ร้านเมดคาเฟ่แห่งแรกที่อยากแนะนำ คือร้าน “@Home Cafe สาขาใหญ่อากิฮาบาระ” คุณมาริอันนุนำเสนอว่า “จุดที่อยากแนะนำเลย คือขนาดของร้านที่กว้างขวางและความสะดวกสบายค่ะ และเนื่องจากเป็นร้านที่มีคุณเมดจำนวนมากมาสมัครทำงาน จึงทำให้ลูกค้าเจอคนที่ตรงใจได้ง่าย แล้วลูกค้ายังสามารถถ่ายรูปเป็นที่ระลึกและแข่งขันเล่นเกมร่วมกับเมดได้ด้วยนะคะ”

ที่สาขาใหญ่อากิฮาบาระนี้ เปิดเป็นคาเฟ่แยกกันในแต่ละชั้น ตั้งแต่ ชั้น3 ถึง ชั้น7 ซึ่งภายในร้านนั้นกว้างขวางสุดยอดไปเลย

เมื่อคุณก้าวเท้าเข้ามาในร้าน เมดต้อนรับจะเข้ามารับรองทันทีพร้อมกับกล่าวต้อนรับว่า “ยินดีต้อนรับกลับบ้านค่ะ” พอเดินผ่านเข้าไปภายใน เมดต้อนรับก็จะสั่นกระดิ่งและเหล่าคุณเมดที่อยู่บริเวณนั้นจะกล่าวต้องรับอย่างพร้อมเพียงกันว่า “ยินดีต้อนรับกลับบ้านค่ะ นายท่าน นายหญิง” เมื่อลูกค้าเข้าไปนั่งประจำโต๊ะแล้ว คุณเมดก็จะเข้ามาอธิบายระเบียบการใช้บริการ รวมถึงเมนูอาหารต่างๆ อย่างสุภาพ ดังนั้นแม้แต่ลูกค้ามือใหม่ก็ใช้เวลาได้อย่างเพลิดเพลินสบายใจ

สำหรับเมนูอาหาร นอกจากรายการอาหารที่เป็นภาษาญี่ปุ่นแล้วยังมีภาษาอังกฤษและภาษาจีนไว้คอยบริการ แถมพนักงานทุกคนยังได้รับการฝึกอบรมภาษาอังกฤษอีกด้วย จึงอยากแนะนำคาเฟ่นี้ให้กับนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติเป็นพิเศษเลย

สำหรับเมนูที่ลูกค้าสามารถมีปฏิสัมพันธ์อย่างสนุกสนานกับคุณเมดได้นั้น ได้ข่าวมาว่าได้รับความนิยมสูงเลยทีเดียว ร้านเมดคาเฟ่แห่งนี้ ลูกค้าสามารถร่วมกันชงเครื่องดื่มแบบ “furifuri♪shakashaka♪” กับคุณเมดได้ในเมนูที่ชื่อว่า “furifuri shakashaka♪mikkusu ju-chu” ราคา 750 เยน (ไม่รวมภาษี) เป็นการผสมเครื่องดื่มสไตล์โมเอะ ซึ่งคุณสามารถเลือกได้ว่าจะผสมกับนมหรือโซดา แล้วสนุกกับการลุ้นว่าเครื่องดื่มของลูกค้านั้นจะออกมาเป็นสีอะไรกัน

เมนูข้าวห่อไข่ “pipiyo piyopiyo♪hiyokosan raisu” สนนราคา 900 เยน (ไม่รวมภาษี) ก็เป็นเมนูดั้งเดิมยอดนิยมด้วยเช่นกัน คุณเมดจะใช้ซอสมะเขือเทศวาดรูปต่าง ๆ ให้ในตอนท้ายของการเสิร์ฟ เป็นการ “ร่ายมนต์” ที่เต็มเปี่ยมไปด้วยความรักเพื่อเพิ่มความอร่อยให้กับอาหารของคุณลูกค้านั่นเอง

