โยโดบาชิ อุเมดะ ทาวเวอร์ เปิดขึ้นที่ทางฝั่งทิศเหนือของสถานี JR โอซาก้าในปีค.ศ. 2019 เป็นศูนย์การค้าที่มี โยโดบาชิ มัลติมีเดีย อุเมดะ, LINKS UMEDA (ลิงคส์ อุเมดะ ห้างที่มีร้านค้าร่วม 200 ร้าน), โรงแรมฮันคิว เรสไปร์ โอซาก้า (โรงแรมที่มีห้องพักประมาณ 1,000 ห้อง ด้านข้างล็อบบี้มีสวนญี่ปุ่น) รวมอยู่ด้วยกัน นอกจากแหล่งช้อปปิ้งแล้วยังมี
“ลิงคส์ มาร์เช่ อีต & วอล์ค” ฟู้ดมาร์เก็ตที่ใหญ่ที่สุดในย่านอุเมดะด้วย

ร้านขายเครื่องใช้ไฟฟ้าขนาดใหญ่ที่สุดในญี่ปุ่น “โยโดบาชิคาเมร่า มัลติมีเดียอุเมดะ” ครอบครองพื้นที่ชั้นใต้ดินชั้นที่ 2 จนถึงชั้น 4 ของตึกโยโดบาชิ อุเมดะ ทาวเวอร์ ที่นี่มีขายทั้งกล้องดิจิตอล, คอมพิวเตอร์, เครื่องAV, เกม และเครื่องใช้ไฟฟ้าในบ้าน ฯลฯ ไม่เพียงแต่เครื่องใช้ไฟฟ้าอย่างเดียวเท่านั้น ที่ชั้น 2 ยังมีมุมของฝากที่รวบรวมสินค้าเมดอินเจแปน, มุมขายสุราที่มีทั้ง เหล้าญี่ปุ่น, โชจู และไวน์ และหากอยากได้กาชาปองที่เป็นสินค้าลิมิเต็ดที่มีเฉพาะในญี่ปุ่นเท่านั้น หรือพวกไอเทมสะสมที่อยากจะรวบรวมให้ครบคอลเลกชัน ก็ขอเชิญที่ตู้กาชาปองชั้น 5 ได้เลย และตั้งแต่ชั้นเก้าถึงชั้น 13 ของอาคาร เป็นร้านจอดรถที่จอดได้ถึง 1,000 คัน ถึงจะขับรถมาก็ไม่ลำบากเรื่องหาที่จอดรถ

LINKS UMEDA (ลิงคส์ อุเมดะ) เป็นอาคารสูง 8 ชั้น และมีชั้นใต้ดินอีก 2 ชั้นให้สนุกกับการช้อปและกิน มีชั้นขายสินค้าแฟชั่นหลายชั้น ขายเสื้อผ้าและเครื่องประดับ, สินค้าเบ็ดเตล็ด, อุปกรณ์กีฬา และอุปกรณ์ตกแต่งบ้าน
ชั้น 8 เป็นชั้นร้านอาหาร มีโอโคโนมิยากิและอาหารเสียบไม้ทอดที่เป็นของขึ้นชื่อของโอซาก้า ไปจนถึงอาหารนานาชาติหลากหลาย ตั้งแต่อาหารอิตาเลียน, อาหารจีน ยันอาหารเกาหลี ให้ได้เลือกอร่อยกัน

ในโยโดบาชิ อุเมดะ ทาวเวอร์/LINKS UMEDA มีป้ายหลายภาษา และมีพนักงานที่สามารถพูดภาษาต่างประเทศได้ จึงเป็นสวรรค์สำหรับการช้อปปิ้งของนักเดินทางที่ไม่มั่นใจในภาษาญี่ปุ่น และที่บัสเทอร์มินอลของโยโดบาชิ อุเมดะ ทาวเวอร์ ก็เป็นศูนย์กลางการเดินทางสู่เมืองใหญ่ที่สำคัญของญี่ปุ่น เช่น ฟุกุโอกะ, โตเกียว, จิบะ และไซตามะ เป็นต้น เป็นจุดที่เหมาะกับนักท่องเที่ยวที่อยากเดินทางไปหลาย ๆ ที่ในญี่ปุ่นมาก

นัมบะพาร์คเป็นศูนย์การค้าที่ผสมผสานด้วยพื้นที่สีเขียวธรรมชาติ มีสวนสาธารณะลอยฟ้าสร้างลดลั่นกันไล่ขึ้นไปจนถึงดาดฟ้าชั้น 9 นี่อาจจะเป็นคำอธิบายที่ธรรมดาเกินไป เพราะนี่คือผลงานการออกแบบของ จอน เจิร์ด สถาปนิกชาวอเมริกัน ที่สื่อถึงภาพแห่งโอซาก้าในโลกอนาคต และยังได้เป็นอันดับที่ 3 ในการจัดอันดับ “สุดยอดสวนลอยฟ้าระดับโลก” ของ CNN ทราเวล ถ้ามาเที่ยวที่นี่จะได้เพลิดเพลินทั้งการช้อปปิ้งและได้ชมวิวสวย ๆ ด้วย

ที่นัมบะพาร์คมีร้านเสื้อผ้า สินค้าแฟชั่น, เครื่องสำอางและผลิตภัณฑ์เสริมความงาม, สินค้าเพื่องานอดิเรกและไลฟ์สไตล์, สินค้าเด็กและทารก ฯลฯ กว่า 200 ร้าน หากชื่นชอบไฮแฟชั่น ไม่ควรพลาดแบรนด์หรูของญี่ปุ่นอย่าง “COMME des GARCONS (กอมม์ เดส์ การ์ซงส์)” หรือหากชอบสไตล์คนเมือง ก็สามารถไปเช็กเทรนด์ใหม่ล่าสุดกันได้ที่ร้าน “ANATOMY OF HEARING (อนาโตมี่ ออฟ เฮียริ่ง)” กันได้เลย

