เรื่อง "Durarara !! (สงครามแดนสนธยา)" เป็นอนิเมะยอดนิยมอยู่ใน
ต่างประเทศด้วย ที่ญี่ปุ่นตั้งแต่ปี ค.ศ. 2016 กำลังฉาย
"Durarara !!×2 จบ" ซึ่งเป็นบทสิ้นสุดของ "Durarara !!×2" จริง ๆ
แล้ว ฉากในผลงานนี้คือที่อิเคะบุคุโระ เพราะฉะนั้นลองสัมผัสประสบการณ์
ตามรอยมาดูฉากจริง ๆ กันเถอะ

ก่อนอื่นก็เป็นสถานที่นี้ที่ออกมาจากที่ตรวจตั๋วในสถานี JR "อิเคะบุคุโระ"
แล้วจะเจอพอดี เป็นสถานที่ที่ถูกใช้เป็นฉากในตอนแรกที่ตัวเอก ริวกามิเนะ
มิคาโดะ มาเยือนอิเคะบุคุโระเป็นครั้งแรก แล้วเจอกับคิดะเพื่อนสนิทอีกครั้ง
ไม่เพียงแค่ตึกเท่านั้นยังมีผู้คนจำนวนมาก หรือป้ายที่ตกแต่งอยู่ก็ทำออกมา
ได้เหมือนกับของจริงมาก ซึ่งจะทำให้สามารถที่จะสัมผัสความรู้สึกเดียวกัน
กับมิคาโดะในตอนที่ 1 ได้

และ เดินจากสถานีไปอีกไม่กี่นาทีก็จะถึงถนนซันไชน์อิเคะบุคุโร ถึงจะเป็น
ถนนที่คิดะได้นำทางให้มิคาโดะ ถ้าเกิดได้มาเยือนที่นี่ในวันหยุดล่ะก็คงจะ
ได้ตกใจกับคนที่เยอะมาก ๆ และเมื่อเดินหลบไปทางแยกจากถนนใหญ่นี้
เล็กน้อย ก็จะสามารถไปถึงสวนสาธารณะเล็ก ๆ ที่มีอนุสาวรีย์ตัวโน้ตที่
ปรากฎอยู่ในเพลงเปิดของอนิเมะ

ถ้าเดินไปอีกสักหน่อยก็จะสามารถเห็นตึกที่มีรัสเซียซูชิที่มีอยู่ในอนิเมะ
ซึ่งไซมอนกำลังแจกใบปลิวอยู่ แน่นอนถึงร้านที่ชื่อรัสเซียซูชิจะไม่มีจริง ๆ
ก็ตาม แต่ที่นี่เป็นสถานที่ที่ชินระเดินอยู่ และตึกที่มีพินโบว์ลิ่งขนาดยักษ์ที่
อยู่ข้างหลังของเขาก็มีอยู่จริงตรงฝั่งตรงข้าม ถ้าเดินลอดใต้ทางรถไฟข้าม
ไปต่อก็จะเจอสวนสาธารณะกลางฮิกาชิอิเคะบุคุโระที่ในภาค 1 ตอนที่ 3
มิคาโดะกับอันริเพื่อนร่วมห้องได้หนีเข้าไป

สวนสาธารณะที่ติดกับอาคารซันไชน์ 60 ที่อยู่หน้าตรงกลางโอโตเมะโร้ด
โดยปกติคนจะไม่เยอะมาก จึงกลายเป็นที่ผ่อนคลายที่มีนกหรือแมวมา
รวมตัวกัน เพราะมีม้านั่งด้วยการมานั่งรับประทานอาหารกลางวันเบา ๆ
ที่นี่ก็จะดีไม่น้อยเลย บริเวณตั้งแต่สถานีมาจนถึงสวนสาธารณะนี้เป็นฉาก
หลัก ๆ ในภาค 1 ของเรื่อง "Durarara!!"

กลับมาที่ด้านหน้าของสถานี แล้วเดินไปสะพานลอยมุทสึมาตะ ที่นี่เป็น
สะพานที่มิคาโดะ คิดะและอันริยื่นเรียงดูดวงอาทิตย์ตกดินกันในเพลง
เปิดภาค 1 และเป็นที่ที่พวกเขาใช้ผ่านตอนเลิกเรียนอยู่บ่อย ๆ สะพานลอย
มุทสึมาตะเป็นสะพายลอยที่อยู่บนสายยามาโนเตะ เพราะได้มองพระอาทิตย์
ตกดินที่นี่ต่างหากจึงได้ความรู้สึกว่า ตัวเองก็เหมือนกับได้เป็นส่วนหนึ่งของ
โลก "Durarara!!" ดวงอาทิตย์ที่มองดูจากสะพานลอยเป็นทิวทัศน์ที่งดงาม
ในหมู่ตึกที่เรียงรายในตัวเมืองด้วย และอาจจะทำให้รู้สึกลำลึกถึงวันวานก็
เป็นได้

กลับมาที่ถนนซันไชน์อีกครั้ง สถานที่นี้ที่อยู่หน้าซันไชน์ซิตี้ ถ้าเป็นแฟนจริง ๆ
แล้วคงจะมีความทรงจำหลงเหลืออยู่เป็นแน่ ช่วงไคลแม็กซ์ของตอนที่ 11 ใน
ภาค 1 ที่มิคาโดะเรียกแก๊งค์ดอลล่าส์รวมตัวก็คือสถานที่นี้นั่นเอง