เมนูของหวานยอดนิยมหลักๆ คือของหวานสีพาสเทลน่ารักสดใส ไม่ว่าจะเป็นเมนู “ojouchama sundae” ในราคา 700 เยน (ไม่รวมภาษี) หรือ เมนู “obocchama sundae” ราคา 700 เยน (ไม่รวมภาษี) เป็นซันเดย์ที่เน้นสีฟ้าอ่อนละมุนเป็นหลัก

โดยปกติลูกค้าจะใช้บริการอยู่ภายในร้านประมาณ 1 ชั่วโมง ค่าใช้จ่ายที่จะสามารถเข้ามาเพลินใจในเมดคาเฟ่นั้นโดยหลักจะเป็นค่าอาหารและเครื่องดื่มบวกกับค่าธรรมเนียมเข้าใช้บริการ ซึ่งรวมแล้วค่าใช้จ่ายจะตั้งแต่ 1,270 เยนขึ้นไป (รวมภาษี) ซึ่งเราอยากแนะนำว่ามีเซตเมนูอาหารกับของหวานที่รวมการถ่ายรูปที่ระลึกและการแข่งขันเล่นเกมร่วมกับพนักงานสาวชาวเมดด้วยนะ

บริเวณชั้น2 ของสาขาใหญ่แห่งนี้ จะมีร้าน “@Home Shop ” ซึ่งคุณสามารถซื้อของที่ระลึกได้ เช่น รูปถ่ายของของคุณเมดสาว หรือ
“โมเอะ โมเอะ พิ้งค์ คาเร” และ “ป๊อปคอร์น” ในรูปที่เห็นนี่คือ “โมเอะ โมเอะ ป๊อปคอร์น” เป็นป็อปคอร์นรสหวานสินค้าดั้งเดิมเฉพาะของ “@Home Cafe” ราคาห่อละ 550 เยน (ไม่รวมภาษี) และมีให้เลือกหลากหลายรสด้วย เช่น นมสตรอเบอร์รี่ บลูเบอร์รี่ หรือคาราเมล โดยจะมีการพิมพ์ภาพของคุณเมดลงบนแต่ละแพ็กเกจด้วยนะ ไม่ลองซื้อไว้เป็นที่ระลึกในการกลับบ้านที่ “@Home Cafe” สักหน่อยหรือเจ้าคะ?

ร้านถัดมาคือ “CURE MAID CAFÉ” เป็น “เมดคาเฟ่แบบดั้งเดิม” ซึ่งเปิดให้บริการตั้งแต่ปี 2001 ซึ่งคุณมาริอันนุอธิบายว่า “มีชื่อเสียงในเรื่องของความดั้งเดิม โดยชุดเมดในกระโปรงยาวนั้นเป็นเอกลักษณ์ของที่นี่ และโดดเด่นในเรื่องรสชาติของเมนูชาและอาหาร!”

ที่นี่ไม่ใช่เมดคาเฟ่นี่เน้นความสนุกในการทำกิจกรรมร่วมกับพนักงานชาวเมด แต่จะเป็นในลักษณะที่ให้ผ่อนคลายจิตใจไปกับบรรยากาศอันเงียบสงบภายในร้าน ซึ่งการที่จะพูดคุยกับเมดของที่นี่นั้นเป็นไปได้ค่อนข้างยาก แต่อย่างไรก็ตาม เราอยากแนะนำคาเฟ่แห่งนี้สำหรับคนที่อยากมีประสบการณ์กับบรรยากาศของเมดคาเฟ่แบบดั้งเดิมมาให้ลองกัน

พนักงานชาวเมดจะอยู่ในชุดเครื่องแบบดั้งเดิมที่เข้ากับบรรยากาศของร้าน และคอยให้บริการด้วยความใส่ใจจนคุณรู้สึกได้ถึงความหรูหราราวกับว่าเป็นชนชั้นสูงหรือเป็นคุณหนูเลยทีเดียว

เมนูชาของที่นี่นั้น แนะนำว่าต้องลองดื่มสักครั้ง เพราะทางร้านได้คัดสรรใบชาและมีวิธีการเสิร์ฟอย่างพิถีพิถัน จนได้รับการยอมรับจากสมาคมชาแห่งประเทศญี่ปุ่นว่าเป็น “ร้านน้ำชาแสนอร่อย”