ที่ชั้น 3 กับชั้น 4 มีพาร์ค การ์เดน สวนสวยสุดอุดมสมบูรณ์ให้ไปนั่งชิวดื่มเครื่องดื่มที่สั่งแบบเทคเอาท์มาจากร้านได้ หากมาเป็นครอบครัวแนะนำให้ไปที่ “DADWAY PLAY STUDIO” ที่ชั้น 5 ซึ่งเป็นสถานที่สำหรับคุณหนู ๆ ตั้งแต่อายุ 6 เดือนหลังแรกเกิดถึง 6 ปี ระหว่างที่คุณพ่อคุณแม่พักผ่อน น้อง ๆ ก็สามารถเล่นสนุกกับของเล่นต่าง ๆ ปีนป่ายเครื่องเล่นบ้าง ลื่นกระดานลื่นบ้าง ปลดปล่อยพลังที่มีเหลือเฟือกันได้เต็มที่เลย

นัมบะพาร์คอยู่ใกล้กับสถานีนัมบะ เดินทางจากสนามบินนานาชาติคันไซได้สะดวก มีบริการชำระเงินแบบไม่ใช้เงินสดและ Wi-Fi ฟรี และยังสามารถซื้อสินค้าแบบปลอดภาษีได้ด้วย

อิออนมอลล์ ริงคู เซนนัน เป็นศูนย์การค้าที่อยู่ติดกับอ่าวโอซาก้า เดินทางโดยขึ้นรถไฟกับรถบัสมาจากสนามบินคันไซเพียงแค่ 20 นาทีเท่านั้น ภายในพื้นที่ 152,000 ตร.ม. มีร้านค้าอยู่ประมาณ 170 ร้านและโรงหนัง และที่นั่งริมระเบียงของศูนย์อาหารชั้น 2 นอกจากจะมองเห็นทะเลแสนสวยแล้ว ยังสามารถชมเครื่องบินขึ้นลงสนามบินคันไซได้ทั้งวันเลยอีกด้วย

ด้านข้างอิออนมอลล์ มี “สวนสาธารณะเซนนัน ริงคู - SENNAN LONG PARK (เซนนัน ลองก์ พาร์ค)” มีสถานที่ทำกิจกรรมครบครัน ซึ่งในนั้นก็จะมีสถานที่เล่นกีฬาขนาดใหญ่ที่สุดในญี่ปุ่นตะวันตก “ฮาร์ตธรอบ HEARTTHROB” ที่ใหญ่มาก มี 4 ชั้นจากพื้นดิน ความสูง 15.5 ม. นอกจากนี้ ในสวนยังมีพื้นที่สำหรับแกลมปิ้ง และพื้นที่ปิ้งบาร์บีคิว โดยสามารถนำวัตถุดิบจากข้างนอกเข้ามาได้ เหมาะกับการไปซื้อของเตรียมตัวที่อิออนมอลล์ ริงคู เซนนัน แล้วไปเที่ยวเล่นกันเลยนะ

เมื่อถึงตอนเย็น ที่ศูนย์อาหารที่อยู่ ณ ชั้น 2 ของอิออนมอลล์ จะสามารถชมดวงอาทิตย์ตกดินของ “หาดมาเบิล” ที่ได้รับเลือกเป็น “หนึ่งในร้อยสุดยอดวิวอาทิตย์ตกดินของญี่ปุ่น” ความทรงจำที่ได้ชมทะเลและดวงอาทิตย์ตกดินพลางทานของอร่อยชื่อดังของโอซาก้า (ทาโกะยากิ โอโคโนมิยากิ ยากิโซบะ) จะต้องป็นความทรงจำที่ดีไม่มีวันลืมแน่นอน

เนื่องจากอิออนมอลล์ ริงคู เซนนัน เป็นห้างที่มีนักท่องเที่ยวแวะเวียนมาก่อนออกจากประเทศญี่ปุ่นเยอะ จึงมีป้ายหลายภาษาไว้บริการ และที่เคาน์เตอร์ประชาสัมพันธ์ก็มีบริการหลายภาษาผ่านเครื่องแปลภาษา นอกจากนี้ยังมีล็อกเกอร์หยอดเหรียญ (แบบเสียบการ์ด) ฝากของขนาดใหญ่ ที่สามารถเก็บกระเป๋าเดินทางได้ และยังมีสถานที่สำหรับเด็ก (ห้องน้ำเด็กและสถานที่เล่นสำหรับเด็ก) เตรียมพร้อมไว้ด้วย

ยูนิเวอร์แซล ซิตี้วอล์ค โอซาก้า เป็นแหล่งช้อปปิ้งและความบันเทิงที่อยู่ติดกับยูนิเวอร์แซล สตูดิโอ เจแปน เปิดเมื่อวันที่ 22 มีนาคม ค.ศ. 2001 มีร้านอาหาร, ยูนิเวอร์แซลสตูดิโอสโตร์, โรงแรม ฯลฯ เป็นศูนย์การค้าสไตล์เดียวกับศูนย์การค้าที่อเมริกา เป็นแหล่งช้อปปิ้งที่เหมาะกับคนที่มาเที่ยวเล่นที่ยูนิเวอร์แซล สตูดิโอ เจแปน และยังสามารถนั่งรถไฟไปยังพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำ “ไคยูคัง” ของโอซาก้าได้ใกล้มาก ๆ

ถ้าพูดถึงโอซาก้า ของขึ้นชื่อก็คือทาโกะยากิ (แป้งปิ้งเป็นลูกกลม ๆ สอดใส้ปลาหมึกยักษ์หั่น) ที่ “ทาโกะปา” ในยูนิเวอร์แซล ซิตี้วอล์ค โอซาก้า มีร้านทาโกะยากิชื่อดัง 6 ร้านรวมอยู่ในที่เดียว สามารถไปสนุกกับทัวร์กินทาโกะยากิได้ บรรดาทาโกะยากิ อาหารแผงลอยประจำชาติญี่ปุ่น ที่ถูกแต่ละร้านดัดแปลงอย่างมีเอกลักษณ์นี้ คุณจะแยกความแตกต่างออกหรือไม่นะ?

