HOME พื้นที่โดยรอบมหานครโตเกียว โตเกียว ฮาราจุกุ [MOVIE] เชิญครับ เหล้า กับแกล้ม และพุทธ ลองมาที่โอโบ้บาร์กัน!
[MOVIE] เชิญครับ เหล้า กับแกล้ม และพุทธ ลองมาที่โอโบ้บาร์กัน!

[MOVIE] เชิญครับ เหล้า กับแกล้ม และพุทธ ลองมาที่โอโบ้บาร์กัน!

Last updated: 26 ธ.ค. 2562

ชินจุกุที่รู้จักกันในฐานะศูนย์กลางธุรกิจสำคัญของโตเกียว และตึกสูงเรียงรายในเมืองก็โด่งดังเช่นกัน ซึ่งกลางป่าคอนกรีตแห่งนี้ มีโอเอซิสคอยบริการเยียวยาจิตใจอยู่ ถัดจากชินจุกุในบริเวณที่เรียกว่ายตสึยะ ที่นี่มีโอโบ้บาร์หนึ่งในโอเอซิสตั้งอยู่ และในบาร์แห่งนี้บริหารงานโดยพระสงฆ์ คุณอาจจะคิดแค่ว่า “มีบาร์ที่มีคอนเซปต์แปลกๆโผล่มาอีกแล้วสินะ”
แต่ เพื่อนเอ๋ย อย่าดูถูกไป โอโบ้บาร์แห่งนี้ ถึงจะเป็นบาร์ที่มีเครื่องดื่มทั้งที่มีแอลกฮอลล์ ไม่มีแอลกฮอล์ และอาหารทำเองคอยให้บริการ แต่คุณยังสามารถฟังเทศน์จากเหล่าพระสงฆ์ที่เป็นพนักงานได้อีกด้วย ที่นี่คุณสามารถเรียนพระธรรมของญี่ปุ่นได้จริงๆ

พระสงฆ์เจ้าของบาร์:พระฟูจิโอกะ

พระสงฆ์เจ้าของบาร์:พระฟูจิโอกะ

เมื่อฉันเดินขึ้นบันไดแคบๆ ขึ้นไปชั้น 2 ของตึกเล็กสมกับเป็นญี่ปุ่น ฉันก็พบกับโอโบ้บาร์อยู่ที่นั่น ฉันทำใจว่าจะต้องพบกับกลิ่นบุหรี่และกลิ่นเหล้าแรงๆ แน่ และเปิดประตูออกไป กลับพบโลกอีกโลกหนึ่งอยู่ที่นั่น เพราะที่นี่ไม่มีกลิ่นเหม็น แถมยังได้กลิ่นหอมอีกต่างหาก ทำให้ฉันก็รู้สึกว่าตัวเองหายตื่นเต้นและจมเข้าไปในบรรยากาศของพุทธ
ชายหัวโล้นสวมชุดพระ เข้ามาต้อนรับฉันด้วยใบหน้ายิ้มแย้มทันที เขาคือเจ้าของโอโบ้บาร์ที่เปิดทำบริการมาแล้วถึง 16 ปี เขาพาฉันไปยังที่นั่งและเสิร์ฟชาเย็น เก้าอี้ของที่นี่ทำจากเสื่อทาตามิ และมีหิ้งพระตั้งอยู่มุมร้าน ทำให้ฉันเกิดคำถามอยากถามมากมายเต็มหัวไปหมด

สร้างสถานที่แห่งความทรงจำเล็กๆ

สร้างสถานที่แห่งความทรงจำเล็กๆ

คำถามแรก แน่นอนว่า ทำไมพระถึงอยากเปิดบาร์
ท่านก็ตอบว่า “อาตมาคิดว่าจะสอนศาสนาพุทธของญี่ปุ่นได้อย่างไรดี นอกจากงานศพแล้วก็ไม่มีใครนึกถึงศาสนาพุทธเลย อาตมาก็เลยคิดได้ว่าถ้างั้นสร้างสถานที่ที่ทำให้คนได้เจอกับศาสนาพุทธดีกว่า” บาร์แห่งนี้เล็กมาก แต่รู้สึกสบายด้วยบรรยากาศเหมือนอยู่บ้านจริงๆ การจะไปฟังพระเทศน์ที่วัดมันยาก แต่ถ้าเป็นที่นี่ก็ไม่ยากอย่างนั้น “อาตมาอย่างจะสร้างสถานที่อย่างนั้นจริงๆ” พระฟูจิโอกะตอบ