เมนูยอดนิยม คือ เมนู “Cure Lumiere” ราคา 500 เยน (ไม่รวมภาษี) ชาสมุนไพรรวมที่มีรสชาติเป็นเอกลักษณ์ของทางร้าน โดยส่วนประกอบและปริมาณของสมุนไพรที่ใช้นั้นจะปรับเปลี่ยนไปตามฤดูกาลและตามความต้องการของลูกค้า ซึ่งแต่ละเมนูจะมีช่วงเวลาและการเสิร์ฟในปริมาณจำกัด ถือได้ว่าเป็นเมนูที่ควรลองสั่งดูว่าช่วงเวลาที่เรามาใช้บริการนั้นรสชาติของชาสมุนไพรนี้จะเป็นอย่างไร

ใบชารวมสำหรับซื้อกลับบ้านก็มีจำหน่ายเช่นเดียวกัน โดยใบชาปริมาณ 30 กรัม ราคา 1,000 เยน (ไม่รวมภาษี) เหมาะสำหรับการเป็นของฝากมากเลยล่ะ เพราะฉลากบนกระป๋องบรรจุนั้นจะเป็นฉลากดั้งเดิมของ “CURE MAID CAFÉ”

ในบรรดาเมนูโปรดของใครหลายคนรวมทั้งคุณมาริอันนุด้วยนั้น ดูเหมือนว่า เมนู “ข้าวห่อไข่ (omurice)” ราคา 850 เยน (ไม่รวมภาษี) จะติดอันดับอยู่ด้วย โดยข้าวห่อไข่ของที่นี่นั้น ข้าวจะถูกนำไปผัดกับไก่จนฉ่ำข้นแล้วโปะด้วยไข่ชีสด้านบน ซึ่งซอสราดจะมี 2 ชนิดให้เลือก คือ เดมิกลาสซอส (ซอสสีน้ำตาล) และ ไวท์ซอส (ซอสสีขาว)

นอกจากนี้ ยังมีเมนูพาสต้าและข้าวแกงกะหรี่ หรือจะเป็นเมนูทานเล่นอย่างไส้กรอกเวียนนาหรือมันฝรั่ง รวมถึงสลัดก็มีให้เลือกมากมาย ไม่เพียงเท่านั้น ทางร้านยังมีเมนูสำหรับคนที่ทานเจหรือมังสวิรัติด้วยนะ

สิ่งที่เราอยากจะแนะนำเพื่อเพิ่มบรรยากาศเรียบหรูควบคู่ไปกับการจิบน้ำชายามบ่ายนั้นก็คือ ขนมหวานเมนูยอดนิยมของที่นี่ “Kimagure waffle” ราคา 500 เยน (ไม่รวมภาษี) เป็นวาฟเฟิลอบกรอบนอกนุ่มในเสิร์ฟพร้อมกับไอศกรีมและซอสราด ซึ่งไอศกรีมและซอสราดนี้ก็จะมีการปรับเปลี่ยนวัตถุดิบและรสชาติไปตามแต่ละช่วงเวลาเช่นเดียวกัน

ที่ “CURE MAID CAFÉ” นี้ คุณจะได้เพลินใจไปกับเมนูชาที่ถูกคัดสรรพิเศษและเมนูอาหารในช่วงกลางวัน และในช่วงเย็นจะมีเครื่องดื่มแอลกอฮอล์แสนอร่อยและอาหารค่ำไว้คอยบริการ ทำให้คุณใช้เวลากับความเงียบสงบและเรียบหรูเพื่อผ่อนคลายจิตใจได้อย่างคุ้มค่าเลยทีเดียว

มาต่อกันด้วย “Akiba Zettai Ryouiki” เมดคาเฟ่ยอดนิยมที่มีถึง 4 สาขาในอากิฮาบาระ บรรยากาศการตกแต่งภายในร้านและชุดเครื่องแบบจะแตกต่างกันออกไปตามแต่ละสาขา แต่ว่าทุกสาขาก็ล้วนแล้วแต่ให้บริการด้วยอาหารและการตกแต่งร้านที่สวยงามเหมาะกับการถ่ายรูปและยังคงความ “คาวาอี่ (น่ารัก)” เอาไว้