ในมอลล์ยังมี “ซูชิโร่” ร้านซูชิสายพานชื่อดังของญี่ปุ่นที่มีหลายสาขา ให้คุณได้ฟินกับซูชิราคาน่าทานที่หมุนวนมาบนสายพานลำเลียง หากเป็นอาหารสไตล์อเมริกัน ขอแนะนำ “ฮาร์ดร็อคคาเฟ่”, “เรด ลอบสเตอร์”, “บับบ้า กัมพ์ ชริมป์ โอซาก้า” และ “พิงค์ คลาวด์” ที่เป็นร้านเดคอเชค (เครื่องดื่มเชคที่ตกแต่งสวยงาม) สไตล์อเมริกัน ก็มีบรรยากาศสดใส
ด้วยไฟนีออน มีคอนเซปต์โดยได้รับแรงบันดาลใจจากชายหาดตะวันตก อย่าลืมถ่ายรูปเครื่องดื่มเชคล้ำ ๆ แสนสวยเหล่านี้กันนะ!

ลาลาพอร์ต EXPOCITY เป็นศูนย์การค้าขนาดใหญ่ อยู่ในสวนอนุสรณ์บัมปาคุ ห้างที่เปิดตัวในปีค.ศ. 2015 แห่งนี้ สามารถเดินไปจากสถานีสวนอนุสรณ์บัมปาคุแค่เพียง 2 นาทีก็ถึง มีเครื่องเล่นทั้งหมด 4 เครื่องเล่น ได้แก่ “ANIPO (อานิโปะ)” ที่เด็กเล็กก็สนุกได้, “NIFREL (นิฟเรล)” พิพิธภัณฑ์แบบสัมผัสประสบการณ์ด้วยตัวเอง ที่มีเสือขาวอยู่, สวนสนุกที่มีชิงช้าสวรรค์ “OSAKA WHEEL” ซึ่งเป็นชิงช้าสวรรค์ที่ใหญ่ที่สุดในญี่ปุ่นอยู่ด้วย สามารถช้อปปิ้งและเที่ยวเล่นสนุกได้ในครั้งเดียวที่นี่เลย ภายในห้างที่กว้างขวางขนาด 172,000 ตารางเมตร มีห้องน้ำเด็ก ห้องน้ำสำหรับผู้ใช้รถเข็น (รองรับผู้ใช้ทวารเทียมด้วย) เตรียมไว้พร้อมสรรพ

ลาลาพอร์ต EXPOCITY แบ่งออกเป็น 2 ฝั่งใหญ่ ๆ ได้แก่ ฝั่งสีเขียว และฝั่งสีส้ม ฝั่งสีเขียวที่เมื่อเข้าไปแล้วอยู่ขวามือ
ที่ชั้น 1 มีร้านมูจิรูชิ เรียวฮิน ชั้น 2 มียูนิโคล่ เหล่าร้านค้ายอดฮิตของนักท่องเที่ยวอยู่ ชั้นที่ 3 เป็นศูนย์อาหารกับร้าน
ตัวการ์ตูน สามารถไปเลือกซื้อของฝากน่ารัก ๆ กันได้ที่คิดดี้แลนด์ (ร้านขายของเด็ก), ซานริโอ กิ๊ฟต์เกต, ร้านดงกุริเคียววะโคขุ ของสตูดิโอจิบลิได้ที่ชั้น 3 ส่วนฝั่งสีส้มทางซ้ายมือจากทางเข้าจะเป็นอาคารร้านอาหาร
“EXPO KITCHEN” เชื่อมต่อกับแอเรียสวนสนุกที่มีชิงช้าสวรรค์และนิฟเรล

จุดถ่ายรูปยอดฮิตที่สวนอนุสรณ์บัมปาคุก็คือ “หอคอยพระอาทิตย์” อนุสาวรีย์ที่เสมือนเป็นสัญลักษณ์ของโอซาก้าบัมปาคุปีค.ศ. 1970 (เอ็กซ์โป '70) ซึ่งชั้นใต้ดินของรูปปั้นมีร้านค้าพิพิธภัณฑ์ มีขายเสื้อยืด และสินค้าต่าง ๆ จำหน่ายเป็นของฝากและของที่ระลึก

ชินไซบาชิ PARCO เพิ่งเปิดห้างไปเมื่อวันที่ 20 พฤศจิกายน ค.ศ. 2020 นี่เอง เป็นห้างแฟชั่นที่ต้องการนำเสนอพรสวรรค์ของดีไซเนอร์และเทรนด์ล่าสุด และยังเป็น PARCO เพียงสาขาเดียวในคันไซอีกด้วย เดินทางมาสะดวกจากรถไฟใต้ดินสถานีชินไซบาชิ มีทั้งร้านแบรนด์หรูไปจนถึงแบรนด์แคชชวล ร่วม 170 ร้าน ในพื้นที่ห้างประมาณ 58,000 ตารางเมตร

หากจะเลือกซื้อของฝากญี่ปุ่นขอแนะนำร้าน “KOLOR” แบรนด์ดีไซเนอร์สุดเฉียบ, ร้านซีเล็คต์ชอป “W by SECRET BASE” ที่ตกแต่งร้านด้วยแฮมเบอร์เกอร์ยักษ์ และสามารถฟินกับของหวานในช่วงเวลาน้ำชาสวย ๆ ที่ชวนให้อัพไอจีกันได้ที่ “Emporio Armani Caffè” สุดหรู

