ชิซูอิ พรีเมียม เอาท์เล็ต ตั้งอยู่ที่อีซูมิ ตำบลชิซูอิ อำเภออิมบะ จังหวัดชิบะ เปิดทำการในปี 2013 เป็นศูนย์การค้าเอาท์เล็ตที่มีนักท่องเที่ยวต่างชาติมาเยือนมากมายเพราะอยู่ใกล้สนามบินนาริตะ มีสินค้าหลากหลายให้เลือกซื้อได้ในราคาสุดคุ้ม ทั้งเสื้อผ้าแฟชั่น ของกระจุกกระจิก ตั้งแต่แบรนด์หรูไปจนถึงแบรนด์กีฬา

สามารถเดินทางจากสนามบินนาริตะ หรือสถานีโตเกียวมายังชิซูอิ พรีเมียม เอาท์เล็ต ได้หลายวิธี

การเดินทางจากสนามบินนาริตะ
จากสนามบินนาริตะ สามารถเดินทางได้โดยรถส่วนตัว หรือโดยรถบัสด่วนพิเศษวิ่งตรง

-โดยรถส่วนตัว
จากสนามบินนาริตะ ขึ้นทางด่วน “Higashi-Kanto Expressway” ขาเข้า วิ่งราว 10 นาทีแล้วลงที่ด่าน “Shisui IC” จากนั้นวิ่งทางธรรมดาต่ออีกราว 1 กิโลเมตร

-โดยรถบัส
จากสนามบินนาริตะ นั่งรถบัสด่วนพิเศษวิ่งตรงราว 15 นาที มีตารางเดินรถทุกวัน ค่าโดยสารสำหรับผู้ใหญ่เที่ยวเดียวราคา 360 เยน โดยจ่ายเป็นเงินสดตอนขึ้นรถ และไม่มีระบบจองที่นั่ง

การเดินทางจากสถานีโตเกียว
จากสถานีโตเกียว สามารถเดินทางได้โดยรถบัสวิ่งตรง หรือโดยรถไฟทั่วไป

-โดยรถบัสวิ่งตรง
จากสถานีเดินรถโดยสาร “Hamamatsucho Bus Terminal” / สถานีโตเกียว (จุดขึ้นรถบัสเคเซ ป้ายหมายเลข 1 หน้าทางออก Yaesu) นั่งรถบัสวิ่งตรงราว 70 นาที มีตารางเดินรถทุกวัน ค่าโดยสารสำหรับผู้ใหญ่เที่ยวเดียวราคา 1,200 เยน รับชำระเงินด้วยบัตร IC Card และไม่มีระบบจองที่นั่ง

-โดยรถไฟทั่วไป
จากสถานีโตเกียว ขึ้นรถไฟสาย JR โซบุ (ขาออก) เปลี่ยนสายที่สถานีชิบะเป็นสาย JR นาริตะ (ขาออก) แล้วลงที่สถานีชิซูอิ จากนั้นนั่งรถบัสต่อ รวมเวลาเดินทางทั้งสิ้นราว 75 นาที

ต่อไปจะขอแนะนำร้านค้าในชิซูอิ พรีเมียม เอาท์เล็ต ที่คัดมาแล้วจากบรรดาร้านค้าที่ได้รับความนิยมจากชาวต่างชาติให้ได้รู้จักกัน ไม่ว่าจะเป็นร้านแบรนด์กีฬา ร้านนาฬิกา ฯลฯ

ร้าน adidas ที่ชิซูอิ พรีเมียม เอาท์เล็ต เปิดทำการในปี 2018 เป็นร้านขายสินค้าอุปกรณ์กีฬาโดยเฉพาะ เช่น ชุดกีฬา และรองเท้ากีฬา

เทียบกับประเทศอื่นแล้ว adidas ที่ญี่ปุ่นถือว่าเป็นร้านที่ขายของดีคุ้มราคา จึงเป็นหนึ่งในร้านที่ได้รับความนิยมอย่างมากจากชาวต่างชาติ

ภายในร้านอันกว้างขวางนั้นเต็มไปด้วยรองเท้าผ้าใบจำนวนมหาศาลหลากหลายรุ่น รวมไปถึงรุ่นจำกัดที่ขายเฉพาะในญี่ปุ่นด้วย หากเลือกไม่ถูกก็สามารถสอบถามพนักงานชาวต่างชาติให้ช่วยแนะนำได้

