรถไฟสายตะวันออกริคูโตเซ็น และลงที่สถานี JR นารุโกะออนเซ็น ใช้เวลาประมาณ 45 นาที จากนั้นต่อรถแท็กซี่จากสถานี เดินทางไปอีก 10 นาที จะถึงจุดหมาย
*หุบเขานารุโกะ จะปิดทำการในช่วงฤดูหนาว ปลายเดือนพฤศจิกายนจนถึงปลายเดือนเมษายน นอกจากนี้ในกรณีที่มีสภาพอากาศเลวร้าย อาจจะปิดโดยไม่แจ้งให้ทราบล่วงหน้า
เบอร์โทร:0229-83-3441 (ศูนย์ข้อมูลนักท่องเที่ยวแหล่งออนเซ็นนารุโกะ)
เวลาทำการ:เข้าชมได้อิสระ (เส้นทางเดินเปิดให้บริการตั้งแต่ปลายเดือนเมษายนถึงปลายเดือนพฤศจิกายน เวลา 9:00 น.-16:00 น.)
ค่าเช้าชม:ไม่เสียค่าเข้าชม
วันหยุด:ไม่มีวันหยุด (เส้นทางเดินมีการปิดทำการเมื่อสภาพอากาศไม่ดี)
9. ตระการตาไปกับไฟประดับที่งานเทศกาลประดับไฟในฤดูหนาว “เซ็นได เพเจนท์ ออฟ สตาร์ไลท์”
หากจะมาเที่ยวเซ็นไดในช่วงฤดูหนาวแล้วล่ะก็ ต้องขอบอกเลยว่าห้ามพลาดงาน “ เซ็นได เพเจนท์ ออฟ สตาร์ไลท์”
ที่จะจัดขึ้นในช่วงกลางเดือนธันวาคมถึงสิ้นปีเป็นอันขาด ที่ถนนโจเซ็นจิ ถนนสายใจกลางเมือง เหล่าแถวต้นเคยาซากิจะถูกประดับไปด้วยไฟ LED ถึง 420,000 ดวง เกิดเป็นภาพอุโมงค์แสงสวยงาม หากเดินไปในใจกลางของทางเดิน จะรู้สึกราวกับว่าถูกห้อมล้อมไปด้วยแสงสว่างเลยล่ะ
เนื้อหาการจัดงานนั้นจะแตกต่างกันไปในแต่ละปี มีทั้งปีที่มีการจัดคอนเสิร์ต การแสดงดนตรีในอุโมงค์ ลานสเก็ตน้ำแข็ง เลยขอแนะนำว่าควรเช็กข้อมูลในเว็บไซต์ทางการของงานก่อนจะไปเที่ยวกันด้วยนะ
สำหรับงานเทศกาลประดับไฟนี้ เริ่มจัดขึ้นตั้งแต่ปี ค.ศ. 1986 ถือเป็นการบุกเบิกงานเทศกาลประดับไฟในญี่ปุ่นที่มีคณะกรรมการบริหารจัดงานเป็นอาสาสมัครชาวเมือง กระแสไฟของไฟประดับนั้น ทั้งหมดมาจากพลังไฟฟ้าชีวมวล ซึ่งเป็นพลังงานสีเขียว ไม่ได้ใช้พลังงานจากเชื้อเพลิงฟอสซิล จึงเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม
-
เซ็นได เพเจนท์ ออฟ สตาร์ไลท์SENDAI光のページェント
- Address ถนนโจเซ็นจิโดริ เมืองเซ็นได จังหวัดมิยากิ (ตั้งแต่หน้าร้านกระจกอุเมบาระ จนถึงหน้าสถานที่จัดงานแต่งงานโจเซ็นจิ การ์เดนฮิลส์)
เบอร์โทร:022-261-6515 (คณะกรรมการบริหารจัดงาน เซ็นได เพเจนท์ ออฟ สตาร์ไลท์ )
10. ลิ้มรสลิ้นวัวของขึ้นชื่อเมืองเซ็นไดแบบจุใจ
ถ้าพูดถึงของอร่อยเลิศรสที่ขึ้นชื่อของเมืองเซ็นไดก็ต้องเป็นลิ้นวัว ลิ้นวัวที่ถูกหั่นมาหนา ๆ ถูกแต่ละร้านปรุงรสตามแบบฉบับสูตรลับของตัวเอง แล้วหมักให้ถึงเครื่อง จากนั้นก็จะนำไปย่างบนเตาถ่านร้อน ๆ แบบรวดเร็ว ก็จะได้เป็น “ลิ้นวัวย่าง” ที่ได้รับเสียงตอบรับว่าเมื่อยิ่งเคี้ยวไปความอร่อยก็ยิ่งทะลักล้นออกมา พร้อมกับสัมผัส
เด้ง ๆ และความนิ่มที่สามารถจมฟันลงไปกัดให้ขาดได้อย่างนิ่มนวล
เซ็ตอาหารลิ้นวัวย่างพื้นฐานของเซ็นไดจะประกอบไปด้วย ลิ้นวัวย่าง ของดอง ซุปหางวัว และข้าวสวย ร้านที่มีชื่อเสียงก็จะได้แก่ ร้าน “อาจิ ทาสึเกะ” ที่คุณซาโนะ
เคอิชิโร่ ผู้ที่เรียกได้ว่าเป็นบิดาแห่งลิ้นวัวย่างเป็นผู้ก่อตั้ง และร้าน “ลิ้นวัวย่างเตาถ่าน ริคิว” ที่มีสาขาเปิดอยู่ทั่วประเทศญี่ปุ่น เป็นต้น