ที่ PARCO อีเวนต์ฮอลล์ ชั้น 14 กับแกลเลอรี ป๊อปอัพ ของ PARCO ที่ชั้นใต้ดินชั้นที่ 1 มีจัดแสดงงานศิลปะที่เน้นงานศิลปะสมัยใหม่ด้วย มีหลายผลงานที่แสดงถึงความมีรสนิยมของ PARCO ได้เป็นอย่างดี คุ้มค่ากับการได้มาชม หากแวะมาอย่าลืมไปชมกันนะ


“เมืองร้านอาหาร ชินไซบาชิ นีออน” ที่เปิดเดือนมีนาคม ค.ศ. 2021 ที่ชั้นใต้ดินชั้น 1 เป็นที่พูดถึงโด่งดังในเรื่องบรรยากาศที่ดูมีความบันเทิง มาพร้อมสีสันสดใส มุมถ่ายรูปเยอะ รับรองว่าต้องถ่ายรูปออกมาสวยแน่ ๆ ที่นี่เป็นคลังสมบัติอาหารอร่อยราคาไม่แพงในบรรยากาศเปิดกว้างสามารถนั่งได้แบบสบายใจ เหมาะกับการแวะไปเติมพลังระหว่างช้อปด้วย

เทนโนจิ มิโอะ เป็นศูนย์การค้าที่เชื่อมต่อโดยตรงกับสถานีเทนโนจิที่เรียกได้ว่าเป็นประตูทิศใต้ของโอซาก้า
มี 2 อาคารได้แก่อาคารหลักและอาคารพลาซ่า ร้านค้าจำนวน 180 ร้านจากทั้งหมด 350 ร้านในเทนโนจิ มิโอะ เป็นร้านปลอดภาษี เทนโนจิ มิโอะ เป็นคำที่สร้างขึ้นจากคำว่า “Mio (แปลว่าฉันในภาษาอิตาลี)” กับ “มิโอะสึคุชิ (ผู้นำทาง)” มีความหมายว่า “ผู้นำทางของฉัน”

ในเทนโนจิ มิโอะมีร้านค้าขายเสื้อผ้าสไตล์ “สวยเนี้ยบ” ที่เป็นที่นิยมเป็นอย่างมากในหมู่สาว ๆ ญี่ปุ่นหลายร้านมากเทรนด์นี้กำลังเป็นที่นิยมที่ญี่ปุ่นในปัจจุบัน เน้นความเรียบสวยคลาสสิค ดูสะอาดตา หรือจะเรียกว่าเป็นเพรพพี้แฟชั่น ลุคคุณหนูแบบญี่ปุ่นนั่นเอง ลองเช็กเทรนด์แฟชั่นเสื้อผ้าญี่ปุ่นที่ร้านแบรนด์ญี่ปุ่น เช่น “Adam et Rope” หรือ “An MILLE” ดูกันได้เลย

คาเฟ่และร้านอาหารในเทนโนจิ มิโอะมีถึง 100 ร้าน เป็นที่พักผ่อนให้กับสาว ๆ ที่มาช้อปปิ้งร้านที่ถูกใจ ร้านขนม “อามาโต มาเอดะ” เป็นร้านขนมญี่ปุ่น ซึ่งเป็นร้านที่ขายมิทาราชิดังโงะ แบบโอซาก้าโดยเฉพาะ และ “โอโคนามิยากิ ยูคาริ” ก็เป็นร้านแนะนำเช่นกัน

ย่านเทนโนจิอยู่ห่างจากสนามบินนานาชาติคันไซในระยะเพียงแค่ 30 นาทีเท่านั้น เรียกได้ว่าเป็นพื้นที่ที่มีเพื่อคนที่ใช้ เวลาระหว่างรอต่อเครื่องที่โอซาก้าเลยก็ได้ ใกล้ ๆ กับเทนโนจิ มิโอะมีสวนสาธารณะเทนโนจิ ที่มีคาเฟ่เปิดเรียงรายในพื้นที่เปิดกว้าง, หอคอยซึเทนคาคุ ที่เล็กแต่ก็เป็นสัญลักษณ์และจุดชมวิวประจำโอซาก้า และตลาดชินเซไกให้เที่ยวด้วย

นัมบะซิตี้เป็นศูนย์การค้าที่อยู่ติดกับสถานีนัมบะ มีร้านเสื้อผ้าแฟชั่น, เครื่องสำอาง, สินค้าเบ็ดเตล็ด, ร้านอาหารและคาเฟ่ต่าง ๆ ร่วม 230 ร้าน สถานีนัมบะเป็นสถานีของรถไฟนันไคสายหลักซึ่งตรงสู่สนามบินนานาชาติคันไซเลย จึงเป็นห้างที่เดินทางมาสะดวกมาก ชั้นใต้ดินชั้นที่ 2 จนถึงชั้นบนชั้นที่ 2 รวม 4 ชั้นคืออาคารหลัก ชั้นใต้ดินชั้นที่ 1 ถึงชั้นบนชั้นที่ 2
รวม 3 ชั้นเป็นอาคารใต้

ใครชอบรองเท้า ลองไปเช็กดูรองเท้าดีไซน์ต่าง ๆ ได้ที่ “ORiental TRaffic” ซึ่งมีรองเท้าขนาดใหญ่กว่าร้องเท้าที่วางขาย ในร้านรองเท้าทั่วไปของญี่ปุ่น และหากต้องการซื้อเสื้อผ้าหรือเครื่องประดับแนวรักโลกเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ให้ไปที่ “ชิซามุ โคโบ” ซึ่งเป็นแบรนด์แฟชั่นแฟร์เทรดและใช้วัสดุธรรมชาติ

