สมัยก่อนชิบูยะเป็นหมู่บ้านเกษตรกรรม จากตอนนี้คงจะจินตนาการกันไม่ถูกเลยใช่ไหมคะ เมื่อก่อนพื้นที่นี้เคยล้อมรอบไปด้วยหุบเขา ตามตัวอักษรคันจิที่อยู่ในชื่อ แต่ในช่วงก่อนสงครามก็เริ่มมีห้างสรรพสินค้าโตโยโค (ปัจจุบันคือห้างสรรพสินค้าโตคิว) ส่วนช่วงหลังสงครามก็เริ่มมีการสร้างหอดูดาวและโรงภาพยนตร์ และเมื่อมีการจัดงานโตเกียวโอลิมปิกขึ้นในปี 1964 ชิบูยะก็กลายเป็นเมืองที่ใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ หลังจากนั้นในปี 1970 ก็ได้มีการสร้าง Shibuya109 และ PARCO ซึ่งเป็นแหล่งรวมสินค้าแฟชั่น ทำให้คนหนุ่มสาวเริ่มมารวมตัวกัน และได้กลายเป็น “ถิ่นกำเนิด” ของแฟชั่นสาวแกล ซึ่งเป็นที่นิยมในช่วงปี 1990 และได้กลายเป็นคลื่นลูกใหญ่ของวงการแฟชั่น หลังจากนั้นก็มีคลับ ไลฟ์เฮาส์ และร้านเสื้อผ้าแฟชั่นสำหรับวัยรุ่นเกิดขึ้นมากมาย ดังนั้นคนญี่ปุ่นจึงมีภาพลักษณ์อย่างแรงกล้าว่า “ชิบูยะ=ย่านวัยรุ่น” นั่นเอง

Recommended Spots

ปัจจุบัน ภาพลักษณ์ของชิบูยะค่อยๆ เปลี่ยนไป กลายเป็นเมืองที่มีเอกลักษณ์ทางด้านวัฒนธรรมมากมายหลายประเภทมารวมเข้าด้วยกัน อย่างเช่นในวันฮาโลวีนจะมีผู้คนมากมายแต่งชุดแฟนซีมารวมตัวกันที่ห้าแยกชิบูยะ ซึ่งเป็นภาพที่มีชื่อเสียงอย่างหนึ่งของเมืองนี้ ปกติจะไม่กล้าแม้จะแต่งตัวหรือทำอะไรแปลกๆ “แต่ถ้าเป็นที่ชิบูยะอะไรๆ ก็เป็นที่ยอมรับได้” ในขณะเดียวกัน ศูนย์การค้าที่มีบรรยากาศเงียบสงบแบบผู้ใหญ่อย่าง “Shibuya Hikarie” หรือ “SHIBUYA STREAM” ก็เพิ่มขึ้น ทำให้ช่วงวัยของคนที่มาเยือนก็กว้างขึ้นเช่นกัน นอกจากนี้ปัจจุบันพื้นที่หลายส่วนก็เริ่มพัฒนาขึ้นอีกครั้ง เพื่อต้อนรับงานโตเกียวโอลิมปิกที่จะมีขึ้นในปี 2020 นี้อีกด้วย

ปัจจุบัน ชิบูยะซึ่งเป็นสถานที่ท่องเที่ยวชื่อดังระดับโลก มีนักท่องเที่ยวชาวยุโรปและอเมริกามาเยือนมากที่สุดเป็นอันดับ 1 ในญี่ปุ่น และยังเป็นเมืองที่ได้รับความคาดหวังมากเป็นอันดับ 1 ในหลายๆ ประเทศอีกด้วย (จากการสำรวจของกรมอุตสาหกรรมและแรงงานโตเกียว ปี ค.ศ.2017) ในต่างประเทศเองก็เป็นที่รู้จักกันดีในฐานะเมืองที่เป็นแหล่งกำเนิดของความนิยมใหม่ๆ ของประเทศญี่ปุ่น ดังนั้น “หากมาที่นี่ก็จะได้รู้จักประเทศญี่ปุ่นในแบบใหม่ล่าสุด!” ทำให้ทัวร์ชิบูยะสำหรับนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติได้รับความนิยมขึ้นอย่างล้นหลาม นอกจากนี้ยังมีร้านค้ามากมายที่ปิดให้บริการช้า จึงสามารถสนุกต่อได้ในช่วงเวลากลางคืน จึงเป็นสถานที่ที่สะดวกสบายเหมาะสำหรับนักท่องเที่ยวที่อยากจะเที่ยวตั้งแต่เช้าตรู่ถึงดึกดื่น