11. สัมผัสรสชาติเนื้อวัวชั้นยอด เซ็นไดกิว
ที่เห็นจะได้รับความนิยมไม่แพ้ลิ้นวัวเลยก็คือ เนื้อวัว “เซ็นไดกิว” ที่เป็นยี่ห้อเนื้อวัวที่ชาวมิยากิภาคภูมิใจ เนื้อวัวที่จะที่ถูกเรียกว่าเซ็นไดกิวได้นั้น ต้องเป็นเนื้อจากวัวที่ถูกเลี้ยงแบบขุนให้อ้วนพี และมีคุณภาพเนื้ออยู่ที่ระดับ “A5” “B5” เท่านั้น เพราะผ่านกรรมวิธีคัดสรรที่แสนเข้มงวดแบบนี้มา จึงแทบไม่ต้องให้บอกเลยว่าความอร่อยมีเหลือล้นขนาดไหน โดยเฉพาะรสชาติอร่อยลึกล้ำจากเนื้อที่มีลายไขมันแทรกอยู่ในเนื้อแดง มีความพอดีที่ลงตัวมากเลยล่ะ
ในบริเวณรอบ ๆ สถานีเซ็นได มีร้านสเต็ก ร้านเนื้อย่างที่มีเนื้อเซ็นไดกิวให้ได้ลิ้มลองเปิดอยู่ สำหรับผู้ที่อยากจะรับประทานในบริเวณใกล้ ๆ สถานี ขอแนะนำร้าน “สเต็กเฮ้าส์ ดาเตะยะ” ที่อยู่ที่ชั้นใต้ดินที่ 1 ของ “S-PAL เซ็นได” ศูนย์การค้าที่เชื่อมต่อกับสถานี JR เซ็นได และร้าน “เนื้อย่างเตาถ่าน กิวจิน สาขาใหญ่อิจิบังโจ” ที่อยู่ใกล้ ๆ สถานีเซ็นได
12.เพลิดเพลินไปกับซุนดะโมจิ และขนมหวานจากซุนดะ (ถั่วแระญี่ปุ่นบด)
ซุนดะโมจิที่ทำมาจากการนำแป้งโมจิมาคลุกเคล้ากับซุนดะอัน ที่ได้จากการนำถั่วแระญี่ปุ่นมาต้มและบดนั้น เป็นอาหารท้องถิ่นของจังหวัดมิยากิ สามารถหาลิ้มลองได้ที่ร้านเก่าแก่ของเซ็นได อย่างร้าน “มูราคามิยะ โมจิเทน” หรือที่ร้านของหวาน “ฮิโคอิจิ”
เมนูของหวานทั้งแบบญี่ปุ่นและตะวันตกที่เกิดจากการนำซุนดะมาประยุกต์ก็ได้รับความนิยม ซึ่งในบรรดาขนมเหล่านั้นที่เห็นจะได้รับความนิยมขนาดมีแถวต่อรอซื้อก็คือ “ซุนดะเชค” ที่ขายที่ร้าน “ซุนดะเชค สาขา เอ็กเพรส” ซึ่งอยู่ในอาคารของสถานีเซ็นได หากจะซื้อเป็นของฝาก ก็มีซุนดะโมจิจำหน่ายเป็นของฝากด้วยเช่นกัน สามารถหาซื้อที่ “S-PAL เซ็นได” ศูนย์การค้าที่เชื่อมต่อกับสถานี JR เซ็นได ได้เลย
13. มากินหอยนางรมที่มีความอร่อยเข้มข้นในช่วงฤดูใบไม้ร่วงและฤดูหนาวด้วยการย่างบนกระทะเหล็กเทปปันกันเถอะ
เมื่อมาที่จังหวัดมิยากิดินแดนที่ตั้งอยู่ชายฝั่งซันริคุแห่งนี้ ก็ไม่แปลกที่เราจะอยากลิ้มรสชาติของอาหารทะเลที่สดใหม่ ที่นี่เราสามารถหาอาหารอย่างซูชิหรือข้าวหน้าทะเลไคเซนด้งกินกันได้ แต่ว่าสิ่งที่บรรดานักชิมต่างยอมรับเป็นเสียงเดียวกันว่าเด็ด ต้องยกให้หอยนางรมจากมัตสึชิมะ หอยจากดินแดนที่มีหนึ่งในสามสุดยอดทัศนียภาพที่สวยงามของญี่ปุ่น หอยนางรมที่นี่ในทุก ๆ ปี ช่วงเดือนตุลาคม จะเริ่มทำการส่งขาย ยิ่งอากาศมีความหนาวเย็นมากขึ้นเท่าไหร่ ความอร่อยก็จะยิ่งเข้มข้นขึ้น ที่บริเวณข้างถนนใหญ่หน้าสถานี JR มัตสึชิมะไคคัง จะมีร้านอาหารที่ขายเมนูจากหอยนางรมต่าง ๆ เช่น หอยนางรมสด หอยนางรมทอด ข้าวหน้าหอยนางรม เรียงรายกันอยู่หลายร้าน
นอกจากนี้ ยังมีเมนูขึ้นชื่อของมัตสึชิมะก็คือ “หอยนางรมย่าง” ที่จะย่างอบหอยนางรมจำนวนมากพร้อมกันทีเดียว ลงบนกระทะเหล็กขนาดใหญ่ พนักงานร้านจะใช้พลั่วขนาดใหญ่ขนหอยนางรมมา และใส่ลงไปบนกระทะเหล็กทีเดียว ถือเป็นภาพที่น่าตื่นตาคุ้มค่ากับการรับชม ที่ “มัตสึชิมะซากานะอิจิบะ ยากิคาคิเฮ้าส์” ที่สามารถเดินไปจากสถานี JR มัตสึชิมะไคคัง โดยใช้เวลาประมาณ 10 นาที มีเมนูหอยนางรมย่าง เมนูนี้ให้บริการตลอดทั้งปี ลองไปเยือนกันให้ได้นะ
