เริ่มก่อสร้างเพื่อเป็นประตูทางเข้าโตเกียวเมื่อปี ค.ศ. 1908 อาคารสถานี
ทำจากอิฐแดงและกรอบเหล็กสูงสามชั้น ยาวประมาณ 335 เมตร สร้าง
แล้วเสร็จเมื่อปี ค.ศ. 1914 จากนั้นจึงเริ่มสร้างแผ่ขยายออกไปกว้างขึ้น ๆ
โดยด้านหน้าสร้างเป็นทางเข้าเฉพาะสำหรับตระกูลจักรพรรดิ โดมทิศใต้
เป็นทางเข้าสถานี โดมทางเหนือเป็นทางออก ว่ากันว่าผนังด้านนอกใช้
อิฐแดงมากกว่า 900,000 ก้อนเลยทีเดียว

หลังเปิดทำการสถานีโตเกียวได้ 1 ปี หรือปี ค.ศ. 1915 โรงแรม Tokyo Station Hotel
ก็เปิดทำการขึ้นในอาคารมารุโนะอุจิ ภายในสถานีโตเกียว ห้องพักกว่า 56 ห้องและห้อง
จัดเลี้ยงภายในที่จัดเป็นแบบยุโรปนั้นสร้างขึ้นด้วยสถาปัตยกรรมชั้นเยี่ยมและจัดเตรียม
ขึ้นอย่างทันสมัยที่สุด ทำให้เราจะเห็นห้องพักเต็มมาโดยตลอดนับตั้งแต่เปิดให้บริการมา
แต่ปิดทำการชั่วคราวไปพร้อมกับการทำนุบำรุงสถานีโตเกียวเมื่อปี ค.ศ. 2006 จากนั้นจึง
ปรับปรุงใหม่ทั้งหมดและเปิดให้บริการใหม่อีกครั้งในปี ค.ศ. 2012 ภาพที่เห็นคือฟรอนท์
ของโรงแรมสมัยปี ค.ศ. 1934-1945

ผู้ออกแบบสถานีโตเกียวแห่งนี้ก็คือนักสถาปัตยกรรม ทัตสึโนะ กินโกะ ผู้มีประสบการณ์
เป็นนักเรียนที่อังกฤษ และเป็นแนวหน้าของสถาปัตยกรรมตะวันตกในญี่ปุ่น เช่น "ธนาคาร
ญี่ปุ่น" ที่นิฮงบะชิ เป็นต้น เป็นสัญลักษณ์ที่มีอิทธิพลมากในประเทศ และยังดูแลจัดการ
การก่อสร้างอีกมากมายหลายแห่ง
ภายในเวลากว่า 8 ปีที่ออกแบบอาคารสถานีมานั้น ก็ได้ออกแบบให้ทางเข้าสถานี
ที่ทำการไปรษณีย์กลาง และประตูเฉพาะสำหรับราชวงศ์มารวมอยู่ในที่เดียวกันมาแล้วด้วย

ก่อนที่จะออกแบบสถานีโตเกียวนั้น ยังมี "ธนาคารญี่ปุ่น สำนักงานใหญ่" ที่ออกแบบโดยทัตสึโนะ กินโกะ
ด้วยเช่นกัน ที่นี่เป็นธนาคารกลางที่ทำหน้าที่พิมพ์ธนบัตรญี่ปุ่น และสร้างขึ้นแล้วเสร็จด้วยความร่วมมือของ
ธนาคารแห่งชาติเบลเยียมใน ปีค.ศ. 1896 เป็นสิ่งปลูกสร้างร่วมสมัยแบบตะวันตกที่ถูกเลือกให้แสดงถึง
วัฒนธรรมในฐานะตัวแทนแห่งยุคเมจิ

ผลจากสงครามทำให้หลังคาและกำแพงภายนอกของชั้นสามถูกทำลาย แต่เนื่องด้วยสภาวะทางการเงินของ
ประเทศที่ย่ำแย่หลังสงครามจบลง ทำให้ไม่สามารถปรับปรุงอาคารให้กลับมาเป็นเหมือนเดิมได้ในทันที จึงทิ้งให้
เป็นอาคารสองชั้นที่ถูกเผาไหม้ทั้งอย่างนั้น และก่อสร้างปรับปรุงฉบับเร่งด่วนให้หลังคาแบบทรงกลมกลายเป็น
หลังคาทรงแปดเหลี่ยมแทนไปก่อน

