น้ำตกขนาดใหญ่ที่เป็นตัวแทนของนิคโคด้วยความสูง 97 เมตร "Kegon falls(น้ำตกเคะกง)"
บางตำนานก็ว่าได้ชื่อนี้มาจาก "Kegonkyo(อวตังสกสูตร)" ซึ่งเป็นพระสูตรของพุทธศาสนา น้ำตกนี้แค่ได้มองดูก็จะรู้สึกถึงพลังแห่งความศักดิ์สิทธิ์
น้ำตกเคะกงที่ไหลมาจาก Chuzenji Lake(ทะเลสาบจูเซนจิ) เมื่อรวมกับ Kirifurinotaki Falls(น้ำตกคิริฟุริโนะทาคิ) และ Uraminotaki Falls(น้ำตกอุรามิโนะทาคิ) แล้วถือเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญที่ถูกเรียกว่า "Nikko Sanmeibaku(น้ำตกสามสายที่ยิ่งใหญ่ของนิคโค)"
เมื่องลงด้วยลิฟท์เฉพาะไปยังแท่นชมน้ำตก จะได้ยินเสียงอันดังสะท้านพร้อมทั้งยังสามารถลิ้มรสและซาบซึ้งไปกับน้ำที่ตกลงไปยังแอ่งน้ำใต้น้ำใด้ในระยะใกล้
เป็นน้ำตกอันทรงพลังที่ถูกกำหนดให้เป็นสถานที่ท่องเที่ยวของประเทศ
ในปี 1931 ท่านจะถูกวิวทิวทัศน์ที่ยิ่งใหญ่ตระการตานั้นกุมหัวใจเอาไว้อย่างแน่นอน
-

การระเบิดและพ่นลาวาของภูเขาไฟที่เคยเกิดขึ้นเมื่อ 2 หมื่นปีมาแล้ว
ก่อให้เกิดเป็นทะเลสาบและหนองน้ำ "ทะเลสาบจูเซนจิ" ขึ้นภายในสวนสาธารณะแห่งชาตินิคโคที่มีขนาดโดยรอบราว ๆ 25 กิโลเมตร
ซึ่งเป็นทะเลสาบที่ใหญ่ที่สุดจังหวัดอิบารากิ และเป็นที่ทราบกันดีว่า
เป็นทะเลสาบที่อยู่บนจุดที่สูงที่สุดจากระดับน้ำทะเลในญี่ปุ่น
(ทะเลสาบที่มีพื้นที่มากกว่าพื้นที่ 4 ตารางกิโลเมตร ไม่รวมทะเลสาบที่สร้างโดยมนุษย์) ครั้งหนึ่งในอดีตนั้นเคยเป็นสถานตากอากาศที่คับคั่ง
ไปด้วยชาวต่างชาติ ปัจจุบันที่ริมทะเลสาบนอกจากจะมีสถานพักแรม
และร้านอาหารตั้งเรียงรายกันอยู่แล้ว ยังมีบ่อน้ำพุร้อน ฯลฯ
กระจายกันอยู่เป็นจุด ๆ อีกด้วย บริเวณโดยรอบยังคงเหลือธรรมชาติ
ให้ได้สนุกสนานเพลิดเพลินไปกับวิวทิวทัศน์ในแต่ละฤดูกาล
เช่น ดอกอาซาเลียในต้นฤดูร้อน หรือ ใบไม้เปลี่ยนสีในฤดูใบไม้ร่วง เป็นต้น
-