ภายในร้านอันกว้างขวางนั้นเต็มไปด้วยรองเท้าผ้าใบจำนวนมหาศาลหลากหลายรุ่น รวมไปถึงรุ่นจำกัดที่ขายเฉพาะในญี่ปุ่นด้วย หากเลือกไม่ถูกก็สามารถสอบถามพนักงานชาวต่างชาติให้ช่วยแนะนำได้

ภายในตัวร้านของ adidas มีมุมสินค้าของ Reebok อยู่ด้วย ไม่ใช่แค่ชุดกีฬาผู้ชายเท่านั้นแต่ยังมีชุดกีฬาผู้หญิงและชุดกีฬาเด็กให้เลือกเช่นกัน

ร้าน SEIKO ที่ชิซูอิ พรีเมียม เอาท์เล็ต เป็นร้านนาฬิกาที่มีลูกค้ามากกว่าครึ่งเป็นชาวต่างชาติ มีนาฬิกามากมายให้เลือกสรรทั้งสำหรับใส่เองก็ดีหรือซื้อเป็นของขวัญก็ไม่เลว สินค้าคุณภาพเยี่ยมอย่างรุ่น Prospex ที่สามารถใส่ดำน้ำได้ หรือรุ่น LUKIA ที่เป็นที่นิยมในหมู่สาว ๆ ก็สามารถหาซื้อได้ในราคาสุดคุ้ม

นอกจากนี้ ดูเหมือนว่าเนื่องจากมีลูกค้าชาวจีนมาก ทางร้านจึงมีการอบรมภาษาจีนให้กับพนักงานด้วย และที่สาขาชิซูอิยังมีการใช้เครื่องแปลภาษา POCKETALK ด้วยจึงหายห่วงเรื่องการสื่อสาร

เป็นร้านที่รวบรวมแบรนด์ Journal Standard、Iena、Spick and Span、Edifice เอาไว้ โดยเป็นแบรนด์ญี่ปุ่นที่มีหลากหลายดีไซน์ใส่แล้วดูดีทั้งหญิงและชาย จึงได้รับการสนับสนุนเป็นอย่างดีจากลูกค้าชายหญิงตั้งแต่วัยทำงานไปจนถึงวัยกลางคน

Journal Standard เป็นร้านที่รวบรวมแบรนด์และสินค้าต่าง ๆ ไว้ในร้านเดียว โดย “Iena” เป็นแบรนด์เสื้อผ้าสำหรับสุภาพสตรี ที่เน้นความเรียบหรูดูดีมีระดับในแฟชั่นสไตล์ฝรั่งเศส ส่วน “Spick and Span” เป็นร้านที่มีทั้งเสื้อผ้าของตัวเองและเสื้อผ้านำเข้าจากทั่วทุกมุมโลก และ “Edifice” เป็นร้านที่มีตั้งแต่เสื้อผ้าลำลองสำหรับคุณผู้ชาย ไปจนถึงชุดเดรสสำหรับคุณผู้หญิง

เนื่องจากเป็นร้านขนาดใหญ่ที่รวบรวมแบรนด์หลักไว้ถึง 4 แบรนด์ จึงมั่นใจได้ว่าต้องมีชุดที่ถูกใจให้เลือกซื้อแน่ ๆ หากกำลังมองหาเสื้อผ้าแฟชั่นสำหรับใส่ประจำแล้วละก็แนะนำว่าต้องลองมาให้ได้

ที่จะแนะนำต่อไปนี้คือร้านอาหารที่เหมาะสำหรับแวะกินเป็นมื้อเที่ยงระหว่างชอปปิง หรือจะเดินไปกินไปก็ได้
เอาท์เล็ตนั้นมีพื้นที่กว้างขวางมาก หากเดินทั้งวันก็คงจะเหนื่อยเกินไป จึงขอแนะนำร้านอาหารสำหรับแวะพักเติมพลังงาน โดยมีทั้งร้านที่หาชิมได้ที่ญี่ปุ่นเท่านั้น หรือศูนย์อาหารที่มีเมนูหลากหลายให้ลิ้มรส

“ซูชิโชชิมารุ” ร้านซูชิที่มีปลาดิบสดใหม่จากท่าเรือโชชิและจากทั่วทุกมุมโลกพร้อมเสิร์ฟให้ลิ้มลอง