สวรรค์อันหอมหวาน นรกแสนอร่อยและอันตราย

สวรรค์อันหอมหวาน นรกแสนอร่อยและอันตราย

เมื่อมองไปรอบๆ ก็พบกับเหล่าพระที่กำลังคุยกับลูกค้าไปพลางชงค็อกเทล ซึ่ง ค็อกเทลที่เสิร์ฟในโอโบ้บาร์นั้น ทั้งหมดพระที่เป็นพนักงานจะเป็นคนทำ นอกจากนั้น ชื่อของเครื่องดื่ม ส่วนใหญ่ยังใช้คำที่เกี่ยวข้องกับพุทธอีกด้วย เช่น “แดนสุขาวดี” 800 เยน ”นรกอเวจี” ซึ่งทำจากครันเบอรี่และแบล็กว๊อดก้า สมัยเรียน พระฟูจิโอกะ เคยทำงานในบาร์ หลังจากนั้นก็ศึกษาวิธีชงค็อกเทลด้วยตัวเองจนเชี่ยวชาญ ช่างเป็นพระที่มีพรสวรรค์อะไรอย่างนี้!

ศาสนาพุทธที่มีเหล้า ก้าวข้ามศาสนาพุทธในวัด

ศาสนาพุทธที่มีเหล้า ก้าวข้ามศาสนาพุทธในวัด

โอโบ้บาร์เป็นสถานที่เสิร์ฟแอลกฮอล์อร่อยๆ? หรือเป็นสถานที่เยียวยาจิตใจตามแบบพุทธ? พระ ฟูจิโอกะตอบทันทีอย่างไม่ลังเลว่า “เป็นที่เยียวยาจิตใจตามแบบพุทธแน่นอนอยู่แล้ว เพราะที่นี่จะสอนพระธรรมพลางดื่มเหล้าไปด้วย”
ฉันตกใจมากที่ที่นี่ไม่มีปัญหาหรือการกำหนดปริมาณเหล้าตามอย่างศาสนากับเหล่าพระที่เป็นพนักงานที่นี่ เพราะฉันคิดมาตลอดว่าศาสนาพุทธต้องมีกฎเข้มงวด โอโบ้บาร์ของพระฟูจิโอกะ นั้นช่วยเก็บอคติที่ว่านั่นกลับเข้าหลืบไป เหลือแต่บรรยากาศการต้อนรับอันอบอุ่นกับเสียงหัวเราะเท่านั้น

ขอปรึกษาจากมาสเตอร์ที่เป็นพระได้ฟรีๆ

ขอปรึกษาจากมาสเตอร์ที่เป็นพระได้ฟรีๆ

โอโบ้บาร์ โด่งดังในเรื่องการได้คำแนะนำ การได้รับการเยียวยาจิตใจจากพระที่เป็นพนักงาน แล้วจริงๆแล้ว ลูกค้ามาขอคำปรึกษาอะไรบ้าง “ถึงจะมีแต่คนพูดเล่น แต่ก็มีลูกค้าที่ต้องการคำปรึกษาจริงๆเหมือนกัน ส่วนใหญ่ ก็ปัญหาเรื่องงาน เรื่องความรัก เรื่องความสัมพันธ์กับคนอื่น” จากนั้น พระฟูจิโอกะก็พูดต่อว่า “ลูกค้าส่วนใหญ่เป็นผู้หญิง ผู้ชายส่วนใหญ่จะขี้อาย ใช้เวลานานกว่าจะยอมเปิดใจ คงเป็นศักดิ์ศรีล่ะมั้ง แต่ผู้หญิงจะถามคำถามเยอะมาก” และคำตอบที่เป็นคำตอบอย่างที่ฉันคิดไว้ก็ตามมา “พอเป็นวัด คนก็จะไม่กล้าพูดอย่างที่ใจอยากจะพูด แต่ถ้าเป็นบาร์ มันต่างกันมาก คนจะยอมพูดความรู้สึกออกมาตรงๆ”