น้ำตกที่มีชื่อเสียงซึ่งมีความสูง 70 เมตร, ความยาว 110เมตร
"Yudaki Falls (น้ำตกยุดาคิ)"น้ำตกที่มีรูปร่างเป็นเอกลักษณ์ไม่เหมือน
ใครเพราะแยกออกเป็นสองทางนี้ อยู่เรียงจากน้ำตกเคะกง,
Ryuzu Falls (น้ำตกริวซุ) ซึ่งเป็นหนึ่งใน "น้ำตกสามสายที่ยิ่งใหญ่
ของนิคโค" และอยู่ระหว่างเส้นทางเดินป่าที่ต่อเนื่องมาจาก
Senjogahara (ที่ราบสูงเซนโจกะฮาระ) จากแท่นชมน้ำตกที่ถูกจัดตั้ง
เอาไว้ใกล้ลุ่มแม่น้ำ ท่านจะได้ชมทัศนียภาพอันยิ่งใหญ่ตระการตาของน้ำตกที่ไหลลง 70 เมตรข้ามพื้นผิวกำแพงทางทิศใต้ของ Yunoko Lake (ทะเลสาบยุโนะโคะ) ซึ่งอยู่ที่ตีนเขาเขานิคโคชิราเนะและได้ฟังเสียงอันทรงพลังของน้ำตก ที่ด้านข้างน้ำตกมีการเตรียมถนนสำหรับเดินเล่นเอาไว้ เพื่อที่จะสามารถเข้าไปใกล้ปากแม่น้ำของน้ำตกหรือด้านข้างได้ ทำให้ผู้ที่ชื่นชอบในการถ่ายรูปมาเยี่ยมเยือนกันอย่างมากมาย
-

ด้านตะวันออกของทะเลสาบจูเซนจิ ในฤดูใบไม้ร่วงจะเป็นสถานที่รู้กันดี
ว่ามีชื่อเสียงทางด้านใบไม้เปลี่ยนสี Akechidaira(ที่ราบสูงอะเคจิไดระ)
ด้วยความสูงจากระดับน้ำทะเล 1,437 เมตร, จุดชมวิวอะเคจิไดระอยู่ในจุดที่ใช้เวลา 3 นาทีด้วยกระเช้าลอยฟ้า วิวทิวทัศน์จากจุดนี้ถูกกล่าวว่าเป็นวิวที่ยอดเยี่ยมที่สุดในนิคโคเลยทีเดียว ทั้งทะเลสาบจูเซนจิ, น้ำตกเคะกง, ภูเขานันไทซัง และท่านยังสามารถชมทัศนียภาพของธรรมชาติของนิคโคแบบพาโนรามาขนาดใหญ่ได้จากจุดชมวิว สามารถใช้ทางเดินเล่นเพื่อเดินไปจนถึงทะเลสาบจูเซนจิได้ คนที่สนุกกับการเดินป่า
อย่างแท้จริงก็มีอยู่เป็นจำนวนมาก นอกจากนี้แล้วต้องไม่พลาดที่จะไปชมวิวจากหอคอยเหล็กที่อยู่ห่างจากจุดชมวิวประมาณ 20 นาทีและท่านจะสามารถรู้สึกถึงลมหายใจของธรรมชาติในแต่ละฤดูได้อย่างเต็มที่
-

"ศาลเจ้านิกโกโทโช" ศาลเจ้าที่มีนักท่องเที่ยวทั้งในและนอกประเทศจำนวนมากเดินทางมาเยี่ยมเยือนเพื่อเซ่นไหว้ไดเมียวในช่วงยุคเซ็นโกกุ - โทคุกาวะ อิเอยาสุผู้สร้างยุคสมัยเอโดะ จุดกำเนิดของเรื่องนี้อยู่ที่
ปี 1616 ได้นำอิเอยาสุผู้ถึงแก่อสัญกรรมมาประดิษฐานไว้ที่นี่
ในเขตวัดมี 55 สถาปัตยกรรม รวมถึง 8 สมบัติของชาติและ 34 ทรัพย์สินทางวัฒนธรรมที่สำคัญในปี 1999 วัดและศาลเจ้าแห่งนิคโคถูกขึ้นทะเบียนให้เป็นมรดกโลกโดยยูเนสโก Yomei-mon Gate
(ประตูโยเมมง) ที่อยู่ในเขตวัดซึ่งเต็มไปด้วยบรรยากาศอันหรูหรา
โอ่อ่านั้น ถูกสร้างด้วยมือของเหล่าช่างฝีมือเอกเป็นประติมากรรม
ที่เต็มไปด้วยสีสันอีกทั้งยังมี Three wise monkeys
(ลิงสามตัว ไม่พูด ไม่ฟัง ไม่เห็น) Nemuri-neko ที่เป็นประติมากรรม
รูปสัตว์ที่ล้วนมีความงามอันน่าทึ่ง
-