ถ้ามาถึงอาซากุสะแล้วก็ต้องไปวัดเซ็นโซจิหรือวัดอาซากุสะ
ซึ่งเป็นวัดเก่าแก่ที่สุดในโตเกียว สร้างขึ้นในปี 628 ในแต่ละปีมีนักท่องเที่ยวทั้งในและต่างประเทศแวะไปสักการะประมาณ 30 ล้านคนต่อปี

จุดถ่ายรูปของวัดเซ็นโซจิ คือโคมยักษ์สีแดงที่เขียนว่า "คามินาริมง"
หรือที่มีชื่อทางการว่า ประตูฟูไรจินมง (ประตูเทพลมและสายฟ้า)อย่าลืมดูที่ด้านซ้ายขวาของประตู จะพบว่ามีเทพแห่งลม "ฟูจิน" และเทพสายฟ้า"ไรจิน" ทั้งสององค์ คือเทพผู้ดูแลลมฟ้าและฝน คอยเป็นทวารบาลปกป้องอยู่

ที่ด้านหน้าวัดเซ็นโซจิมีผู้คนยืนอาบควันอยู่เป็นจำนวนมาก
ซึ่งตรงกระถางธูปนี้เรียกว่า โจโคโระ ว่ากันว่า ถ้าได้อาบควันธูปจะได้ชำระล้างสิ่งที่ไม่ดีออกไปจากร่างกาย

ภายในเขตวัดมีให้เสี่ยงเซียมซีและมีเครื่องรางขาย มีเซียมซีที่แปลเป็นภาษาอังกฤษด้วย อย่าลืมไปเสี่ยงดูกันนะ!

【ค่าใช้จ่าย】 ค่าเสี่ยงเซียมซี 300 เยน+ค่าทำบุญ

ถนนนากามิเสะเป็นถนนร้านค้าที่อยู่ระหว่างประตูฟูไรจินมง และประตูโฮโซมงของวัดเซ็นโซจิ
เป็นหนึ่งในถนนร้านค้าที่เก่าแก่ที่สุดในประเทศญี่ปุ่น มีทั้งของใช้เกี่ยวกับกิโมโน, ตะเกียบ, ของกระจุกกระจิกลายญี่ปุ่น, ของเล่นและอื่น ๆ มีร้านเหมาะที่จะซื้อกลับไปเป็นของฝากจากประเทศญี่ปุ่นมาก ๆ ให้เลือกซื้อมากมาย!

ร้านขนมญี่ปุ่นก็เยอะ มีทั้ง"คามินาริโอโคชิ" ที่ทำจากข้าวขนมชื่อดังอย่าง "นิงเงียวยากิ" เป็นเค้กนุ่ม ๆ รูปคนหรือสัตว์ต่าง ๆ
หลังๆมานี้มีอาเกะมังจู (ซาลาเปาทอด), เมล่อนปัง, คิบิดังโงะ มาเป็นขนมชื่อดังชนิดใหม่ ที่ต้องต่อแถวซื้อกันเลย

ร้านขนมเหล่านี้ ได้เตรียมพื้นที่ให้รับประทานได้เลยทันทีอีกด้วย เพราะฉะนั้นหากสนใจอะไรก็แนะนำให้ซื้อรับประทานเดี๋ยวนั้นเลย

【ค่าใช้จ่าย】 ค่าขนม 1,000 เยน

เมื่อหันหลังให้กับประตูฟูไรจินมง จะพบกับสิ่งที่อยู่ตรงด้านหน้า คือศูนย์วัฒนธรรมและการท่องเที่ยวอาซากุสะโดยเขตไทโตจังหวัดโตเกียว
ที่นี่เราสามารถไปขอข้อมูลการท่องเที่ยวในโตเกียวอย่างข้อมูลเที่ยวอาซากุสะได้ และยังสามารถสอบถามเกี่ยวกับการท่องเที่ยวกับพนักงานที่พูดภาษาต่างประเทศได้ด้วย