14. มาลิ้มรสปลามากุโระของเมืองชิโอกามะที่ตลาดและในร้านกัน
ถ้าเป็นผู้ที่ชื่นชอบปลาแล้วล่ะก็ อยากให้ลองกินปลามากุโระของจังหวัดมิยากิดูสักครั้ง ปลามากุโระสด ๆ จากเมืองชิโอกามะ เมืองที่มีชื่อว่าจับปลามากุโระได้เป็นอับดับต้น ๆ ของประเทศญี่ปุ่นนั้น มีความอร่อยที่เข้มข้นและเนื้อสัมผัสที่ราวกับจะละลายได้ในปาก จึงเป็นจานเด็ดที่มีแฟนคลับอยู่ไม่น้อยเลย
เมืองชิโอกามะที่ใช้เวลาเดินทางโดยรถยนต์จากสถานี JR เซ็นได ประมาณ 30 นาทีนั้นเป็นที่รู้จักกันในนานเมืองแห่งซูชิ เป็นสถานที่ที่ขอแนะนำให้กับผู้ที่อยากจะลิ้มลองซูชิที่ทำจากปลามากุโระชั้นยอด ในเมืองเซ็นไดเองก็มีร้านอาหารหลายร้าน ที่มีเนื้อปลามากุโระจากเมืองชิโอกามะเตรียมไว้ให้บริการ ที่ร้าน “มากุโระยะ ยามาโมโตะ” ใกล้ถนนโจเซ็นจิโดริก็มีข้าวหน้าปลามากุโระจากเมืองชิโอกามะ ที่เห็นแล้วจะต้องตะลึงว่าโปะปลามาขนาดนี้กันเลยเหรอ ให้ได้ชิมกันด้วย
15.ซื้อเฮียวตันอาเกะไปกินกันเถอะ
ถ้าในระหว่างที่ท่องเที่ยวในเซ็นไดแล้วเกิดหิวขึ้นมานิดหน่อย อาหารที่เหมาะสำหรับรองท้องก็คือ เฮียวตันอาเกะ หรือน้ำเต้าทอด ที่ทำจากลูกชิ้นปลานึ่งหุ้มด้วยแป้งหวาน ๆ และนำไปทอดให้กลม รูปทรงคล้ายน้ำเต้า เป็นอาหารที่สามารถซื้อแบบเทคเอ้าท์กินได้เลย ที่เซ็นไดนั้นเมนูนี้ได้รับความรักมาอย่างยาวนาน ในฐานะเป็นอาหารกินไปเดินไปที่คลาสสิคเมนูหนึ่ง วันที่ค่อนข้างจะขายดีนั้นจะขายได้อยู่ที่วันละ 4,000 ไม้ ขึ้นไปเลยล่ะ
ร้านที่ทำเฮียวตันอาเกะขายนั้นก็คือ ร้านลูกชิ้นปลาเก่าแก่ “อาเบะคามาโบโกะเทน สาขาใหญ่” เพราะว่าเป็นร้านเก่าแก่จึงสามารถปรุงรสชาติและความเด้งดึ๋งของลูกชิ้นปลาในเฮียวตันอาเกะออกมาได้อร่อย ร้านนี้เดินทางไปได้สะดวก โดยเดินเพียง 10 นาที จากสถานี JR เซ็นได ก็ถึงแล้ว ลองไปกันดูนะ
16. ชิม “ซาซาคามาโบโกะชั้นยอด” จากร้านชิโรกาเนะ
ซาซาคามาโบโกะที่มีเนื้อสัมผัสเด้งสู้ฟันและรสชาติหวานอ่อน ๆ เป็นจุดเด่น รสชาติของทะเลอันหรูหราที่ค่อย ๆ แผ่กระจายในปากอย่างนุ่มนวลเมื่อกินเข้าไปก็เป็นเสน่ห์อย่างหนึ่ง สินค้าถูกห่อไว้แบบแยกชิ้น จึงทำให้กินได้โดยไม่เปื้อนมือ สินค้าตัวนี้เป็นสินค้าแช่เย็น
17.ซื้อขนม “ฮากิ โนะ สึกิ” จากร้านคาโชซังเซน ไปเป็นของฝากกัน
ขนมที่เป็นเหมือนตัวแทนของฝากจากเซ็นได ภายในแป้งคาสเทลลานุ่มฟู มีไส้คัสตาร์ดครีมสูตรต้นตำรับของร้านที่รสชาตินุ่มนวล
กลมกล่มใส่ไว้อย่างเต็มเปี่ยม รูปทรงกลมของขนมเปรียบเหมือนพระจันทร์ที่ลอยอยู่บนท้องฟ้ายามค่ำคืน สามารถซื้อและถือกลับไปได้ในอุณหภูมิปกติ
18. ซื้อ “ซุนดะโมจิ” จากร้านซุนดะสะเรียว ไปกินที่บ้านกัน
เอื้อเฟื้อภาพโดย: ร้านซุนดะสะเรียว