นัมบะซิตี้มอลล์ มีเคาน์เตอร์ปลอดภาษี, บริการรับฝากสัมภาระ, ห้องละหมาดสำหรับนักท่องเที่ยวชาวมุสลิม, Wi-Fi ฟรี, บริการชำระเงินด้วยบัตรเครดิตหลากหลายชนิด เช่น บัตรกินเร็นของจีน หรือบริการชำระเงินด้วยคิวอาร์โค้ด (Alipay, WeChat Pay) นับว่าเป็นห้างที่มีการเตรียมพร้อมด้านการบริการ ที่ช่วยให้นักท่องเที่ยวชาวต่างชาติสามารถเข้ามาใช้งานได้อย่างสะดวกสบาย

ด้านนอกสถานีนันไคนัมบะ มี “นัมบะกาเลเรีย” ซึ่งเป็นพื้นที่ที่มีหน้าจอขนาดใหญ่ของ Panasonic อยู่ ซึ่งส่วนใหญ่จะฉายโฆษณา บริเวณนี้มีผู้คนสัญจรไปมาเฉลี่ยวันละ 770,000 คน ถือว่าเป็นจุดนัดพบยอดนิยมของย่านนี้

อาเบะโนะ คิวส์ มอลล์ เป็นห้างที่เปิดบริการในปีค.ศ. 2011 ในย่านอาเบะโนะเทนโนจิ ที่เป็นที่รู้จักในฐานะเมืองที่ใหญ่เป็นอันดับ 3 ในโอซาก้า ในห้างแบบเปิดที่มีอากาศถ่ายเทและแสงธรรมชาติเข้าถึงเยอะ บรรยากาศดีมาก ๆ แห่งนี้ มีร้านค้าประมาณ 250 ร้าน อีกทั้งยังเดินทางสะดวก ใกล้กับสถานีรถไฟใต้ดินสถานีอาเบะโนะ กับสถานีเทนโนจิมาก

ใน อาเบะโนะ คิวส์ มอลล์ มี SHIBUYA109 สาขาอาเบะโนะ ซึ่งมีร้านเสื้อผ้าผู้หญิง, เครื่องประดับ, รองเท้า ฯลฯ ประมาณ 30 ร้าน เนื่องจากชิบูย่า 109 เป็นห้างแฟชั่นที่โด่งดังแห่งหนึ่งในชิบูย่า โตเกียว ซึ่งสามารถหาซื้อไอเทมใหม่ล่าสุดได้ในราคาสบายกระเป๋า ที่นี่จึงมักมีลูกค้าแน่นเสมอเช่นกัน และที่ชั้น 1 มีอิโตโยคะโด ซูเปอร์มาร์เก็ตที่ขายอาหารและสินค้าในชีวิตประจำวัน

ที่เวที คิวส์ สเตจ ชั้น 1 อาคารตะวันตก ก็มีการจัดอีเวนต์สดร่วมกับดาราดัง และที่ Q’sPARK ลานเล่นฟรีสำหรับเด็กที่อยู่ในอาเบะโนะ คิวส์ มอลล์ ก็มีจัดอีเวนต์ของคอมมูนิตี้ในท้องถิ่นด้วย

สถานี JR โอซาก้า รีโนเวทใหม่ในวันที่ 4 พฤษภาคม ค.ศ. 2011 เชื่อมฝั่งเหนือกับใต้ เป็นสถานีร่วมกับศูนย์การค้าที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในญี่ปุ่นตะวันตก

ฝั่งเหนือเป็นศูนย์การค้า “LUCUA” และฝั่งใต้เป็นห้างเก่าแก่ “ไดมารูสาขาอุเมดะ” สูง 17 ชั้น และที่ชั้น 13 ของโอซาก้าสเตชั่นซิตี้นั้นรับรองว่าสายป๊อปคัลเจอร์ญี่ปุ่นต้องกรี๊ดแน่ ๆ เพราะมีทั้งโปเกมอนเซ็นเตอร์โอซาก้า และร้านรถกับรถไฟของเล่นชื่อดังอย่างโทมิกะด้วย

โอซาก้าสเตชั่นซิตี้ นอกจากจะเป็นศูนย์การค้าที่มีขนาดใหญ่ในโอซาก้าแล้ว ยังมีจุดที่ช่วยสร้างความสนุกเพลิดเพลิน
ให้กับผู้ที่มาเที่ยวอย่างมีเอกลักษณ์อยู่ถึง 8 แห่ง พื้นที่บริเวณจุดเชื่อมต่อฝั่งเหนือกับฝั่งใต้ มีชื่อว่า “โทกิโนะฮิโรบะ” หรือลานแห่งเวลา เป็นแอเรียที่แฟนรถไฟญี่ปุ่นจะต้องถูกใจแน่, “ไทโยโนะฮิโรบะ” ลานกว้างดวงอาทิตย์อยู่ที่ระเบียงชั้น 16, 17, 18 ของฝั่งใต้ เป็นที่ให้หยุดพักได้อย่างดี ในฤดูร้อนมีจัดเป็นลานเบียร์ด้วย และในฝั่งใต้มี “สกายฟาร์ม” ที่ปลูกผักและผลไม้สดไว้ด้วย

“นาฬิกาน้ำ” ที่อยู่ทางตึกประตูทิศใต้ซึ่งได้รับเลือกให้เป็นหนึ่งใน “นาฬิกาที่สวยที่สุดในโลก” โดย CNN ทราเวล ก็สวยจนต้องตะลึง นาฬิกานี้ใช้สายน้ำที่ไหลตกลงมาแสดงเป็นเวลาและยังแสดงเป็นภาพ หรือข้อความต่าง ๆ ได้ด้วย