คอนเซ็ปต์ของที่นี่ คือเหล่าแมว ๆ ที่อยากตอบแทนบุญคุณของนายท่านมนุษย์จึงมาคอยให้บริการนายท่านในร่างของมนุษย์เมดสาวในพื้นที่ที่ชื่อว่า “Zettai Ryouiki” ซึ่งเป็นที่ที่พระเจ้าสร้างขึ้น “เมดที่นี่สวมหูแมว 100% เลยค่ะ เหมาะสำหรับนายท่านที่ชื่นชอบหูสัตว์มากเลยนะคะเหมียว” คุณมาริอันนุก็ยืนยันด้วยเช่นกัน

แม้ว่าพนักงานชาวเมดส่วนใหญ่ของที่นี่จะเป็นโอตาคุก็ตาม แต่สาว ๆ ที่นี่ก็ยังชื่นชอบการแต่งหน้าและแฟชั่นเป็นอย่างมากด้วย ดังนั้นคิดว่าพวกเธอน่าจะเข้ากันได้เป็นอย่างดีกับลูกค้ามือใหม่หัดเที่ยวที่ไม่รู้จะคุยอะไร หรือแม้แต่ลูกค้าสาว ๆ ที่ชื่นชอบความน่ารักแบบนี้อีกด้วย

นอกจากนี้เมนูของทั้ง 4 สาขานั้นจะมีทั้งภาษาอังกฤษและภาษาจีน (แบบตัวเต็ม) กำกับไว้ และแม้ว่าจะเป็นลูกค้าจากต่างประเทศก็สามารถสื่อสารตอบโต้กับสาวชาวเมดด้วยการใช้โปรแกรมแปลภาษาได้อย่างสนุกสนาน

ระบบค่าบริการนั้นเป็นแบบการสั่งเครื่องดื่ม คือ 1 คน มีเวลา 60 นาที กับการสั่งเครื่องดื่ม 1 เมนู ในราคา 600 เยน (ไม่รวมภาษี) แล้วถ้าหากเกินเวลา 60 นาที จะต้องสั่งเครื่องดื่มเพิ่มเพื่อขยายเวลาต่อไปเรื่อยๆ

สาวเมดที่สวมหูสัตว์จะร่ายมนต์เพื่อเพิ่มความอร่อยในทุกเมนูด้วยคาถา “โออิชิคุนาเระ โมเอะโมเอะควิน” และได้ยินมาว่าเมนูการแสดงสดที่ชาวเมดจะเต้นแสดงต่อหน้าคุณลูกค้าก็ได้รับความนิยมเช่นกัน เมื่อสั่งเมนูที่มาพร้อมกับการแสดงสดก็จะมีการแสดงจากสาวเมดบนเวทีที่อยู่กลางร้านให้เหล่านายท่านได้ชื่นชม นอกจากนั้นยังจะได้ชมศิลปะการแสดงแบบฉบับของอากิฮาบาระที่มีชื่อว่า “ศิลปะการเชียร์แบบโอตาเก (เป็นการเชียร์ไอดอลญี่ปุ่นรูปแบบหนึ่ง)” อีกด้วยนะ

ในรูปภาพ คือ เมนู “white omurice” ราคา 1,400 เยน (ไม่รวมภาษี) ของร้าน Akiba zettai ryouiki สาขา 1 แน่นอนว่าคุณเมดก็จะใช้ซอสมะเขือเทศวาดรูปน่ารักต่างๆ บนข้าวห่อไข่ตามธรรมเนียมของร้านเมดคาเฟ่ให้ด้วย

สำหรับคาเฟ่นี้ คุณลูกค้ายังสามารถเซลฟีถ่ายรูปเป็นเมดได้ด้วยกับเมนู “Photo Props Drink” ในราคา 1,000 เยน (ไม่รวมภาษี) ซึ่งได้รับความนิยมสูงมาก และถ้าคุณไม่กล้าถ่ายรูปร่วมกับสาวเมด เราแนะนำให้ลองเมนู “Photo Props Drink” เพื่อเป็นการอุ่นเครื่องก่อนเลยดีไหมเจ้าคะ?