“ซุนดะโมจิ” อาหารท้องถิ่นนอกจากจะหากินได้ตามร้านแล้ว ยังสามารถนำกลับไปเป็นของฝากได้ด้วย “ซุนดะโมจิ” ของร้านซุนดะสะเรียวถูกแช่แข็งอย่างรวดเร็วทันทีที่ทำเสร็จ เมื่อถึงบ้านหลังจากนำมาละลายแล้วความอร่อยที่ได้ก็ยังคงเดิมไม่เปลี่ยน ความหอมและสัมผัสหยาบ ๆ จากถั่วแระบด พร้อมกับความหนุบหนับของโมจิ รวมกันเป็นความอร่อยที่ชาวบ้านในท้องถิ่นยอมรับ
19. ไปซื้อขนม “คิคุฟุกุ” แบบเฉพาะฤดูกาล ที่ร้านโอฉะโนะอิเกตะ คิคุซุยอัน กันเถอะ
ขนมไดฟุกุครีมสด ที่ห่อครีมสดและถั่วบดเอาไว้ด้วยแป้งโมจินุ่ม ๆ ไส้ถั่วบดนั้นนอกจากรสชาติคลาสสิคอย่าง รสชาเขียว ซุนดะ รสโฮจิฉะ แล้วยังมีรสชาติพิเศษที่ขายเฉพาะฤดูกาลอีกด้วย ด้วยรสชาติที่หรูหราและสัมผัสที่นุ่มนวล ที่อยู่ในขนาดพอดีกับฝ่ามือ จึงเป็นขนมที่คนทุกเพศทุกวัยต่างก็ชื่นชอบ
20. ซื้อตุ๊กตาโคเคชิรุ่น “ฮาโกโรโม” จากร้านซากุระอิโคเคชิเทน ไปเป็นของฝากกัน
ฮาโกโรโม เป็นโคเคชิที่ช่างทำโคเคชิที่นารุโกะออนเซ็น ได้สร้างขึ้นจากแนวคิด “สร้างสรรค์สิ่งที่เข้ากับไลฟ์สไตล์ของคนในยุคปัจจุบัน” เมื่อเทียบกับโคเคชิแบบดั้งเดิมแล้ว โคเคชิแบบนี้จะมีรูปทรงที่ผอมเพรียวกว่า ช่วงตัวใช้สีพาสเทลวาดเป็นลายขวางหรือทำการไล่เฉดสี และไม่ได้มีจำหน่ายแค่ในบริเวณแหล่งออนเซ็นเท่านั้น แต่ยังสามารถหาซื้อได้ที่ “เซ็นได PARCO 2” ห้างสรรพสินค้าหน้าสถานีเซ็นไดได้อีกด้วย
21. เพลิดเพลินไปกับสีสันอันสวยสดใสของมัตสึคาวะดารุมะ
ตุ๊กตาดารุมะที่เรียกว่า “มัตสึคาวะดารุมะ” เป็นงานฝีมือดั้งเดิมแบบเซ็นไดฮาริโกะ (การทำตุ๊กตาฮาริโกะแบบเซ็นได) ลำตัวนั้นจะถูกวาดลวดลายเป็นเรือสมบัติ เทพเจ้าแห่งโชคลาภ และใช้สีน้ำเงินสดใสสื่อถึงท้องฟ้าที่กว้างใหญ่และทะเลสีคราม เสน่ห์อีกอย่างก็คือราคาที่เอื้อมถึงไม่แพงเกินไป ถึงทั้งหมดจะเป็นของทำมือก็ตาม แต่ก็สามารถหาซื้อมาครอบครองได้ตั้งแต่ในราคา 1,000 เยนขึ้นไป
22. ถ้าจะซื้อของฝากที่เซ็นได ก็ต้องไปที่ S-PAL เซ็นได
S-PAL เซ็นได เป็นศูนย์การค้าที่เชื่อมต่อกับสถานี JR เซ็นได ของฝากจำพวก ลิ้นวันเซ็นได ซาซาคามาโบโกะ ขนมหวานญี่ปุ่น รับรองว่ามีขายอยู่แล้ว ยิ่งไปกว่านั้นสินค้าพวกเสื้อผ้า หรือพวกของกระจุกกระจิกก็มีวางขายให้เลือกมากมายหลากหลาย ชื่อของสถานที่นี้มาจาก ตัว S ตัวอักษรตัวแรกของคำว่า Station ในภาษาอังกฤษ และ Pal ที่มีความหมายว่าเพื่อน จึงกลายเป็น “S-PAL”
ที่ “เอกิจิกะ โอมิยาเกะโดริ” ซึ่งอยู่ชั้นใต้ดินที่ 1 ของตัวอาคาร เราสามารถหาซื้อของขึ้นชื่อในท้องถิ่นได้ และยังมีพื้นที่ร้านอาหาร “เอกิจิกะ คิชเช่น” ที่ขายเมนูอย่างซูชิ และลิ้นวัว แถมยังอยู่ใกล้กับชานชลาสถานี ถือว่าเป็นมิตรแท้นักเดินทางเลยทีเดียว ภายใน “S-PAL” มีร้านที่สามารถชำระเงินผ่าน บัตรโดยสาร IC หรือการชำระเงินผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ เช่น Alipay WeChat Pay อยู่หลายร้าน สำหรับนักเดินทางแล้วถือว่าเป็นจุดที่มีเสน่ห์จุดใหญ่จุดหนึ่งเลย
-
S-PAL เซ็นไดS-PAL仙台
- Address 1-1-1 จูโอ เขตอาโอบะ เมืองเซ็นได จังหวัดมิยากิ
- Phone Number 022-267-2111
เวลาทำการ:10:00 น.- 21:00 น. (ส่วนร้านอาหารเปิดจนถึง 23:00 น.)