บริเวณรอบๆ สถานีชิบูยะมีศูนย์การค้าขนาดใหญ่ที่เชื่อมต่อกับสถานีหรือศูนย์การค้าที่สามารถเดินไปได้ในระยะใกล้ๆ มากมาย ตั้งแต่ “SHIBUYA109” ผู้กุมบังเหียนวัฒนธรรมวัยรุ่นของชิบูยะ ไปจนถึง “Shibuya Hikarie” แหล่งรวมร้านค้าหรูหราสำหรับหญิงสาววัยทำงาน และยังมี “Shibuya MODI” แหล่งรวบรวมสินค้าประเภทตกแต่งบ้านและสินค้าเบ็ดเตล็ดสำหรับไลฟ์สไตล์สมัยใหม่ เป็นสถานที่ที่เหมาะเป็นอย่างยิ่งสำหรับผู้ที่อยากมาสัมผัสกับความนิยมแบบใหม่ล่าสุดของประเทศญี่ปุ่น นอกจากนี้ยังมีร้านเครื่องใช้ไฟฟ้า เช่น BIC CAMERA, YAMADA DENKI ร้านขายสินค้าเบ็ดเตล็ดสำหรับชีวิตประจำวัน เช่น Loft หรือ TOKYU HANDS และ ร้าน 100 เยน เช่น DAISO, Can Do และร้านอื่นๆ ที่เหมาะแก่การเลือกซื้อของฝากอีกมากมาย

Recommended Spots

เมื่อพูดถึงแหล่งท่องเที่ยวของชิบูยะแล้วล่ะก็ จะต้องนึกถึง scramble crossing หรือห้าแยกขนาดใหญ่ตรงข้ามสถานีชิบูยะ ที่ว่ากันว่าในวันที่คนเยอะจะมีคนข้ามถนนถึงครั้งละ 3000 คน และมากถึง 5 แสนคนต่อวัน ชาวต่างชาติเห็นแล้วจะต้องนึกถึงคำว่า “the TOKYO” และเช่นเดียวกับห้าแยกแห่งนี้ที่ผู้คนมากมายจากทั่วโลกมาเดินสวนกัน ตัวเมืองชิบูยะเองก็เป็นเมืองที่อยู่ใจกลางเมืองซึ่งเต็มไปด้วยเอกลักษณ์เฉพาะตัวต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นย่านที่เป็นต้นกำเนิดวัฒนธรรมที่เป็นที่นิยมอย่าง “ฮาราจูกุ” หรือย่านที่เป็นแหล่งรวมสินค้าแบรนด์เนมชั้นนำจากทั่วโลกอย่าง “อาโอยามะ/โอโมเทะซันโด” หรือย่านไดคันยามะที่มีร้านตกแต่งสวยงาม ซึ่งกำลังเป็นที่นิยม มากมาย ซึ่งไม่ว่าจะเป็นย่านไหนก็สามารถเดินไปได้จากชิบูยะ

Recommended Spots

เรียกได้ว่าไม่มีความบันเทิงใดที่ไม่สามารถหาได้ที่ชิบูยะ ไม่ว่าจะเป็นคาราโอเกะที่กลายเป็นคำที่ใช้ร่วมกันทั่วโลก เกมเซ็นเตอร์ มังงะคาเฟ่ ลานกีฬาสำหรับเล่นโบว์ลิ่งหรือปิงปอง หรือร้านที่สามารถทดลองเล่น VR เรียกว่ามีที่สำหรับให้ไปเที่ยวเล่นได้มากมาย และแน่นอนว่าไม่เฉพาะนักท่องเที่ยวต่างชาติเท่านั้น คนญี่ปุ่นเองก็มาใช้บริการกันเยอะเช่นกัน อาจจะได้มีโอกาสได้สนิทสนมและเล่นด้วยกันก็ได้นะ!