ขอแนะนำแบบต่อเนื่องกับร้าน “ยินดีต้อนรับสู่ ู่Maidreamin” เป็นเมดคาเฟ่ที่มีพนักงานเมดมากที่สุด และเป็นกลุ่มร้านเมดคาเฟ่ใหญ่เป็นอันดับหนึ่งในประเทศญี่ปุ่น “คอนเซ็ปต์คือไอดอล! และเสน่ห์ในการแสดงสดของเหล่าน้องเมด ถ้าคุณคิดอยากจะลองใช้บริการร้านเมดคาเฟ่ดูแล้วละก็ แนะนำว่าควรไปลองร้านนี้ดูสักครั้งค่ะ” คุณมาริอันนุกล่าว

ระบบค่าบริการนั้น คือ 500 เยนต่อคนต่อชั่วโมง (ไม่รวมภาษี) บวกกับค่าอาหารและเครื่องดื่ม เด็กอายุต่ำกว่า 12 ปีจะไม่เสียค่าธรรมเนียมเข้าชมแถมยังมีไอศกรีมไว้บริการสำหรับเด็กด้วย

เมนูอาหารเครื่องดื่มนั้นมีหลายภาษา และได้ยินมาว่าพนักงานชาวเมดเองก็มีหลายเชื้อชาติเช่นกัน เป็นร้านที่เต็มไปด้วยความบันเทิงและการบริการที่หลากหลาย จึงอยากแนะนำให้แก่คุณลูกค้ามือใหม่หัดเที่ยวเมดคาเฟ่รวมไปถึงมือใหม่หัดเที่ยวอากิฮาบาระด้วย

ที่ “ยินดีต้อนรับสู่ ู่Maidreamin” จะมีกิจกรรมมากมายให้คุณได้ร่วมสนุกกับสาว ๆ ชาวเมด เช่น เมนูอาหาร “oishikuna-re” ซึ่งสาวเมดจะช่วยร่ายมนต์ให้อาหารอร่อยขึ้น หรือจะเป็นเมนู “nyannyankuji” รวมไปถึงการการถ่ายรูปโพลารอยด์ด้วย

นอกจากนี้ ไฮไลท์จะอยู่ที่การแสดงสด “tanoshimi live” ที่มีทุก ๆ สองชั่วโมง ซึ่งเป็นการแสดงที่จัดขึ้นภายในร้าน โดยพนักงานสาวชาวเมดจะมาร้องและเต้นในระยะใกล้ชิดให้คุณได้ชื่นชม และยังมีการแสดงเชียร์แบบโอตาเกอีกด้วย และนี่ถือว่าเป็นวัฒนธรรมที่เป็นเอกลักษณ์ของเมดคาเฟ่ย่านอากิฮาบาระ ดังนั้นจึงอยากให้มาลองสัมผัสแบบใกล้ชิดดูสักครั้ง!

“ยินดีต้อนรับสู่ ู่Maidreamin” มีเมนูรายการอาหารและเครื่องดื่มมากมายหลากหลายไว้คอยบริการสำหรับลูกค้าที่ทานน้อยไปจนถึงลูกค้าที่หิวโซ ซึ่งในรูปจะเป็นเมนู “futago no kumatan omurice” ราคา 1,150 เยน (ไม่รวมภาษี) ส่วนเมนูพื้นฐาน “plain omurice” คือข้าวห่อไข่แบบไม่ราดซอสนั้น ราคาจะเริ่มต้นที่ 980 เยน (ไม่รวมภาษี) สำหรับเมนูข้าวห่อไข่ราดซอส “sauce omurice” นั้น จะมี เดมิกลาสซอส (ซอสสีน้ำตาล) หรือ ไวท์ซอส (ซอสสีขาว) ให้เลือก ราคาเพียงจานละ 1,150 เยน (ไม่รวมภาษี)

“animal parfait” เมนูนี้ก็ยอดนิยมเหมือนกันนะ ราคาถ้วยละ 780 เยน (ไม่รวมภาษี) พาร์เฟ่ต์หน้าตาสวยงามเหล่านี้แต่ละถ้วยล้วนเต็มไปด้วยเรื่องราวจากเมืองในฝัน และคุณจะได้เพลิดเพลินกับความ “คาวาอี้” ได้อย่างเต็มอิ่มที่นี่