พ่อครัวจะปั้นซูชิทันทีที่ได้รับออเดอร์ แน่นอนว่ารวมถึงหน้าที่ไหลไปตามสายพานด้วย

มีโต๊ะแบบเคาน์เตอร์อยู่บริเวณหน้าร้าน และลึกเข้าไปจะมีโต๊ะแบบกั้นเป็นส่วนตัว
ที่ด้านบนเหนือศีรษะมีภาพเขียนชุด “ทัศนียภาพ 36 มุมของภูเขาฟูจิ” ของคัตสึชิกะ โฮกูไซ จิตรกรชาวญี่ปุ่นประดับไว้ด้วย ลิ้มรสซูชิอร่อย ๆ ไปพลาง ชมภาพวาดสวย ๆ ของภูเขาฟูจิไปพลางก็ได้อารมณ์สุนทรีย์ไปอีกแบบ

สามารถสั่งอาหารผ่านจอสัมผัสได้ โดยรองรับถึง 5 ภาษา ได้แก่ ภาษาญี่ปุ่น ภาษาอังกฤษ ภาษาจีนตัวย่อ ภาษาจีนตัวเต็ม และภาษาเกาหลี

ที่ร้านฮันนาริพิถีพิถันกับการทำน้ำซุปดาชิโดยใช้คัตสึโอบูชิที่ผลิตในโบชู จึงสามารถดื่มด่ำกับรสชาติของอาหารญี่ปุ่นได้อย่างถึงแก่น

ร้านนี้มีจุดเด่นตรงบรรยากาศที่ผ่อนคลาย และยังมีอาหารประเภทเนื้อให้เลือกมากมาย เช่น เทอริยากิหรือสเต๊ก เมนูอาหารก็มีภาษาอังกฤษกำกับ สำหรับชาวมุสลิมก็หายห่วงเพราะมีเมนูอาหารฮาลาลเตรียมไว้ให้ด้วย

เมนูยอดนิยม “เซ็ตผักเน้น ๆ กับน้ำซุปดาชิ” (ราคาก่อนรวมภาษี 1,380 เยน) และ “เซ็ตไก่ย่างลนไฟอาบูริยากิ” (ราคาก่อนรวมภาษี 1,400 เยน)

มีผักจานเคียงมากมายและปริมาณก็จุใจ จึงสามารถเพลิดเพลินไปกับอาหารญี่ปุ่นซึ่งดีต่อสุขภาพได้อย่างอิ่มหนำสำราญ

ที่นี่ใช้คัตสึโอบูชิที่สั่งจากร้านเฉพาะทางด้านน้ำซุป “นากาอิโชเต็น” โดยพนักงานจะทำการขูดทุกเช้าทำให้ได้คัตสึโอบูชิที่สดใหม่เสมอ
ขอแนะนำว่าต้องมาลองชิมรสชาติน้ำซุปอันเป็นเอกลักษณ์ของญี่ปุ่นที่ทำจากคัตสึโอบูชิสดใหม่ให้ได้สักครั้ง

ที่ “มัตจะเฮาส์” สามารถเอร็ดอร่อยไปกับเครื่องดื่มและของหวานที่ทำจากชาเขียวญี่ปุ่นซึ่งถือเป็นหนึ่งในวัฒนธรรมของญี่ปุ่นได้ ร้านนี้เป็นร้านชื่อดังของเกียวโต โดยสาขานี้เป็นสาขาที่ 7 ในญี่ปุ่น

เมนูแนะนำคือทิรามิสุชาเขียวอันขึ้นชื่อ น่าดีใจจริง ๆ ที่สามารถลิ้มรสทิรามิสุยอดนิยมที่ปกติต้องต่อแถวรอซื้อได้ที่เอาท์เล็ตเช่นนี้

ทิรามิสุอุ่น ๆ ในกล่องไม้ รสชาเขียวที่แผ่ซ่านจากผงมัตจะโรยหน้า ตัดกับรสละมุนนุ่มลึกของครีมด้านในอย่างลงตัว เป็นความอร่อยแปลกใหม่ที่ท้าให้ลอง แม้จะดูเผิน ๆ ว่ามีขนาดเล็กแต่ความหนักของเนื้อเค้กและครีมก็ทำให้อิ่มกำลังดี

ภายในร้านเน้นโทนสีเขียวของชาเขียว ปริมาณโต๊ะรองรับก็มีมาก เมื่อสั่งขนมแล้วก็ไม่ต้องรีบร้อน สามารถพักผ่อนสบาย ๆ พร้อมลิ้มรสทิรามิสุชาเขียวชื่อดัง ชากรุ่น ๆ จากกาญี่ปุ่น หรือซอฟต์ครีมได้ตามชอบ

