เป็นอาหารที่นำเนื้อหมูมาชุบเกล็ดขนมปังแล้วทอดในน้ำมัน
และมักจะขึ้นโต๊ะอาหารตามบ้านอยู่เสมอ

ทงคัตซึ มีต้นกำเนิดจากอาหารฝรั่งเศสที่ใช้เนื้อส่วนซี่โครงมาปรุงอาหาร ซึ่งมีชื่อภาษาอังกฤษว่า"cotelette" ในสมัยเมจิได้มีการนำเทมปุระ มาประยุกต์โดยการนำเนื้อหมูมาชุบเกล็ดขนมปังแล้วนำไปทอด จนกลายเป็นเอกลักษณ์เฉพาะของญี่ปุ่น ร้านทงคัตซึแห่งแรกในญี่ปุ่นนั้น เรียกหมูชุปเกล็ดขนมปังทอดนี้ว่า"พอร์คคัทซึเรตซึ "และคำว่าพอร์คนั้นชาวญี่ปุ่นออกเสียงกลายเป็น"ทง" จึงกลายเป็นทงคัตซึที่เรียกกันในปัจจุบัน

เป็นซอสข้นซึ่งทำมาจากความกลมกล่อมของผักและผลไม้ บางครั้งมีให้เลือกหลายชนิดเช่น
รสหวาน รสเผ็ด ซอสงาเป็นต้น แล้วก็มีซอสหลากหลายชนิดตามความชอบส่วนบุคคล
หรือพื้นที่เช่น "มิโซะคัตซึ" ซอสที่ทำจากมิโซะอย่างของเมืองนาโกย่า จังหวัดไอจิ

ร้านอาหารที่เสิร์ฟทงคัตซึแทบทุกที่จะมีกะหล่ำปลีซอยมาด้วย
ในกะหล่ำปลีจะมีสารอาหารที่ชื่อว่า "วิตามิน U (Cabagin)"
และช่วยในการย่อยน้ำมันภายในร่างกายเพื่อปกป้องกระเพาะอาหารกับลำไส้
และช่วยให้ดูดซึมได้ง่ายขึ้นด้วย

มีร้านอาหารจำนวนไม่น้อยที่พนักงานต้อนรับที่ร้าน จะสวมชุดกิโมโนหรือชุดสไตล์ญี่ปุ่น อีกทั้งราคาที่เหมาะสม คุณสามารถทานเซ็ตเมนู ข้าวพร้อมซุปมิโซะได้ในราคา1500เยน

เป็นอาหารที่นำหมูทอดหั่นชิ้นมาต้มในซอสสไตล์ญี่ปุ่นกับหัวหอมใหญ่
และนำไข่กึ่งสุกกึ่งดิบมาโปะลงบนข้าวในชาม โดยทั่วไปแล้วจะมาพร้อมกับซุปมิโซะและของดอง

เป็นของที่นำหมูทอดมาวางบนแกงกระหรี่ "ข้าวแ" มีต้นกำเนิดจากอินเดีย
นำผ่านอังกฤษและกลายมาเป็นอาหารเอกลักษณ์เฉพาะญี่ปุ่น

เป็นของที่นำทงคัตซึมาราดซอสและนำมาสอดไส้ในแซนวิชพร้อมกับกะหล่ำปลี
ได้รับความนิยมเป็นทั้งของฝากจากร้านขายทงคัตซึหรือร้านค้าตามระบบขนส่งสาธารณะอย่างเช่น
ข้าวกล่องสถานี ข้าวกล่องสนามบิน เป็นต้นด้วย

ทงคัตซึกำลังวิวัฒนาการขึ้นไปทุกวัน ในบรรดานั้น "แรร์คัตซึ" เนื้อวัวที่พึ่งสามารถนำมาทำได้
เพราะความเข้มงวดในการจัดการด้านสุขภาพของญี่ปุ่น ซึ่งจะนำมาทอดประมาณ 60 วินาที
ให้เป็นกึ่งสุกกึ่งดิบ และมีชื่อเสียงในเรื่องรสชาติสัมผัสที่ใหม่และแตกต่างกับทั้งทงคัตซึและสเต็ก