ในที่มีคนมารวมตัวกันเรื่อย ๆ แล้ว "นักซิ่งหัวขาด" ก้าวลงมา ความตื่นเต้น
ตอนที่ได้ดูอนิเมะ อยากให้ลองนึกถึงมันอีกครั้งดู เมื่อมาจนถึงตอนนี้ก็ได้
ดูสถานที่เป็นฉากที่เป็นศูนย์กลางของเรื่อง "Durarara!!" ที่เป็นอนิเมะ
ภาค 1 แล้ว ถ้าเป็นแฟนแล้วไม่ว่าใครก็คงจะต้องตกใจในความสามารถใน
การนำมาทำใหม่อย่างแน่นอน อิเคะบุคุโระนั้นเป็นเหมือน "Durarara!!" ที่
เป็นเมืองซึ่งมีตัวละครในเรื่องวิ่งวนอย่างมีชีวิตชีว่าอยู่

ต่อไปคืออนิเมะเรื่อง "MAWARU-PENGUINDRUM" ที่ญี่ปุ่นได้ฉายช่วง 2
ตั้งแต่เดือนกรกฎาคมปี ค.ศ. 2011 เป็นต้นมา เป็นผลงานที่ได้รับกระแส
เพราะได้ผู้กำกับอิคุฮาระ คุนิฮิโกะที่มีชื่อเสียง จากเรื่อง "Revolutionary
Girl Utena (อูเทนะ พลิกฟ้าตามหารัก)" ซึ่งตอนที่ทำผลงานก็ได้มาเยือน
อิเคะบุคุโระอยู่บ่อย ๆ ครั้ง มาดูสถานที่ที่เป็นฉากที่มีศูนย์กลางเป็นประตู
ทิศตะวันออกของสถานีอิเคะบุคุโระกัน

ถ้าออกมาจากประตูทิศตะวันออกของสถานีอิเคะบุคุโระแล้วล่ะก็ ตรงนั้นก็
จะเป็นโลกของ "MAWARU-PENGUINDRUM" ทันที โดยเฉพาะรูปปั้น
สองอันที่เข้าตาทันทีที่ออกทางประตูทิศตะวันออก เหมือนกับพวกตัวละคร
ของสัญลักษณ์ภาพที่มีลักษณะเฉพาะ คงจะมีคนที่ยังมีความประทับใจ
หลงเหลืออยู่จำนวนมาก นี่เป็นผลงานของนักแกะสลักที่มีชื่อเสียงของ
ฝรั่งเศส มีการตกแต่งเอาไว้ที่ประตูทิศตะวันออกของสถานีอิเคะบุคุโระอยู่
จริง ๆ ฉากหลัก ๆ ของเรื่อง"MAWARU-PENGUINDRUM" ที่อยู่ใน
อิเคะบุคุโระ จะเป็นแถวบริเวณประตูทิศตะวันออกของสถานี ถ้าเดินดูรอบ ๆ
ก็คงจะสามารถพบเห็นทิวทัศน์ที่เคยเห็นในอนิเมะได้

และที่ประตูทิศตะวันออกก็ยังมีรูปปั้นอิเคฟุคุโร (นกฮูกอิเคะ) ที่เป็นสมบัติ
สำคัญในฐานะที่เป็นสถานที่นัดพบ และนี้ได้ถูกดัดแปลงเป็นรูปปั้นเพนกวิน
ที่เป็นมาสคอตที่สำคัญในอนิเมะ ลองหาความแตกต่างและความเหมือนกัน
กับในเรื่อง "MAWARU-PENGUINDRUM" ก็น่าสนใจไม่น้อยเช่นกัน

ถัดไป จะขอแนะนำเรื่อง "The Girl Who Leapt Through Time"
หนังอนิเมะ SF ที่มีชื่อเสียงที่มาปรากฎอยู่ในบริเวณอิเคะบุคุโระ
โดยเป็นผลงานของผู้กำกับมาโมรุ โฮโซดะที่มีชื่อเสียงจากเรื่อง
"ซัมเมอร์วอร์ส" และ"คู่จี๊ดชีวิตอัศจรรย์" ซึ่งเป็นผลงานที่มีแฟนอยู่มาก
จริง ๆ แล้วในสถานี"โกะโคคุจิ" สถานีที่สองที่ออกจากอิเคะบุคุโระด้วย
สายโตเกียวเมโทรยูระคุโจ มีเนินฟุจิมิที่เป็นโมเดลของผลงานนี้อยู่

ถ้าเดินจากสถานนีโกะโคคุจิประมาณ 15 นาทีก็จะพบกับเนินฟุจิมิ ถ้าคน
เคยดูหนังก็คงจะเข้าใจได้ทันทีเลยล่ะ เป็นฉากที่ตัวละครหลัก มาโกโตะ
ได้จากลากับจิอาคิเพื่อนรวมชั้นหลายครั้ง เนินนี้ที่อยู่ในย่านที่อยู่อาศัยอัน
เงียบของญี่ปุ่น เป็นสถานที่ที่สำคัญที่เป็นโมเดลของเรื่อง "The Girl Who
Leapt Through Time" แต่ถ้าได้ลองมาเดินดูแล้ว ไม่ใช่เพียงโลกของ
ภาพยนตร์เท่านั้น ยังอาจจะได้เห็นธาตุแท้ของการเป็นอยู่ของผู้คนชาวญี่ปุ่น
ก็เป็นได้

อิเคะบุคุโระที่มีชื่อเสียงในเรื่องที่มีแหล่งร้านที่เกี่ยวกับอนิเมะรวมตัวกันอยู่
และมีสถานที่ที่เป็นฉากในอนิเมะอยู่มากมาย
เหมือนกับที่ได้แนะนำมาจนถึงตอนนี้ ในตอนที่มาเยือนท่องเที่ยวที่โตเกียว
ก็อยากจะให้ได้สัมผัสโลกนั้น และซึมซับทิวทัศน์ที่มีอยู่ในอนิเมะให้ได้