สิ่งที่น่าจับตามอง คือระเบียงชมวิวที่ชั้น 8
เป็นจุดที่สามารถมองดูอาซากุสะทั้งเมืองได้ฟรี
และยังมองเห็นโตเกียวสกายทรี (R) ทางด้านขวามือได้อีกด้วย
นั่งพักที่เก้าอี้สักพัก แล้วคิดแผนเที่ยวต่อไปก็เป็นความคิดที่ดีเหมือนกัน

【ค่าใช้จ่าย】 0 เยน

ช่วงไม่กี่ปีให้หลังมานี้ "กิวคัตทสึ" เป็นอาหารที่ได้รับการพูดถึงมากในประเทศญี่ปุ่น
เป็นเมนูที่ใช้วัตถุดิบหรูอย่างเนื้อวัว มาชุบเกล็ดขนมปังแล้วนำไปทอด ง ๆ ที่เป็นของทอดแต่รับประทานได้ง่ายไม่เลี่ยน ได้รับเสียงตอบรับและความพึงพอใจมากจากทั้งในและต่างประเทศ

ร้านแฟรนไชส์กิวคัตทสึที่ใหญ่ที่สุดในประเทศญี่ปุ่น เจ้าของเทรนด์กิวคัตทสึ "เกียวโตคัตทสึกิว" ได้มาเปิดสาขาที่อาซากุสะแล้ว เพราะฉะนั้นอาหารกลางวันต้องที่นี่เลย!

"เกียวโตคัตทสึกิว สาขาอาซากุสะฮานะยาชิกิ" อยู่ห่างจากวัดเซ็นโซจิ โดยเดินไปแค่ประมาณ 5 นาที มีโคมไฟกระดาษขนาดใหญ่เป็นสัญลักษณ์

ภายในร้านประดับด้วยโคมกระดาษและหลังคากระเบื้อง บรรยากาศแบบประยุกต์ความเป็นญี่ปุ่น

ที่ร้านกิวคัตทสึ เกียวโตคัตทสึกิว เสิร์ฟ "กิวคัตทสึของแท้" ด้วยเนื้อทอดแบบ มีเดียมแรร์ (กึ่งสุกกึ่งดิบ) ซึ่งเป็นกิวคัตทสึแบบที่อร่อยที่สุด โดยใช้เนื้อชั้นดีเพียงชิ้นเดียวที่หั่นมาแบบสด ๆ ไม่ใช้เนื้อแปรรูปหรือเนื้อผสม

เมนูมีให้เลือกหลายส่วนทั้ง "ริบ, เนื้อสัน, ลิ้นวัว, ฟิเล, คุโรเกะวากิว"
เมนูยอดนิยมอันดับ 1 สำหรับชาวต่างชาติคือ "คุโรเกะวากิวคัตทสึเกียวทามะเซ็น" ราคา 2,480 เยน (ไม่รวมภาษี)
เมื่อได้ลิ้มรสเนื้ออร่อยเข้มข้นกับส่วนมันที่หวานอร่อยเฉพาะตัวของวากิวแล้ว ไม่ใช่แค่คนญี่ปุ่นเท่านั้นแต่วากิวยังเป็นเมนูที่ชาวต่างชาติชื่นชอบอีกด้วย

เมนูชื่อดังได้แก่ "กิวโรสคัตทสึเซ็น ขนาดธรรมดา" ราคา 1,380 เยน (ไม่รวมภาษี)
เป็นกิวคัตทสึที่อัดแน่นด้วยความอร่อยของเนื้อล้วน ๆ เป็นเมนูหลักประจำร้านตั้งแต่ก่อตั้งมา
สิ่งสำคัญคือ ข้าวบาร์เลย์, กะหล่ำปลี, ซุปอากะดาชิ ที่สามารถเติมฟรีได้ไม่อั้น

