เมนูเด็ดประจำร้าน ที่ใช้ในตอนเริ่มกิจการเมื่อปี ค.ศ. 1929 คือ "Mugitoro"
นั่นคือ การนำ "โทโระโระ" ซึ่งเป็นการเอา "มันยามาโตะอิโมะ"
ที่มีความหนืด และความหวานมาฝนให้ละเอียด ลดความหนืดด้วยน้ำซุปดาชิ ราดลงบนข้าวบาเลย์
จนพูนชามแล้วจึงรับประทาน เมนู "Tororo Irodori Zen" คือ Mugitoro ที่มาพร้อมกับเครื่องเคียงหรือซาชิมิ
และของทอด ราคา 2,800 เยน (ไม่รวมภาษี) สำหรับบุฟเฟ่ Mugitoro ( Mugitoro Biking) ยอดนิยม
ที่มาในราคาเพียง 1,000 เยน ซึ่งจำกัดเฉพาะวันธรรมดา (11:00 - 13:30)
ท่านจะสามารถทาน Mugitoro ไข่เจียว ของต้ม ของดอง และน้ำซุปมิโสะ ฯลฯ ได้อย่างไม่อั้น

เปิดกิจการเมื่อปี ค.ศ. 1887 เทมปุระของร้าน Daikokuya Tempura นั้นจะใช้น้ำมันงาในการทอด
เพื่อให้แป้งเทมปุระนุ่มฟู กรอบกำลังดีซึ่งเป็นจุดเด่นของร้าน เมนูแนะนำคือ "Ebi Tempura" ซึ่งให้
เทมปุระกุ้งถึง 4 ชิ้น ในราคา 1,950 เยน กุ้งขนาดมหึมาแต่ละตัวที่ใหญ่จนล้นขอบชามราดด้วย
Tare (ซอสราด) รสหวานสูตรเข้มข้มที่จะมาช่วยดึงความอร่อยของกุ้งออกมาอีกขั้น และ"Tendon"
ราคา 1,550 เยน ที่ประกอบไปด้วยกุ้ง คิสุ (ปลาเนื้อขาวขนาดเล็ก) และคาคิอาเกะ (ผักรวมชุบแป้งทอด)
รวมทั้งหมดสามชนิด ก็เป็นที่นิยมเช่นกัน

เริ่มกิจการเมื่อปี ค.ศ. 1837 ว่ากันว่าเป็นร้านเทมปุระที่เก่าแก่ที่สุดในประเทศญี่ปุ่น
และยังคงรักษาโนเร็น (ป้ายผ้าม่านที่แขวนหน้าร้าน) เอาไว้ตั้งแต่สมัยเอโดะ
เมนูที่ร้านภูมิใจนำเสนออย่าง "Joutendon" ราคา 1,820 เยน ที่มีกุ้งตัวใหญ่ล้นชาม
มาพร้อมกับกุ้งตัวเล็ก และปลาหมึกชุบแป้งทอดพร้อมกับผักชนิดต่างๆเป็นคาคิอาเกะ
วางบนข้าวสวยร้อนๆ ถือเป็นจานที่มาในปริมาณจุใจ เต็มอิ่มแน่นอน เทมปุระที่ทอดด้วยน้ำมันงานั้น
จะให้กลิ่นหอม และได้รับความนิยมอย่างมากในหมู่ชาวต่างชาติถึงขนาดมีการเตรียมเมนู
ภาษาอังกฤษและภาษาไทย

“Otafuku” เป็นร้านที่ขายเฉพาะโอเด้ง เปิดกิจการขึ้นเมื่อปี ค.ศ. 1915 “โอเด้ง” คืออาหารที่นำ
คอนเนียขุ (วุ้นทำจากหัวบุก) ฮันเป็ง (ลูกชิ้นปลา) และหัวไชเท้า ฯลฯ มาต้มในดาชิ (น้ำซุป)
ที่ได้จากการต้มสาหร่ายคอมบุหรือปลาคัทสึโอะเป็นระยะเวลานาน โดยปกติจะมีการจัดเตรียมวัถุดิบ
ประมาณ 35-40 ชนิด เพื่อดึงรสชาติของวัตถุดิบแต่ละชนิดให้ออกมาได้อย่างเต็มที่
ทั้งการจัดเตรียมระยะเวลาในการต้มจึงแตกต่างกันออกไปแล้วแต่วัตถุดิบ อย่างหัวไชเท้าที่ต้มนาน 3 วัน
จนน้ำซุปแทรกซึมเข้าไปถึงเนื้อ ทำให้อ่อนนุ่มขนาดที่สามารถใช้ตะเกียบตัดได้ในทันที
โอเด้ง 1 ชิ้น มีราคาตั้งแต่ 110 ถึง 540 เยน และบางอย่างอาจมีการเปลี่ยนแปลงราคาไปตามราคา
ของวัตถุดิบในเวลานั้นๆ

“Kamiya Bar” ถือเป็นบาร์แห่งแรกของประเทศญี่ปุ่น เปิดให้บริการเมื่อปี ค.ศ. 1880
เมนูขึ้นชื่อของร้านคือค็อกเทลที่มีเบสเป็นเหล้าบรั่นดีที่ชื่อว่า "Denki Bran" ราคา 270 เยน
ที่ได้รับการสืบทอดมาตั้งแต่สมัยที่เปิดกิจการ ต้นกำเนิดของชื่อนี้ มาจากการที่ไฟฟ้ายังเป็น
ของแปลกใหม่ในประเทศญี่ปุ่นสมัยนั้น และไม่ว่าอะไรก็ตามที่เป็นของใหม่ล่าสุดในตอนนั้น
แม้จะไม่มีอะไรที่เกี่ยวข้องกับไฟฟ้าเลย ก็นิยมใช้คำว่า "Denki (ไฟฟ้า)" มานำหน้าชื่อ
ในระยะแรกเมนูนี้มีระดับแอลกอฮอล์ที่สูงถึง 45 ดีกรี เมื่อดื่มเข้าไปแล้วจะรู้สึกชาที่ลิ้น
เหมือนกับถูกกระแสไฟฟ้านั่นเอง

ร้านกาแฟชื่อดังที่บรรดาเหล่านักเขียนที่เรียกได้ว่าตัวแทนของประเทศญี่ปุ่นอย่าง
คาวาบาตะ ยาสึนาริ และอิเคนามิ โชทาโร่ ให้ความนิยมชมชอบ เริ่มเปิดกิจการเมื่อปี ค.ศ. 1946
เมนูยอดนิยมของร้าน คือ กาแฟสกัดเย็น (Cold-brew coffee) กับเค้ก "Angelus" ที่ตั้งชื่อตามชื่อร้าน
ราคา 330 เยน เค้ก "Angelus" เป็นเค้กโรลที่ใช้บัตเตอร์ครีม มีให้เลือกสองรส คือ ช็อกโกแลตกับ
ไวท์ช็อกโกแลต เค้กหวานน้อยกับกาแฟรสเข้มช่างเป็นอะไรที่เข้ากันได้อย่างลงตัว
อีกหนึ่งเมนูแนะนำ คือ "Ume Dutch Coffee" ที่มีการใส่เหล้าบ๊วยที่ทำเองลงไปในกาแฟสกัดเย็น
ราคา 720 เยน