วันหยุด:ไม่มีวันหยุดประจำ
23. ซื้อเครื่องใช้ไฟฟ้าบริเวณสถานีเซ็นได ด้วยราคาสุดคุ้ม
ที่บริเวณประตูทิศตะวันออกของสถานีเซ็นไดมีร้าน “โยโดบาชิคาเมร่า มัลติมีเดียเซ็นได” ส่วนด้านประตูทิศตะวันตกของสถานีก็มีร้าน “เครื่องใช้ไฟฟ้ายามาดะ LAVI เซ็นได” ซึ่งทั้งสองร้านมีสินค้ามากมายให้เลือกซื้อ และที่ประตูทิศตะวันตกยังมีร้าน “ซอฟแมพ สาขาหน้าสถานีเซ็นได” ที่มีเกมมือสอง และสินค้าจำพวกวีดิทัศน์ จำนวนมาก เหมาะกับที่จะหาสินค้าหายากที่เป็นแรร์ไอเท็มเลยล่ะ ในบริเวณรอบ ๆ สถานีเซ็นไดมีร้านค้าที่ปลอดภาษีด้วย ทำให้สามารถซื้อของได้ในราคาสุดคุ้ม
24.ไปซื้อวัตถุดิบอาหารแสนสดใหม่ที่ตลาดเช้าเซ็นไดอาสะอิจิบะกันเถอะ
ตลาดเช้าเซ็นไดอาสะอิจิบะ สามารถเดินไปจากสถานีเซ็นไดโดยใช้เวลา 5 นาที มีร้านค้าที่ขายผลผลิตพืชผักและอาหารทะเลที่หาได้ในท้องถิ่นเรียงรายกันอยู่ประมาณ 60 ร้าน และยังมีร้านอร่อยที่สามารถลิ้มลองข้าวหน้าทะเลหรือไคเซนด้งได้ในราคาที่ไม่สูง ร้านที่สั่งสลัดผักกลับบ้านได้ก็มี ถึงจะมีชื่อว่าตลาดเช้า แต่ตลาดนี้เป็นตลาดที่ตั้งแบบถาวรเปิดทำการตั้งแต่เช้าจนถึงเย็นของวันธรรมดา
ในปี ค.ศ. 1945 หลังจบสงคราม มีตลาดที่รู้จักกันในชื่อตลาดฟ้าใส หรือ “อาโอโซระอิจิบะ” เกิดขึ้น ซึ่งถือเป็นจุดกำเนิดของตลาดเช้าเซ็นไดอาสะอิจิบะ อันเป็นที่รักของชาวบ้านในฐานะครัวของเซ็นได เป็นสถานที่ที่สานต่อวัฒนธรรมการกินของภูมิภาคโทโฮคุสืบต่อเนื่องมา ในเดือนมีนาคม ค.ศ. 2011 หลังเกิดเหตุกาณ์ภัยพิบัติครั้งใหญ่ของภูมิภาคโทโฮคุ ในเวลาเพียงไม่กี่วันต่อมา ตลาดเช้าแห่งนี้ก็เปิดทำการอีกครั้ง ซึ่งถือว่าเป็นการช่วยเรียกขวัญและกำลังใจให้กับชาวโทโฮคุได้เป็นอย่างดี
-
ตลาดเช้าเซ็นไดอาสะอิจิบะ仙台朝市
- Address 3-8-5 จูโอ เขตอาโอบะ เมืองเซ็นได จังหวัดมิยากิ
- Phone Number 022-262-7173
25. มาขอพรให้สุขภาพดี มีโชคที่ศาลเจ้า “โอซากิฮาจิมังกู” กันเถอะ
ศาลเจ้านี้ถูกสร้างขึ้นตามคำสั่งของ ดาเตะ มาซามูเนะ ผู้ครองแคว้นเซ็นได จนถึงปัจจุบันศาลเจ้าแห่งนี้ก็ยังคงแสดงให้เห็นถึงชื่อเสียงอันยิ่งใหญ่เกรียงไกรของตระกูลดาเตะอยู่
อาคารศาลเจ้าอันสวยงามที่สร้างในรูปแบบยุคอาซึจิโมโมยามาจิไดในศตวรรษที่ 16 ถูกแต่งตั้งให้เป็นสมบัติแห่งชาติ ในวันที่ 14 มกราคมของทุกปี ศาลเจ้าโอซากิฮาจิมังกูจะกลายเป็นสถานที่จัดงานเทศกาลดงโตะ ขนาดใหญ่ที่สุดในท้องถิ่น เหล่าผู้ศรัทธาจะนำเครื่องประดับตกแต่งในช่วงเทศกาลปีใหม่มาเผาในไฟกองใหญ่ยักษ์ และภวนาขอให้มีสุขภาพดี มีโชคตลอดทั้งปี
26. สนุกสนานไปกับสกีที่ลานสกี สปริง วัลลีย์ เซ็นได อิซึมิ
ลานสกี สปริง วัลลีย์ เซ็นได อิซึมิ เป็นลานสกีที่ผู้เริ่มเล่นสกีไปจนถึงผู้เล่นระดับสูงสามารถเล่นได้อย่างสนุกสนาน นั่งรถบัสมา 40 นาที จากตัวเมืองเซ็นไดก็จะถึงลานสกีนี้ ในวันที่อากาศปลอดโปร่งแจ่มใส จะสามารถมองเห็นไปถึงที่ราบเซ็นไดและมหาสมุทรแปซิฟิกได้เลย ในทุกคืนของช่วงเดือนมกราคมถึงต้นเดือนมีนาคม จะเปิดให้เล่นสกีในเวลากลางคืน จึงสามารถชมวิวยามค่ำคืนของเมืองเซ็นไดพร้อมกับไถลตัวเล่นสนุกได้จนถึง 22:30 น. (วันศุกร์และเสาร์เปิดจนถึง 23:30 น.)