นัมบะสกายโอ เป็นศูนย์รวมสินค้าผลิตในญี่ปุ่น เช่น ชาเขียว, มีด เป็นต้น เหมาะกับการหาซื้อของฝากแบบญี่ปุ่นแท้ ๆ ในโอซาก้า ศูนย์การค้าที่เปิดตัวในวันที่ 17 ตุลาคม ค.ศ. 2018 แห่งนี้ เดิมทีเป็นที่ตั้งของบริษัทแม่ของบริษัทรถไฟฟ้านันไค เป็นตึกสูง 30 ชั้น แต่ร้านค้าและร้านอาหารจะอยู่ที่ชั้น 2 ถึงชั้น 6 แต่ละชั้นจะแบ่งเป็นคอนเซ็ปต์ เช่น ความเป็นญี่ปุ่นแบบดั้งเดิม, วัฒนธรรม, สุขภาพ เป็นต้น เพื่อให้ผู้ที่มาเยือนสามารถเดินเลือกซื้อสินค้าได้อย่างเพลิดเพลิน

“โรงอาหารโซจิรูชิ” คือภัตตาคารที่บริษัทผลิตหม้อหุงข้าวไฟฟ้าเปิดขึ้นเพื่อแนะนำสินค้าของบริษัท สามารถไปลิ้มลองรสชาติอาหารประจำบ้านแบบนานิวะ (ชื่อเรียกโอซาก้าอีกชื่อหนึ่ง) ที่อบอุ่นทั้งร่างกายและจิตใจได้ และหากใครชอบดื่มชา ลองแวะไป “ซาเรียว ซึโบอิจิเซอิฉะ สาขาหลัก” ดูนะ ที่นั่นจะได้ดื่มชาจากเมืองบ้านเกิดของ
เซน โนะ ริคิว ปรมาจารย์ด้านชาของญี่ปุ่น สินค้าในร้าน มีทั้งมัทฉะลาเต้, ขนมญี่ปุ่น, ไปจนถึงเหล้าชา


ส่วนเชฟ ตั้งแต่มือโปรจนถึงมือสมัครเล่น เมื่อได้มาที่ “JIKKO/มีดจิคโค” ก็คงต้องตกตะลึงในความละลานตาของสินค้าแน่นอน ร้านนี้เป็นร้านมีดโดยเฉพาะ ถือกำเนิดที่เมืองซาไก โอซาก้า ที่นี่ขายมีดญี่ปุ่นหลากหลายชนิด

ชินไซบาชิโอปะเป็นช้อปปิ้งมอลล์ที่สามารถสัมผัสถึงเทรนด์ล่าสุดของโอซาก้าได้ในทันที สายแฟชั่นห้ามพลาดที่นี่เลย
ชินไซบาชิ เป็นศูนย์กลางแฟชั่นของโอซาก้าอยู่แล้ว และมักจะมีบรรยากาศที่คึกคักด้วยวัยรุ่นเสมอ ที่ชินไซบาชิโอปะ จึงมีแบรนด์สำหรับคนหนุ่มสาวมากมาย มีทั้งแบรนด์ต่างประเทศอย่าง LILY BROWN และแบรนด์แฟชั่นญี่ปุ่น เช่น EGOIST, SLY และอื่น ๆ บรรดาแบรนด์ที่เป็นที่รักของสาว ๆ ได้มารวมตัวกันอยู่ที่นี่แล้วล่ะ

FOOD STAND SHINSAIBASHI ก็เป็นฟู้ดคอร์ตชั้นใต้ดินชั้น 2 ที่สามารถแวะไปได้ง่าย ๆ เป็นจุดทานอาหารเที่ยงของคนทำงานแถวชินไซบาชิด้วย มีทั้งอุด้งมารุกาเมะ เซเม็ง ที่ดังในต่างประเทศ, เบอร์เกอร์คิง ฯลฯ แวะไปทานให้อิ่มท้องในราคาสุดคุ้มค่าได้เลย

เนื่องจากแถวนี้เป็นย่านที่มีผู้มาเยือนชาวต่างชาติจำนวนมาก จึงมีป้ายที่เป็นรูปภาพเพื่อให้สื่อสารกับคนได้ทุกเชื้อชาติ ชั้นใต้ดินชั้น 2 ของอาคารหลักมีห้องน้ำเด็ก, ห้องน้ำหลากวัตถุประสงค์, ห้องน้ำรองรับทวารเทียมเตรียมไว้ด้วย และที่ชั้น 3 อาคารหลักก็มีห้องให้นมทารก ดังนั้นถึงจะมีเด็กทารกตัวน้อยมาด้วย ก็ช้อปปิ้งอย่างสนุกสนานได้


ห้างอยู่เชื่อมกับทางออก 7 ของ “สถานีชินไซบาชิ” เลย จึงสะดวกต่อการเดินทางมาก ส่วนชื่อโอปะ ที่ฟังดูแปลกหูนั้น มีที่มาจากตัวอักษรตัวแรกของคำว่า “Oriental Park Avenue” นั่นเอง

“การเดินทางไปยังชินไซบาชิโอปะ”
ขึ้นรถไฟใต้ดินสายมิโดซึจิ หรือ สายนางาโฮริ สึรุมิ เรียวคูจิ ลงที่ “สถานีชินไซบาชิ” ออกทางออก 7 ก็ถึงทันที

แกรนฟร้อนต์ โอซาก้า ชอป & เรสเตอร์รองต์ เป็นอาคารที่มี ลานกว้างอุเมคิตะฮิโรบะ, ออฟฟิศ, โรงแรม, คอนโดหรู รวมอยู่ด้วยกัน แยกเป็นอาคารทิศเหนือ อาคารทิศใต้ และอาคารลานกว้างอุเมคิตะฮิโรบะ เปิดบริการเมื่อวันที่ 26 เมษายน ค.ศ. 2013