การฟังเทศน์ที่รีแล็กซ์ทีสุดในโตเกียว

การฟังเทศน์ที่รีแล็กซ์ทีสุดในโตเกียว

ที่นี่ไม่ใช่แค่บาร์ที่มีคอนเซ็ปต์ธรรมดาอย่างที่ว่าไว้ก่อนหน้านี้ แต่ที่นี่คือช่วงเวลาแห่งพุทธของญี่ปุ่นอย่างแท้จริง เมื่อเริ่มทำความเข้าใจจุดนั้นได้ ก็จะเริ่มการเทศน์แล้ว ใช่แล้ว ที่นี่สามารถฟังเทศน์ได้เหมือนกับที่พระเทศน์ผู้คนในวัด ฉันได้รับกระดาษที่เขียนคำสวดไว้มา แต่มีแต่คันจิที่ฉันอ่านไม่ออกทั้งนั้น ระหว่างสัมภาษณ์ พระที่ได้ทำเครื่องดื่มให้ฉัน ก็ได้ย้ายไปนั่งหน้าหิ้งพระ จากนั้นทุกอย่างก็เงียบลง

ฟังเทศน์ไปพร้อมกับทำสมาธิ

ฟังเทศน์ไปพร้อมกับทำสมาธิ

พระรูปนั้นเริ่มเทศน์อด้วยบรรยากาศผ่อนคลาย ทันใดนั้น โอโบ้บาร์ก็กลายเป็นที่ที่ฉันรักที่สุดในโตเกียว ท่านสวดพระธรรม ภายใต้ความปีติของลูกค้าทุกคนโดยไม่สนว่าอายุเท่าไร เพศอะไร และเป็นคนชาติอะไร ถึงแม้จะไม่เข้าใจความลึกซึ้งหรือความซับซ้อนของพระธรรม แต่ก็รู้สึกผ่อนคลายอย่างไม่อยากจะเชื่อ ไม่สิ ต้องยอมรับว่า ส่วนหนึ่งมาจากแบลิกว๊อดก้าที่ดื่มไปด้วย

อิ่มเอมไปกับการเทศน์ของพระฟูจิโอกะ

อิ่มเอมไปกับการเทศน์ของพระฟูจิโอกะ

เมื่อการสวดจบลง พระฟูจิโอกะก็ออกไปยืนกลางบาร์ และเริ่มเทศน์สั้นๆ ท่านได้อธิบายถึงความหมายของบทสวดเมื่อสักครู่ พร้อมกับเชื่อมโยงเนื้อหานั้นกับชีวิตประจำวันเข้าด้วยกัน ไม่รู้ว่าเพราะบรรยากาศผ่อนคลายหรือเปล่า แต่การได้ฟังสิ่งที่น่าซาบซึ้งของพระ แถมการได้พูดคุยเรื่องเปื่อย ก็ไม่เสียค่าใช้จ่ายใดๆ ทำให้ฉันเข้าใจถึงเหตุผลที่โอโบ้บาร์ประสบความสำเร็จขึ้นมานิดหน่อย ที่นี่เป็นสถานที่แห่งจิตวิญญาณพุธ และยังได้ดื่มค็อกเทลพร้อมกับแกล้มอร่อยๆในบรรยากาศราวกับอยู่บ้านอีกด้วย ไม่มีที่ไหนดีเท่าที่นี่อีกแล้ว

เรียนรู้ศาสนาพุทธของญี่ปุ่นด้วยสปีดของตัวเอง

เรียนรู้ศาสนาพุทธของญี่ปุ่นด้วยสปีดของตัวเอง

จากการเทศน์ของพระฟูจิโอกะและการสัมภาษณ์ คำพูดที่ฉันได้ยินเสมอคือ “สปีดของตัวเอง” ไม่ต้องพยายามสวด ไม่ต้องพยายามพูด ไม่ต้องพยายามฟังธรรม สวดเมื่ออยากสวด พูดเมื่ออยากพูด ฟังเมื่ออยากฟัง ก็พอแล้ว แต่ถ้าอายที่จะสวดและพูดล่ะ? เรื่องนั้นก็ไม่ต้องห่วง แค่นั่งที่เค้าเตอร์และสั่งเครื่องดื่มก็พอแล้ว หลังจากนั้นก็เป็นหน้าที่ของพระฟูจิโอกะ
“ศาสนาพุทธของญี่ปุ่น อาจจะแตกต่างจากที่คุณคิดสุดๆ เลยก็ได้ แต่ที่โอโบ้บาร์แห่งนี้ จะช่วยให้คุณเรียนรู้ศาสนาพุทธตามสปีดของคุณ ทีละก้าว ทีละก้าว”

*This information is from the time of this article's publication.
*Prices and options mentioned are subject to change.
*Unless stated otherwise, all prices include tax.

แชร์บทความนี้

 
ค้นหา