Nikuman นั้น เดิมทีเข้ามาในประเทศญี่ปุ่นจากประเทศจีนในชื่อ "Chuukaman (ซาลาเปาสไตล์จีน)"
ในแรกเริ่มถูกวางขายตามร้านที่ขายเฉพาะซาลาเปา เช่น ในย่านไชน่าทาวน์ (China Town) เป็นต้น
แต่ตั้งแต่ปี ค.ศ. 1927 เป็นต้นมาก็เริ่มมีการวางขายให้กับชาวญี่ปุ่น
ร้านค้าเก่าแก่ที่ขาย Chuukaman ซึ่งปัจจุบันยังอยู่ในเขตชินจูกุ กรุงโตเกียวนั้นก็ยังคงได้รับความนิยมอยู่
ในบรรดา Chuukaman เอง Nikuman ที่ใส่เนื้อสัตว์เข้าไปเป็นไส้นั้น
ได้รับความนิยมเป็นพิเศษและเผยแพร่ในประเทศญี่ปุ่นในเวลาต่อมา
ตั้งแต่ช่วงปี ค.ศ. 1990 ก็มีการวางขาย Nikuman ตามร้านสะดวกซื้อและเป็นที่นิยมอย่างมาก
อีกทั้งยังเป็นที่ชื่นชอบในฐานะอาหารว่างของนักเรียนที่เดินทางกลับจากโรงเรียนหรือพนักงานบริษัท เป็นต้น

Nikuman จะเป็นการห่อไส้ด้วยตัวแป้งสีขาวอันอ่อนนุ่ม และนำไปนึ่งก่อนรับประทาน
โดยใช้เนื้อหมูและหัวหอมใหญ่ หรือเห็ดหอม เป็นต้น มาหั่นและซอยบาง ๆ อย่างละเอียด
เพื่อทำเป็นไส้ รสสัมผัสของไส้นั้นจะมีเสน่ห์ตรงความอ่อนนุ่มและความชุ่มฉ่ำของน้ำซุปที่ได้จากเนื้อ
รับประทานเปล่า ๆ โดยไม่ราดซอสอะไรเลยก็อร่อย แต่ก็ขึ้นอยู่กับร้าน เพราะบางร้านอาจจะราดด้วยมัสตาร์ด
หรือซอสสำหรับ Nikuman โดยเฉพาะ

ร้านสะดวกซื้อ จะเป็นร้านที่สามารถหาซื้อ Nikuman ได้ง่ายที่สุด ข้าง ๆ แคชเชียร์จะจัดวาง Nikuman
ที่ถูกอุ่นเอาไว้อยู่ เมื่อสั่งกับพนักงาน พนักงานก็จะนำ Nikuman มาให้จากเครื่องอุ่นอาหาร
และคุณสามารถรับประทานได้ทันที ร้านเฉพาะทางที่ขาย Nikuman ก็มีเช่นเดียวกัน
คุณสามารถซื้อ Nikuman ที่เพิ่งทำเสร็จใหม่ ๆ กลับบ้านได้
ที่โอซาก้าก็มีแฟรนไชส์ของร้านขายเฉพาะ Nikuman ที่มีชื่อเสียงอยู่
ซึ่งถ้าใครที่ได้ไปเยือนโอซาก้าก็ต้องซื้อกลับไปเป็น "ของฝาก" ทีเดียว ในซูเปอร์มาร์เก็ตเอง
ก็มี Nikuman ที่สามารถรับประทานได้แบบร้อน ๆ โดยการอุ่นด้วยเตาไมโครเวฟมาวางขายเช่นเดียวกัน

นอกจาก Nikuman แล้ว ในประเทศญี่ปุ่น ก็มีการเรียกซาลาเปาในแบบที่ใส่ไส้ต่างๆ
ว่า "-มัง (-man)" ซึ่งมีตัวแทน คือ "Anman" ที่เป็นการห่อไส้ด้วย "Anko"
ซึ่งเป็นถั่วแดงกวนเอาไว้ มีลักษณะเด่น คือ ให้รสชาติที่มีหวานเข้มข้น ส่วน "Pizzaman"
จะใส่ซอสมะเขือเทศเข้าไปในเนื้อและผักที่ทำเป็นไส้ และยังมี "Curryman" ที่ใส่แกงกะหรี่ในผัก
และเนื้อสัตว์ในแบบเดียวกัน เป็นต้น นอกจากสิ่งที่กล่าวมานี้ ในร้านสะดวกซื้ออาจจะมีชนิดที่ใส่แฮมเบิร์ก
หรือใส่ชีสอีกด้วย แต่ละบริษัทจะมีการผลิตรสชาติเฉพาะตัวขึ้นมาแล้วทำออกมาวางขายทุกปี