Recommended Spots

ชิบูยะยังเป็นเมืองที่โด่งดังในด้านศิลปะและวัฒนธรรมอีกด้วย โดยทุกท่านสามารถสัมผัสกับศิลปะการแสดงใหม่ล่าสุดได้ที่ “Bunkamura” โรงละครขนาดใหญ่ซึ่งสามารถชมได้ทั้งคอนเสิร์ต โอเปร่า และละครเวที “Shibuya Hikarie” ที่มีทั้ง ห้องแสดงผลงานศิลปะและโรงละคร นอกจากนี้ยังมีไลฟ์เฮาส์และคลับอีกมากมาย เรียกได้ว่าวัฒนธรรมดนตรีนั้นเป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้สำหรับชิบูยะเลยทีเดียว

Recommended Spots

แต่ละย่านในชิบูยะจะมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว บรรยากาศก็ต่างกันไปอย่างสิ้นเชิง ในครั้งนี้เราจะขอแนะนำลักษณะพิเศษของย่านต่างๆ อย่างคร่าวๆ

ย่าน Center Town / อุดะกะวะโจ
จากหน้ารูปปั้น “สุนัขผู้ซื่อสัตย์ฮาจิโค” ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ที่เป็นที่รู้จักกันดีของชิบูยะ ข้ามห้าแยกใหญ่ไปฝั่งตรงข้าม จะเจอกับร้านอาหาร เกมเซ็นเตอร์ ร้านขายซีดี ร้านขายสินค้าเบ็ดเตล็ด และร้านค้าอื่นๆ เรียงรายอยู่มากมาย ย่านนี้เป็นสัญลักษณ์ของเมืองชิบูยะ โด่งดังในฐานะที่เป็นย่านที่นักเรียนมัธยมและวัยรุ่นนิยมมารวมตัวกันมาตั้งแต่สมัยก่อน ส่วนอุดะกะวะโจที่อยู่ถัดไปมีร้านขายของจิปาถะอย่าง “ร้าน 100 เยน”, “TOKYU HANDS”, “Shibuya Loft” และยังมีร้านขายเสื้อผ้าอีกมากมาย

ย่านโดเก็นซากะ / ถนนบุงขะมุระ
แอเรียนี้มี “SHIBUYA109” ซึ่งเป็นสถานที่ที่ห้ามพลาดในชิบูยะเป็นศูนย์กลาง ล้อมรอบด้วยร้านขายเครื่องใช้ไฟฟ้าอย่าง “BIC CAMERA” “YAMADA DENKI” และร้านค้าที่เป็นที่นิยมในหมู่ชาวต่างชาติอย่างยูนิโคล่หรือดองกิโฮเต้ นอกจากนี้ยังมีร้านอาหาร บาร์ ไลฟ์เฮาส์ หรือคลับสวยๆ และมีสถานที่ลับสำหรับวงในอย่างโรงแรมสำหรับผู้ใหญ่ด้วย

ย่านโอคุชิบูยะ
สุดถนนบุงกะมูระ บริเวณที่เดินจากสถานีชิบูยะประมาณ 10 นาที เป็นย่านที่ได้รับการจับตามองมากขึ้นในปัจจุบัน เนื่องจากเริ่มมีร้านกาแฟ, ร้านค้า และห้องจัดแสดงผลงาน ซึ่งตกแต่งอย่างสวยงามและกำลังเป็นที่นิยม ย่านนี้จะยังคงบรรยากาศเงียบสงบอย่างสมัยเก่า ต่างกับบรรยากาศคึกคักของย่านร้านค้าหน้าสถานี

ย่านถนนโคเอ็น
หากข้ามสี่แยกใหญ่ไปทางขวา ผ่าน “Shibuya MARUI” กับ “SHIBUYA MODI” ไปทาง “สวนสาธารณะโยโยงิ” ก็จะเจอกับถนนที่เป็นเนินย่อมๆ นั่นก็คือโคเอ็นโดริ นอกจากห้างสรรพสินค้ามารูอิกับเซบุแล้ว ยังมีคาเฟ่ ร้านขายของจิปาถะ และร้านอาหารมากมายตลอดทาง บรรยากาศจะสงบกว่าหน้าสถานีเล็กน้อย