หลังจากตัวอาคารเป็นตัวแทนทางวัฒนธรรมที่สำคัญของประเทศในปีค.ศ. 2003 ทำให้เริ่มมีการปลูกสร้างเพื่อ
อนุรักษ์และปรับปรุงอาคารสถานีมารุโนะอุจิขึ้นอีกครั้งในปี ค.ศ. 2007 และไม่เพียงแต่ปรับแก้และสร้างขึ้นใหม่
เท่านั้น ยังปรับปรุงโครงเหล็ก อิฐ และกำแพงด้านนอกในส่วนของชั้นหนึ่งและชั้นสอง และฟื้นฟูจากอาคาร
สองชั้นให้กลับมาเป็นอาคารสามชั้นดั้งเดิมด้วย

หลังคาทรงกลมบนโดมสองแห่งที่ทิศเหนือและใต้ที่ถูกเผาจากผลกระทบทางสงครามได้รับการฟื้นฟูขึ้นมาอีกครั้ง
แม้แบบแปลนภายในตัวโดมจะถูกทำลายเหลือเพียงแค่แผ่นเดียว แถมรูปภาพที่หลงเหลือยังเป็นขาวดำ แต่ก็
ได้นำไปพิสูจน์ภาพและเริ่มทำการฟื้นคืนชีพภาพเหล่านั้นขึ้นมาอีกครั้ง ผิวกำแพงบนที่ชั้นสามของโดมทิศใต้
ฝั่งตะวันออกที่ถูกปรับปรุงยังคงส่วนหนึ่งที่ถูกทำลายจากสงครามเอาไว้ และเก็บเอาไว้เพื่อเป็นเครื่องเตือนใจ
ต่อไป

มารุโนะอุจิในช่วงศตวรรษที่ 16 ตั้งอยู่ทีเดียวกับพระราชวังเอโดะ (พระราชวังหลวงในปัจจุบัน) สร้างขึ้น
เพื่อเป็นที่พักของเหล่าคนที่ทำงานในพระราชวัง เมื่อร้อยปีก่อนเป็นค่ายทหาร หลังจากนั้นจึงปล่อยให้
กลายเป็นลานสนาม หลังจากที่สถานีโตเกียวเปิดทำการในปี ค.ศ. 1914 มารุโนะอุจิเริ่มมีการสัญจรไปมา
เพิ่มขึ้นมากอย่างรวดเร็ว และสร้างเป็น "อาคารกลม" ในปี ค.ศ. 1923 โดยชั้นหนึ่งและสองของอาคาร
เป็นย่านการค้า ส่วนชั้นบนที่เป็นสำนักงานนั้นก็เป็นผลงานที่พลิกโฉมหน้าประวัติศาสตร์การก่อสร้าง
ญี่ปุ่นเลยทีเดียว หลังจากนั้นจึงส่งอิทธิพลให้อาคารสำนักงานเริ่มมีขนาดใหญ่ขึ้นในเวลาต่อมา
ภาพ: หอสมุดแห่งชาติ

อาจารย์ของสถาปนิกผู้ออกแบบสถานีโตเกียว ทัตสึโนะ กินโกะ ก็คือ โจเซีย คอนดอร์ จากอังกฤษ
นั่นเอง จากการออกแบบของเขา ทำให้เกิดเป็นอาคารสำนักงานจากอิฐแห่งแรกในมารุโนะอุจิ
"Mitsubishi Ichigokan" ขึ้นในปี ค.ศ. 1894 แม้จะถูกทุบทิ้งในปี ค.ศ. 1968 แต่ก็สร้างขึ้นมาใหม่
ตามรูปแบบเดิมขึ้นในปี ค.ศ. 2009 และเปิดให้บริการเป็น "พิพิธภัณฑ์ Mitsubishi Ichigokan"
ในปี ค.ศ. 2010

ที่ทำการไปรษณีย์กลางของญี่ปุ่นตั้งอยู่ที่ทางออกทิศใต้ของสถานีโตเกียว ถูกเก็บรักษาสภาพในปัจจุบัน
สำนักงานเก่าเอาไว้และก่อสร้างใหม่แล้วเมื่อปี ค.ศ. 1931
ในสมัยไทโช (ค.ศ. 1912-1926) และสมัยโชวะ (ค.ศ. 1926-1989) นั้นส่งไปรษณีย์กันผ่านทาง
รถไฟใต้ดิน และจัดส่งผ่านรถรางที่สถานีโตเกียว หลังจากนั้น สำนักงานเดิมส่วนหนึ่งถูกปรับปรุงใหม่
ที่อาคารต่ำแห่งใหม่ "JP TOWER KITTE" ปรับปรุงที่ทำการไปรษณีย์ให้กลับมาสภาพเดิม และเปิดเป็น
พื้นที่พักผ่อนสาธารณะในเวลาต่อมา