ศูนย์อาหารอยู่ใกล้กับจุดรับส่งรถบัส จึงสะดวกมากสำหรับคนที่ลงรถแล้วคิดว่า “กองทัพต้องเดินด้วยท้อง” ยิ่งไปกว่านั้น สำหรับคนที่มาเป็นครอบครัวซึ่งโดยส่วนใหญ่แล้วแต่ละคนก็มักจะมีความชอบแตกต่างกันออกไป ที่ศูนย์อาหารนี้จึงมีข้อดีตรงที่ทุกคนสามารถเลือกร้านที่ตัวเองชอบแล้วมานั่งกินด้วยกันได้อย่างสนุกสนาน

มีร้านอาหารอร่อย ๆ ให้เลือกชิมหลากหลายถึง 9 ร้าน ไม่ว่าจะเป็นอาหารญี่ปุ่น อาหารเกาหลี อาหารจานด่วน หรือขนมหวาน

บริเวณใจกลางศูนย์อาหารมีหน้าจอที่แสดงข้อมูลเที่ยวบิน ข้อมูลรถบัสด่วนพิเศษ และข้อมูลอื่น ๆ อยู่ด้วย จึงช่วยอำนวยความสะดวกแก่ผู้ที่กำลังจะเดินทางไปสนามบินนาริตะหรือสถานีโตเกียวได้เป็นอย่างดี

มีบริการสำหรับนั่งท่องเที่ยวต่างชาติครบครัน เช่น จุดแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ ตู้ล็อกเกอร์หยอดเหรียญ ข้อมูลเที่ยวบิน เคาน์เตอร์ปลอดภาษี ฯลฯ

หากต้องการความช่วยเหลือให้มาที่นี่! ศูนย์บริการข้อมูล “Information Center”

ที่ศูนย์บริการข้อมูล สามารถแสดงหนังสือเดินทางเพื่อรับคูปองได้ มีบริการข้อมูลเกี่ยวกับร้านค้าต่าง ๆ และมีบริการให้เช่ารถเข็นวีลแชร์ด้วย ดังนั้นหากต้องการความช่วยเหลือก็ให้มาที่นี่ได้เลย

มีพนักงานที่พูดภาษาต่าง ๆ คอยให้บริการ เช่น ภาษาอังกฤษ ภาษาจีน ภาษาเกาหลี ภาษาสเปน
*มีบริการทุกวันสำหรับภาษาอังกฤษและภาษาจีน แต่สำหรับภาษาอื่นจะมีพนักงานเฉพาะเพียง 1-2 คนเท่านั้น

เพียบพร้อมด้วยสิ่งอำนวยความสะดวก เช่น เคาน์เตอร์ปลอดภาษี ล็อกเกอร์ ฯลฯ

เคาน์เตอร์ปลอดภาษีอยู่ลึกเข้าไปถัดจากศูนย์บริการข้อมูล ที่เคาน์เตอร์จะมีพนักงานที่พูดภาษาอังกฤษและภาษาจีนคอยให้บริการรับเรื่องขอยกเว้นภาษี

สามารถซื้อขายแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศได้ที่นี่

สกุลเงินที่รองรับ : ยูโร, ดอลลาร์สหรัฐ, ดอลลาร์สิงคโปร์, ปอนด์สเตอร์ลิง, หยวน, วอนเกาหลีใต้, ดอลลาร์ไต้หวัน, ดอลลาร์ฮ่องกง, บาท, ดอลลาร์ออสเตรเลีย, ดอลลาร์แคนาดา

ตู้ล็อกเกอร์ถูกติดตั้งไว้ 2 จุด ได้แก่ ที่บริเวณจุดรับส่งรถบัส และข้างศูนย์บริการข้อมูล มีตั้งแต่ขนาดเล็กไปจนถึงขนาดใหญ่พิเศษ โดยค่าเช่าตู้จะอยู่ที่ 300-800 เยน

ชิซูอิ พรีเมียม เอาท์เล็ตนั้น ไม่เพียงแค่บริการสำหรับชาวต่างชาติที่ครบครันเท่านั้น แต่ที่เหนือสิ่งอื่นใดคือเป็นเอาท์เล็ตที่สามารถดื่มด่ำเพลิดเพลินไปกับความเป็นญี่ปุ่นได้อย่างเต็มที่ จึงขอแนะนำว่าหากมาที่สนามบินนาริตะก็ลองแวะมาชอปปิงเพลิน ๆ กันได้เลย