เนื่องจากมีหิมะอัดตัวกันอย่างแน่นหนาจึงให้มีความแข็ง ลื่นไถลได้ง่าย มีทางที่สามารถไถลตัวได้ยาวติดต่อกันสูงสุด 1,400 เมตร และมีความลาดชันสูงสุดที่ 36 องศา ที่นี่มีกระเช้าลอยฟ้า 4 สาย และ 12 คอร์สเส้นทางให้ได้เลือกสนุก ถึงแม้จะเป็นลานสกีที่มีจำนวนผู้เล่นระดับกลางและสูงมาเล่นกันเยอะ แต่ว่าก็มีพื้นที่สำหรับเด็กอย่าง “อาณาจักรผจญภัยหิมะ” ให้เด็ก ๆ ได้สนุกสนานกับการเล่นเลื่อน เล่นสโนว์ทูปบิ้ง และยังมีคลาสสอนสำหรับผู้เล่นมือใหม่อีกด้วย และที่สโนว์บอร์ด ปาร์ก ”Rhythm Fun Park” ของลานสกี ก็เป็นสโนว์บอร์ด ปาร์กใหญ่ที่สุดในจังหวัดมิยากิ มีเครื่องเล่นอย่างแท่นกระโดดหรือคิกเกอร์ และสิ่งจัดสร้างเพื่อใช้เล่นเพื่อเพิ่มความสนุกชนิดต่าง ๆ เตรียมไว้ให้ได้เล่นด้วย
-
-
Address
981-3225 14-2 Takeyama, Fukuoka, Izumi-Ku, Sendai-Shi, Miyagi-Ken, 981-3225
View Map -
Nearest Station
Sakunami Station (Senzan Line)
32 minutes by car
- Phone Number 022-379-3755
-
Address
981-3225 14-2 Takeyama, Fukuoka, Izumi-Ku, Sendai-Shi, Miyagi-Ken, 981-3225
27. ท้าทายกับการทำงานฝีมือแบบดั้งเดิมที่ “อาคิอุ โคเก โนะ ซาโตะ”
ที่เซ็นไดมีความเจริญรุ่งเรื่องในด้านศิลปะงานฝีมือแบบดั้งเดิม และที่นี่ ”อาคิอุ โคเก โนะ ซาโตะ” ก็เป็นสถานที่ที่มีโรงฝีมือของช่างฝีมือชั้นเลิศ 9 ครอบครัว ที่ผลิตงานฝีมือแบบดั้งเดิมของญี่ปุ่นทั้ง ช่างย้อมคราม ช่างลงรัก ช่างทำตุ๊กตาโคเคชิ ช่างทำลูกข่าง ศิลปะฮานามิซึกิ อาร์ท เป็นสถานที่แนะนำสำหรับนักท่องเที่ยวผู้สนใจในงานฝีมือของญี่ปุ่นเหล่านี้
โรงฝีมือหลายแห่งมีจัดเวิร์กชอปให้ได้สัมผัสประสบการณ์การทำงานฝีมือนั้น ๆ ด้วย หลังการเข้าร่วมเวิร์กชอป คุณจะได้ของฝากที่มีเพียงชิ้นเดียวในโลกจากฝีมือตัวเอง ที่ผ่านการชี้แนะโดยตรงจากช่างฝีมือชั้นยอดของญี่ปุ่นกลับไป
เวิร์กชอปวาดลายตุ๊กตาโคเคชิ และเวิร์กชอปอื่น ๆ จำเป็นต้องทำการจองไปก่อนล่วงหน้า
28. แวะชอปปิ้งก่อนกลับประเทศที่ห้าง อิออนมอลล์ นาโทริ
ห้างอิออนมอลล์ นาโทริ เป็นชอปปิ้งมอลล์ ขนาดใหญ่ที่สุดในภูมิภาคโทโฮคุ เนื่องจากมีร้านค้ามากมายหลายรูปแบบรวมไปถึงมีร้านอาหารหลากหลาย ทำให้แม้ในวันที่อากาศไม่ดี อย่างวันที่ฝนตกก็สามารถใช้เวลาที่นี่ได้ตลอดทั้งวัน
ถ้าใช้รถไฟสาย Sendai Airport Access Line จากสนามบิน ให้มาลงที่สถานี ”โมริเซกิโนะชิตะ” ที่อยู่ใกล้ห้างที่สุด ถ้ามาจากสถานีเซ็นไดใช้เวลาประมาณ 18 นาที สำหรับกรณีที่มาจากสถานีสนามบินเซ็นได จะใช้เวลาเพียง 7 นาทีเท่านั้น เดินทางได้สะดวกสบายสุด ๆ แถมตัวอาคารของห้างยังเชื่อมต่อกับสถานีด้วย
ที่ห้างมีล็อกเกอร์หยอดเหรียญขนาดใหญ่สำหรับใส่กระเป๋าเดินทางให้บริการที่แต่ละชั้น จึงเหมาะอย่างยิ่งที่จะมาใช้เวลาที่นี่ก่อนขึ้นบิน ที่ศูนย์ข้อมูลก็มีการให้บริการแปลภาษาหลายภาษา จากเครื่องแปลภาษาไว้คอยอำนวยความสะดวก ดังนั้นไม่ว่าคุณจะเป็นใครมาจากไหนก็สามารถชอปปิ้งได้อย่างสบายใจ
ที่ศูนย์รวมร้านอาหารชั้น 1 “Gourmet Garden” มีร้านอาหารที่คุณสามารถเพลิดเพลินไปกับอาหารท้องถิ่น เช่น เมนูขึ้นชื่อลิ้นวัวเซ็นได ราเมน เครื่องดื่มซุนดะเชค ที่ฟู๊ดคอร์ดชั้น 2 “Food Forest” มีอาหารที่กินได้ง่าย ๆ เช่น อุด้ง ไก่ทอด โดยหลัก ๆ จะเป็นอาหารประเภทฟาสต์ฟู๊ดไว้ให้บริการ และไม่ว่าจะเป็นร้านไหน ๆ ต่างก็ใช้รูปภาพประกอบในเมนูกันเยอะมาก เพื่อที่จะให้ลูกค้าสามารถสั่งอาหารได้สะดวก เพียงใช้นิ้วจิ้มลงไปเท่านั้นก็เรียบร้อย
ที่ห้างอิออนมอลล์ นาโทริ มีมุมเด็กเล่น (โมกุโมกุฮิโรบะ อาโอโซระฮิโรบะ ฯลฯ) รวมไปถึง รถเข็นสำหรับให้เด็กนั่งที่มีตัวการ์ตูนน่ารัก ๆ ติดไว้ เตรียมไว้ให้บริการลูกค้าที่มากับครอบครัวด้วย หรือจะไปลองเล่นเครนเกมสุดฮิต (เกมตู้คีบ) ที่เกมเซ็นเตอร์นัมโคกับคนในครอบครัว ก็น่าจะสร้างความทรงจำที่ดีให้ทริปนี้ของคุณได้เช่นกัน
-
อิออนมอลล์ นาโทริイオンモール名取
- Address ที่ตั้ง โมริเซกิโนะชิตะ เมืองนาโทริ จังหวัดมิยากิ
-
Nearest Station
รถไฟ:เดินทางจากสถานีเซ็นไดโดยรถไฟสาย Sendai Airport Access Line ใช้เวลาประมาณ 18 นาที ถ้ามาจากสถานีสนามบินเซ็นได จะใช้เวลาประมาณ 7 นาที มาลงที่ “สถานีโมริเซกิโนะชิตะ” และเดินต่ออีก 2 นาทีก็จะถึงจุดหมาย
- Phone Number 022-381-1515
เวลาทำการ:
10:00 น. -21:00 น. (ร้านค้า)
10:00 น.-22:00 น. (ร้านอาหาร)
8:00 น. -22:00 น. (ชั้น 1F แผนกขายอาหารของอิออน)
9:00 น. -22:00 น. (ชั้น 1F/2F/3F แผนกสินค้าของอิออน)
9:00 น.-24:00 น. (โรงหนัง * อาจมีกรณีที่จุดขายตั๋วหรือจุดจำหน่ายต่าง ๆ ปิดในเวลา 22:00 น.)