ย่านมิยามาสุซากะ / ถนนมิทาเกะ
ฝั่งประตูทิศตะวันออกของสถานีชิบูยะ มีตึก “Shibuya Hikarie” ซึ่งเป็นตึกระฟ้าสูง 34 ชั้น และใต้ดินอีก 4 ชั้นเป็นสถานที่ที่ห้ามพลาด อีกทั้งยังเชื่อมกับถนนอาโอยามะซึ่งจะต่อไปถึงโอโมเทะซันโด ย่านซึ่งเป็นที่นิยมของวัยผู้ใหญ่ที่ชอบของสวยๆ งามๆ อีกทั้งยังมีร้านกาแฟและร้านอาหารมากมาย

ตำแหน่งที่ตั้งของชิบูยะนั้นอยู่เกือบกึ่งกลางกรุงโตเกียว ไม่ว่าจะอยู่ที่ไหนก็สามารถเดินทางไปได้อย่างสะดวกสบาย

รถไฟ
ชิบูยะเป็นสถานีชุมทางที่มีรถไฟสายต่างๆ ตัดผ่านมากมาย หนึ่งในสถานีที่สำคัญของโตเกียวทั้ง 23 เขต ใช้เวลาเดินทางจากสถานีชินจูกุประมาณ 7 นาที, จากสถานีโตเกียวประมาณ 25 นาที, จากสถานีโยโกฮาม่าประมาณ 30 นาที และจากสนามบินฮาเนดะประมาณ 40 นาที เนื่องจากมีรถไฟสายต่างๆ ตัดผ่านมากมาย ช่องตรวจตั๋วและทางออกของแต่ละสายก็เยอะตามไปด้วย ซึ่งอาจจะทำให้เกิดความสับสนสำหรับท่านที่เดินทางมาเป็นครั้งแรก บางช่องอาจต้องเดินต่อจากช่องตรวจตั๋วนานถึง 5 นาทีจึงจะถึงทางออก จึงขอแนะนำให้ทุกท่านเผื่อเวลาในการเดินออกจากสถานีกันเอาไว้ด้วย

●สายรถไฟที่สามารถใช้เดินทางได้
JR: Yamanote, Saikyo, Shonan-Shinjuku, Narita Express
Tokyo Metro: Ginza, Hanzomon, Fukutoshin
Keio: Inokashira
Tokyu: Toyoko, Den-en-toshi

รถโดยสารประจำทาง
มีรถโดยสารประจำทางของบริษัทต่างๆ ให้บริการจากหลากหลายเส้นทาง ไม่ว่าจะเป็น Odakyu Bus, Tokyo Bus, Keio Bus, Fuji Express หรือรถโดยสารประจำทางของมหานคร จึงสามารถเดินทางได้อย่างสะดวกสบาย ซึ่งรถโดยสารประจำทางแต่ละสายจะมีป้ายที่ขึ้นและปลายทางที่แตกต่างกันไป ดังนั้นก่อนใช้งานจึงควรตรวจสอบเส้นทางของบริษัทเดินรถแต่ละแห่งล่วงหน้า และหากจะเดินทางไปยังสถานที่ท่องเที่ยว หรือสถานที่สาธารณะประโยชน์ต่างๆ ภายในเขตชิบูยะหรือบริเวณใกล้เคียง แนะนำให้ท่านใช้บริการ “Hachiko Bus” ซึ่งเป็นรถโดยสารภายในชุมชนที่บริหารจัดการโดยเขตชิบูยะ (ค่าบริการ 100 เยนต่อครั้ง)


ชิบูยะ เมืองที่จะแสดงให้ทุกท่านเห็นถึง “ญี่ปุ่นปัจจุบัน” ได้ และนอกจากจะได้เห็นภาพที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะของประเทศญี่ปุ่นแล้ว ยังเป็นเมืองที่เป็นจุดแลกเปลี่ยนความนิยมต่างๆ จากทั่วโลกอีกด้วย ขอเชิญมาสัมผัสกับ “ชิบูยะ” ซึ่งเป็นตัวแทนของโตเกียวกันให้เต็มที่ แล้วคุณจะได้รู้ว่า “This is TOKYO (นี่แหละโตเกียว)”!