ภายในอาคารทิศใต้มีร้านค้าประมาณ 170 ร้าน มีทั้งร้านแฟชั่น, อินทีเรีย, ของเบ็ดเตล็ด, ร้านหนังสือขนาดใหญ่, ภัตตาคารและคาเฟ่ ฯลฯ ร้านแฟลกชิป สโตร์จากแบรนด์ต่าง ๆ ของญี่ปุ่นตะวันตกมากมาย ที่ชั้น 5 เป็นชั้นอุปกรณ์กีฬา มีสินค้าเฉพาะทาง เช่น อุปกรณ์ปีนเขา ชุดโยคะ และอื่น ๆ มากมายครบครัน และที่ชั้น 6 เป็นร้านหนังสือขนาดใหญ่ มีคาเฟ่ด้วย เรียกว่าสร้างมาเพื่อให้นั่งชิลเลยทีเดียว ส่วนชั้น 7 กับชั้น 8 นั้นเป็นร้านอาหาร

อาคารทิศเหนือไม่ได้มีเพียงแค่แหล่งช้อปปิ้ง แต่มีสถานที่ที่ชื่อว่า “KNOWLEDGE CAPITAL” ที่ดูแลบริหารโดยบริษัทและศูนย์วิจัยที่มีเทคโนโลยีล่าสุดของญี่ปุ่น ให้ไปสัมผัสประสบการณ์เรียนรู้กันได้ตั้งแต่เด็กจนถึงผู้ใหญ่ด้วย ที่นี่คุณจะสามารถสัมผัสถึงเทคโนโลยีของญี่ปุ่นและของโลกได้พร้อม ๆ กับการเล่นสนุกเลย

สถานที่แนะนำสำหรับอาคารทิศเหนือคือ กราวิตี้ รีเซิร์ช อุเมดะ และสถาบันวิจัยการประมงมหาวิทยาลัยคินคิ ที่อยู่ที่ชั้น 6 ที่กราวิตี้ รีเซิร์ช อุเมดะเจ้าของโคจิทสึซังโซ (ร้านสำหรับอุปกรณ์ปีนเขาและกิจกรรมเอาท์ดอร์โดยเฉพาะ) เราสามารถไปสนุกกับการปีนเขาในร่มได้ และที่สถาบันวิจัยการประมงมหาวิทยาลัยคินคิก็มีปลาที่ทางมหาวิทยาลัยเพาะเลี้ยง มาเสิร์ฟเป็นอาหารชุดปลาดิบให้ได้ทาน ไปลิ้มรสชาติผลผลิตจากเทคโนโลยีการเพาะเลี้ยงชั้นยอด
ของญี่ปุ่นกันเลย

แกรนฟร้อนต์โอซาก้า สามารถเดินทางไปจากสถานี JR โอซาก้า กับสถานีคิตะชินจิได้ โรงแรม InterContinental Osaka ที่เชื่อมต่อกับสถานี JR โอซาก้า คือชั้น 20 ของอาคารทิศเหนือ

เท็มโปซัง มาร์เก็ตเพลส เป็นศูนย์การค้าติดกับไคยูคัง (พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำขนาดใหญ่ระดับโลก) มีร้านค้าแฟชั่น, สินค้าเบ็ดเตล็ด, ของฝากโอซาก้า เป็นต้น รวมประมาณ 80 ร้าน เช่น ร้าน “อิมะ วะ มูกาชิ” เป็นร้านขายชุดจิมเบสำหรับเด็ก ที่ทำจากผ้าเนื้อดีใส่สบายและมีลวดลายน่ารัก เรียกว่าเป็นของฝากที่ใช้งานได้จริง, ร้าน “โมริโนะ แซมเปิ้ล” ร้านนี้ ขายตัวอย่างอาหารจำลองทำจากพลาสติกเหมือนจริงจนน่าตกใจ ที่พบเห็นได้ตามหน้าร้านอาหารญี่ปุ่นบ่อย ๆ ลองไปหาชิ้นที่ชอบ แล้วซื้อกลับไปแกล้งแขกที่มาหาดูกันไหมล่ะ?

ในมาร์เก็ตเพลส มีธีมพาร์คศูนย์อาหารชื่อ “นานิวะ คุยชิมโบ โยโกะโจ” ที่จำลองบรรยากาศเมืองโอซาก้าในยุคปีโชวะ 40 มีอาหารแผงลอย เช่น อิกะยากิ (อาหารทานเล่นของโอซาก้าที่ทำจากปลาหมึกชุบแป้งปิ้งกดบนกระทะเหล็ก), คุชิคัตสึ (หมูเสียบไม้ทอด) และแน่นอนที่สุด อาหารประจำถิ่นโอซาก้าอย่าง ทาโกะยากิ และโอโคโนมิยากิ ซึ่งร้านแผงลอยทั้งหลายเหล่านี้ต่างได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก

ใครเป็นแฟนตัวต่อเลโก้ จะต้องสนุกกับ “เลโก้แลนด์” ของโอซาก้า ที่มีทั้งยานพาหนะและพื้นที่ให้เล่นมากมายแน่ และพิกัดยอดนิยมอีกที่คือ “สวนสัตว์อานิปะ” สวนสัตว์ในร่มที่ให้ได้สัมผัสอย่างใกล้ชิดกับสัตว์ตั้งแต่สุนัข, แมว, คาปิบารา, ไปจนถึงจิงโจ้ และเนื่องจากเป็นพื้นที่ในร่ม จึงสามารถสนุกกับครอบครัวได้เต็มที่แม้ในวันที่ฝนตกหรืออากาศหนาว