วันหยุด:ไม่มีวันหยุด
29. ค้นหาสาเกเซ็นไดที่คุณชื่นชอบ
มิยางิยังขึ้นชื่อเรื่องโรงหมักสาเกอีกด้วย ดังนั้นขวดหนึ่งขวดจึงเป็นของฝากชั้นเลิศได้ Katsuyama Junmai Ginjo Sake ผลิตโดยโรงงาน Izawa Family Katsuyama Sake Brewery ของ Sendai เป็นผู้ชนะรางวัลสูงสุดประจำปี 2019 ในประเภทสาเกของ International Wine Challenge (IWC)
30. เพลิดเพลินกับทัศนียภาพของสี่ฤดูกาลบน Jozenji-dori
มีต้นเซลโคว่าเรียงรายอยู่บนถนนสายหลักของเมืองเซนได ซึ่งนำความเขียวขจีที่สวยงามมาสู่เซนได เมืองหลวงของจังหวัดมิยางิ และเซ็นไดมีชื่อเล่นว่า "เมืองแห่งต้นไม้"
Jozenji-dori เป็นสถานที่ที่มีการจัดเทศกาลและกิจกรรมมากมายทุกปี และยังมีรูปปั้น "Summer Memories" ของ Emilio Greco และ "Bather" ของ Venanzo Crocetti
-
-
Address
Aoba Ward, Sendai City, Miyagi Prefecture, 980-0000
View Map -
Nearest Station
Kotodaikoen Station (Namboku Line)
1 minute on foot
-
Address
Aoba Ward, Sendai City, Miyagi Prefecture, 980-0000
31. ไปเดินเล่นในแม่น้ำฮิโรเสะพร้อมฟังเสียงพึมพำอันบริสุทธิ์กันเถอะ
แม่น้ำฮิโรเสะไหลผ่านใจกลางเซ็นได นำภูมิทัศน์ธรรมชาติมาสู่เมืองสมัยใหม่
ในช่วงไม่กี่ปีมานี้ ได้รับการยืนยันแล้วว่ากิจกรรมการอนุรักษ์และฟื้นฟูสิ่งแวดล้อมในท้องถิ่นได้รับผลตอบแทน และมีปลาแซลมอนมากถึง 5,000 ตัว ซึ่งเป็นหนึ่งในแม่น้ำหลายสายในเขตปริมณฑลของญี่ปุ่น
ตั้งแต่สมัยเอโดะ ในงาน "Toro nagashi" ประจำปี โคมไฟเกือบ 3,000 ดวงถูกล้างลงไปในแม่น้ำ และจุดดอกไม้ไฟเพื่อสร้างความบันเทิงให้กับผู้ชม
32. เพลิดเพลินกับสถาปัตยกรรมอันทันสมัยของ Sen Mediatheque
Sendai Mediatheque ออกแบบโดย Toyo Ito เป็นอาคารทันสมัยและมีสไตล์ที่สร้างขึ้นสำหรับกิจกรรมศิลปะและวัฒนธรรมภาพ
ส่วนใหญ่จะใช้เพื่อวัตถุประสงค์ต่าง ๆ เช่นนิทรรศการศิลปะ การนำเสนอ และการบรรยาย
ภายในมีสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ เช่น เวิร์คช็อป ห้องนิทรรศการ ห้องสมุด โรงภาพยนตร์ และคาเฟ่ เป็นอาคารที่มีชื่อเสียงระดับโลกและได้รับรางวัล "World Architecture Awards 2002 Best Building in East Asia"
33. เดินเล่นรอบๆ Akiu Otaki หนึ่งในจุดที่มีชื่อเสียงที่สุดใน Akiu Onsen
อากิโฮะโอตากิที่สูง 55 เมตร ซึ่งได้รับเลือกให้เป็นหนึ่งใน 100 น้ำตกที่ดีที่สุดในญี่ปุ่น มีความสวยงามตลอดทั้งสี่ฤดูกาล แต่โดยเฉพาะอย่างยิ่งในฤดูใบไม้ร่วง ที่แห่งนี้รายล้อมไปด้วยใบไม้เปลี่ยนสีที่สดใสและกระแสน้ำที่มีเมฆมากก็สวยงาม
เดินเลียบแม่น้ำไปที่ด้านล่างของน้ำตกและเพลิดเพลินกับอัญมณีของน้ำตกขณะอาบน้ำด้วยพลังงานของไอออนลบ
34. สัมผัสกับเทศกาล Sendai Aoba ที่น่าตื่นเต้น
เทศกาล Sendai Aoba เป็นงานประเพณีที่ดำเนินมาเป็นเวลา 350 ปีแล้ว และเป็นงานที่งดงามที่เฉลิมฉลองประวัติศาสตร์ของตระกูล Sendai และประกาศการมาถึงของฤดูใบไม้ผลิ
ช่วงก่อนเทศกาลเรียกว่า "เทศกาลยามเย็น" และกลุ่มพลเมืองจากทั่วเมืองจะเต้นรำ "Sendai Suzume Odori"
ในวันหลักของเทศกาล ขบวนแห่ขนาดยักษ์ที่ประดับประดาด้วยขบวนแห่อันงดงามตระการตาไปทั่วเมืองด้วยขบวนนักแสดงที่แต่งกายด้วยชุดซามูไรที่เต็มเปี่ยม
35. มาดู Sendai Daikannon ที่ใหญ่โตและเป็นประเด็นฮอตในต่างประเทศกันเถอะ
ในเขตชานเมืองของเมืองเซนได จังหวัดมิยางิ เซนไดไดคันนอนขนาดใหญ่ซึ่งเป็นโถงหลักของวัดไดคันนอนจิได้สูงขึ้น
รูปปั้นนี้สูง 100 เมตรและตั้งอยู่บนเนินเขาเล็กๆ สามารถมองเห็นได้ง่ายจากย่านที่อยู่อาศัยในเมืองเซนได
ในบริเวณนั้น มีจุดที่น่ากังวลมากมาย เช่น สถานที่ที่ช่วยเติมเต็มความโรแมนติก นอกเหนือจากรูปปั้นไดคันนอน
ถ้าจะเที่ยวเซ็นไดให้สนุก อย่าลืมเช็กงานกิจกรรมประจำฤดูกาลและสถานที่ท่องเที่ยวน่าสนใจรอบ ๆ มาด้วยนะ!