ร้านเกียวโตคัตทสึกิว มีเอกลักษณ์ที่มีซอสหลากหลายชนิด
กิวโรสคัตทสึเซ็นมีซอสทั้งหมด 5 ชนิดถ้าหากรับประทานตามลำดับ วาซาบิโชยุ, เกลือและพริกไทยญี่ปุ่น, กิวคัตทสึซอส, เกียวคาเร, ไข่ออนเซ็น รสชาติจะอร่อยมากขึ้น

ตอนแรกเพลินกับรสของโชยุและซังโช (พริกไทยญี่ปุ่น) สุดท้ายเทคาเรหรือไข่ลงไปบนข้าวแล้วรับประทานคู่กับเนื้อก็อร่อยรสชาติจะเปลี่ยนไปตามแต่ละประเภทของซอสที่รับประทานคู่กันเปรียบเทียบกันไปเรื่อย ๆ รู้ตัวอีกทีก็รับประทานหมดแล้ว

เมนูและเครื่องปรุงรสมีภาษาอังกฤษเขียนอธิบายไว้ด้วย จึงสามารถรับประทานได้อย่างสบายใจ

นอกจากนี้ ตั้งแต่เดือนกันยายนเป็นต้นไปมีเมนูดื่มไม่อั้นตอนกลางคืนราคา 2,000 เยน (ไม่รวมภาษี) เฉพาะสาขาอาซากุสะฮานะยาชิกิเท่านั้น
เป็นเมนูเซ็ตสุดคุ้มที่รวมเต้าหู้เนื้อ, เซ็ตคุชิอาเกะ, เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ 30 ชนิด, ข้าวและซุปอากะดาชิ เก็บไว้เป็นตัวเลือกสำหรับอาหารเย็นก็น่าจะดี

【ค่าใช้จ่าย】 อาหารกลางวัน 1,380 เยน

อาซากุสะฮานะยาชิกิที่อยู่ใกล้กับร้าน "เกียวโตคัตทสึกิว สาขาอาซากุสะฮานะยาชิกิ" เพียงแค่เอื้อม เป็นสวนสนุกที่เก่าแก่ที่สุดในประเทศญี่ปุ่น เปิดขึ้นในปี1853
หัวใจของอาซากุสะฮานะยาชิกิคือ "โรลเลอร์โคสเตอร์" (รถไฟเหาะ)
ซึ่งเปิดตัวในปี 1953 และนับเป็นรถไฟเหาะที่เก่าแก่ที่สุดในประเทศญี่ปุ่นอีกเช่นกัน
เป็นรถไฟเหาะที่วิ่งด้วยความเร็ว 42 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ไม่เร็วมากแต่ก็ให้ความรู้สึกที่แปลกใหม่และสนุกดี!

นอกจากรถไฟเหาะแล้วยังมีเครื่องเล่น "สเปซช็อต" ที่ปล่อยผู้เล่นลงมาตรง ๆ ที่ไม่ว่าใครก็ต้องตะโกนออกมาสุดเสียง

ในสวนสนุกยังมีมุมเกมส์ตามงานเทศกาลอีกด้วย
เป็นจุดสำคัญที่จะให้เราได้ไปสัมผัสประสบการณ์การเล่นเกมส์ที่มีเฉพาะในงานเทศกาลได้ตลอดทั้งปี

【ค่าใช้จ่าย】 ค่าเข้า 1,000 เยน+ ค่าเครื่องเล่น 100 เยน ต่อ 1 เครื่องx3 = 1300 เยน

【ค่าใช่จ่ายสุทธิในครั้งนี้】 ประมาณ 4120เยน + ค่าทำบุญ *คำนวณด้วยภาษี 10%

ภายในงบแค่ 5,000 เยน ก็สามารถเที่ยวอาซากุสะได้คุ้มเต็มที่โดยเน้นวัดเซ็นโซจิ, ร้านค้าถนนนากามิเสะ, อาซากุสะฮานะยาชิกิและสถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์
ทั้งยังอิ่มท้องไปกับการเดินรับประทานของทานเล่นและอาหารในร้านดังด้วย อย่าลืมไปสร้างความทรงจำดี ๆ ที่อาซากุสะกันนะ!