สมัยที่เพิ่งเปิดทำการในปีค.ศ. 1997 ชิงช้าสวรรค์ยักษ์ของเท็มโปซังถือว่าเป็นชิงช้าสวรรค์ที่สูงที่สุดในโลก ซึ่งปัจจุบันนี้แม้จะเสียตำแหน่งที่หนึ่งในโลกไปแล้วก็ตาม แต่ตัวตนการมีอยู่ของชิงช้านี้ก็ยังโดดเด่นไม่ธรรมดาเลย ตอนกลางคืนมีการใช้สีของไฟชิงช้าสวรรค์แจ้งสภาพอากาศ และยังสามารถขึ้นไปนั่งชมวิวภูเขาอิโกมะ และสนามบินคันไซเพลิน ๆ ได้ด้วย

“LUCUA โอซาก้า” เป็นศูนย์การค้าในสถานีที่มีขนาดใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งในญี่ปุ่น เชื่อมต่อกับสถานี JR โอซาก้า มีอาคารตะวันตกกับอาคารตะวันออก

LUCUA มีกลุ่มเป้าหมายคือเวิร์กกิ้งวูแมน ผู้หญิงยุคใหม่มีสไตล์ ที่ต้องการสินค้าที่ทั้งสามารถใช้ได้จริงและความหรูหรา คนโอซาก้าชอบเล่นคำ ตั้งชื่อ LUCUA เลยมาจาก อักษรตัวแรกของคำว่า “Lifestyle (รูปแบบการดำเนินชีวิต), Urban (เมืองใหญ่), Current (ปัจจุบัน), Axis (แกนหรือเพลาขับเคลื่อน) และในคำอ่านลูคูอะ (ลูคัว) ยังพ้องเสียงคล้ายกับคำว่า
“Look up (มองขึ้นบน)” กับ “อารูคุ (เดินหน้าในภาษาญี่ปุ่น)” คำนี้จึงมีความหมายว่าอยากให้ทุกคนได้เดินเล่น หรือเดินดูของเพลิน ๆ และมีช่วงเวลาที่ดีรวมอยู่ด้วย ในห้างมีแบรนด์ “Mila Owen” ซึ่งขายสินค้าแฟชั่นแนวโมเดิร์นและสง่างามสำหรับสุภาพสตรี และ “BEAMS” แบรนด์สุดเก๋ ที่มีต้นกำเนิดจากฮาราจูกุย่านแฟชั่นของแท้ มีทั้งสินค้าของชายและหญิง และมีสินค้าคอลแลปกับแบรนด์อื่น ๆ ด้วย

LUCUA 1100 นั้น เต็มไปด้วยร้านค้าที่หลากหลาย ชื่อนี้ใช้การพ้องเสียงคำว่า “senmonten” ในภาษาญี่ปุ่นที่แปลว่าร้านโดยเฉพาะทาง กับ “1,000 (sen)” และ 100 (hyakku)” ซึ่งพ้องกับคำว่าห้างสรรพสินค้าที่ในภาษาญี่ปุ่นเรียกว่า “hyakkaten” รวมกันเป็น “1,100 (sen hyakku)” ซึ่งอ่านอีกอย่างได้ว่า “อีเร” ในภาษาญี่ปุ่น ซึ่งไปพ้องเสียงตรงกับคำว่า “ihre (ของคุณ)” ในภาษาเยอรมัน ที่นี่จึงมีความหมายว่าเป็น “ร้านของคุณ” ที่ผู้ที่มาเยือนทุกคนสามารถเพลิดเพลินได้ ใน LUCUA 1100 มีร้านมากมาย เช่น “ดงกุริเคียววะโคขุ” ร้านค้าทางการของ “สตูดิโอจิบลิ” สตูดิโออนิเมชันชื่อดังของญี่ปุ่น และร้านของจิปาถะ เก๋ ๆ สวย ๆ “LOFT”, และซูเปอร์มาร์เก็ตใบชา “รูปิเชีย” ฯลฯ

เราได้แนะนำช้อปปิ้งมอลล์ยอดนิยม 15 อันดับจากความเห็นผู้อ่าน “LIVE JAPAN” กันไปแล้ว กำลังคิดว่ามีแต่ห้างที่น่าสนใจทั้งนั้นเลย ลังเลจัง…อยู่ใช่ไหมล่ะ?! แต่ละที่ก็มีลักษณะโดดเด่นเฉพาะตัว และร้านค้าที่มีก็แตกต่างกัน
ถ้าคิดไว้ก่อนว่าตัวเองต้องการซื้อของฝากอะไร แนวไหนแล้วค่อยออกเดินทางก็สะดวกดีนะ ในห้างมีทั้งร้านอาหารและคาเฟ่มากมาย หากเดินกันเหนื่อยแล้วก็ไปแวะพักกันได้

มีช้อปปิ้งมอลล์ที่เดินทางสะดวกจากสถานีใหญ่ ๆ ของโอซาก้ากับสนามบินอยู่มากมาย หลังไปเที่ยวตามแหล่งท่องเที่ยว
ต่าง ๆ แล้ว อย่าลืมค้นหา “ศูนย์การค้าใกล้ฉัน” แล้วลองไปเดินเล่นดูก็น่าสนุกดีเหมือนกัน เที่ยว เล่น กิน ช้อปให้เต็มที่ ขอให้สนุกกับทริปโอซาก้ากันนะ!

*เนื่องจากอยู่ในช่วงดำเนินมาตราการป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 วันหยุดทำการและเวลาทำการของร้านและสถานที่ต่าง ๆ อาจจะมีการปรับเปลี่ยนได้ หากต้องการข้อมูลใหม่ที่อัปเดทอย่างละเอียด โปรดตรวจสอบที่เว็บไซต์ของสถานที่นั้น ๆ