เราได้แนะนำข้อมูลสถานที่ท่องเที่ยว อาหารเลิศรส และงานกิจกรรมอีเวนต์ต่าง ๆ 28 อย่างที่ห้ามพลาดเมื่อทุกคนมาเยือนเซ็นไดไปแล้ว
ที่เซ็นไดนั้นทุกคนสามารถมาเที่ยวกันอย่างสนุกสนานเพลิดเพลินได้ตลอดทั้งปี แต่ว่าถ้าได้ทำตารางท่องเที่ยวให้ตรงกับงานกิจกรรมที่จะจัดขึ้นในเมืองแล้วล่ะก็ รับรองว่าต้องสนุกมากขึ้นแน่นอน นอกจากนี้ถ้าได้ลองออกไปจากใจกลางเมืองเซ็นไดสักเล็กน้อย ก็จะได้สัมผัสกับความสวยงามของธรรมชาติอันยิ่งใหญ่อย่าง
ทะเลสาบโอคามะ และหุบเขานารุโกะได้ด้วย ได้มาถึงเซ็นไดทั้งที ลองมาวางแผนเที่ยวชมบริเวณใกล้เคียงรอบ ๆ สักหน่อยไหมล่ะ
ถ้าหากเป็นผู้ที่เคยมาเซ็นไดแล้วล่ะก็ การได้เดินเล่นชมสมบัติทางวัฒนธรรมในเมืองเซ็นไดและบ้านเมืองพร้อมกับสัมผัสห้วงคำนึงของ ดาเตะ มาซามูเนะ ไปด้วย ก็น่าจะเป็นวิธีการเที่ยวเซ็นไดที่น่าสนุกเพลิดเพลินวิธีหนึ่ง ชาวเมืองเซ็นไดนั้นแม้กระทั่งตอนนี้ก็ยังชื่นชมบูชาในตัว ดาเตะ มาซามูเนะ โดยใช้คำเรียกต่อชื่อด้วยความเคารพว่า “โค” (ท่านใต้เท้า) การได้ไปตามรอยประวัติศาสตร์ของ ดาเตะ มาซามูเนะ ก็คงจะน่าสนุกดีเหมือนกันนะ
*เนื่องจากอยู่ในช่วงดำเนินมาตราการป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 วันหยุดทำการและเวลาทำการของร้านและสถานที่ต่าง ๆ อาจจะมีการปรับเปลี่ยนได้ หากต้องการข้อมูลใหม่ที่อัปเดทอย่างละเอียด โปรดตรวจสอบที่เว็บไซต์ของสถานที่นั้น ๆ
- พื้นที่
- หมวดหมู่
*Prices and options mentioned are subject to change.
*Unless stated otherwise, all prices include tax.
Recommended places for you
-
Sado Gold Mine
Winter
Niigata And Sado
-
Zuiganji Temple
Temples
Sendai And Matsushima
-
Koiwai Farm
Other Nature
Morioka, Hiraizumi And Hachimantai
-
Akiu Onsen
Hot Springs (Onsen) & Bath Houses (Sento)
Sendai And Matsushima
-
Oirase River
Rivers, Lakes & Canyons
Other Surrounding Areas Of Aomori
-
Hirosaki Park
Parks
Aomori, Hirosaki And Hachinohe
-
ถ้าจะซื้อของที่ญี่ปุ่นซื้อเมื่อไรดี?! แนะนำวิธีการซื้อของแบบเจาะลึก
-
นั่งรถไฟจากสนามบินแค่ 10 นาที! เดินเล่นหน้าวัด “Naritasan Shinshoji”
-
สิ่งของที่ควรพกติดตัวไปเวลาไปเที่ยวประเทศญี่ปุ่น
-
มนุษย์ญี่ปุ่นก็เป็นอย่างนี้แหละ! มาเรียนรู้สิ่งที่คนญี่ปุ่นชอบทำกัน
-
การเดินทางจากสนามบินนาริตะ มาประเทศญี่ปุ่นครั้งแรกก็ไม่มีปัญหา!
-
วัฒนธรรมโอะฟุโระ (การแช่น้ำร้อนญี่ปุ่น) และวิธีการใช้โอะฟุโระ