ร้านสุดท้ายที่จะแนะนำในวันนี้ คือ “Akiba Guild” สวนสนุกในแบบกาสิโนที่ให้คุณได้สนุกกับกาสิโนเกม เช่น โป๊กเกอร์ แบล็คแจ็ค หรือว่ารูเล็ต โดยพนักงานชาวเมดที่ผ่านการฝึกอบรมมาเป็นอย่างดีจะทำหน้าที่เป็นเจ้ามือ ดังนั้นคุณจะได้สัมผัสกับความสนุกในสวนสนุกกาสิโนร่วมไปกับเหล่าเมดสาว

จากคำบอกเล่าของคุณมาริอันนุ “ร้านนี้ไม่ได้เป็นเมดคาเฟ่ที่เน้นเสน่ห์ของเมดแต่ละคน แต่ที่นี่คือร้านที่ได้ร่วมเล่นสนุกไปกับน้องเมด และถึงแม้ว่านายท่านจะไม่รู้กฎกติกาการเล่นเกมในกาสิโน น้องเมดก็จะอธิบายให้อย่างสุภาพและละเอียดละออ ดังนั้นจึงอยากแนะนำที่นี่ให้แก่นักเที่ยวมือใหม่ที่ต้องการกิจกรรมสนุกสนานเคล้ากลิ่นอายไปกับวัฒนธรรมชาวเมด”

เสียงกล่าวต้องรับ “ยินดีต้อนรับกลับบ้านค่ะ นายท่าน” ดังขึ้นขณะที่ก้าวเข้าประตูไป ซึ่งภายในร้านเต็มไปด้วยโต๊ะสำหรับเล่นรูเล็ต และกาสิโนเกมอื่น ๆ ตั้งอยู่เรียงราย

ระบบค่าบริการนั้น เป็นแบบชำระเงินล่วงหน้า ซึ่งเป็นระบบที่จะต้องซื้อชิปตอนที่เข้าไปในร้าน และสำหรับลูกค้าที่มาเป็นครั้งแรกนั้น เราขอแนะนำโปรแกรมการแลก ราคา 3,000 เยน ได้ 300 ดอลลาร์ชิป ซึ่งคุณสามารถเล่นได้นานเท่าไหร่ก็ได้ตราบเท่าที่ชิปคุณยังมีอยู่ในมือ และต้องไม่ลืมว่าที่นี่เป็น “สวนสนุกในแบบกาสิโน” ดังนั้นจะไม่มีการรับแลกดอลลาร์ชิปกลับมาเป็นเงิน แต่ว่าคุณจะได้รับความสนุกสนานกับประสบการณ์กาสิโนเกมอย่างเต็มอิ่ม

นอกจากนี้คำอธิบายระบบค่าบริการและเมนูรายการต่าง ๆ นั้น จะมีภาษาอังกฤษกำกับด้วยเพื่ออำนวยความสะดวกสบายสำหรับคุณลูกค้าชาวต่างชาติที่อ่านภาษาญี่ปุ่นไม่ได้

พนักงานเมดจะสลับหมุนเวียนกันทำหน้าที่เป็นเจ้ามือในหลากหลายเกม และเกมที่มีให้ลองเล่นนั้นก็จะใช้กฎการเล่นพื้นฐานแบบสากล รวมไปถึงคำศัพท์สากลด้วย ดังนั้นจึงมีลูกค้าต่างชาติจำนวนมากที่สนุกกับการสื่อสารกับพนักงานเมดของที่นี่

ลูกค้าสามารถเล่นเกมไปด้วยพูดคุยกับชาวเมดไปด้วยได้ ซึ่งบรรยากาศจะเต็มไปด้วยกลิ่นอายวัฒนธรรมชาวเมด! เช่น สำหรับคนที่เล่นแบล็คแจ็คจะต้องพูดคำว่า “โมเอะโมเอะดาบุรุ!” และการที่ได้สนทนากับเจ้ามืออย่างสนุกสนานนั้นเป็นอีกหนึ่งมนต์เสน่ห์ของกาสิโนชาวเมดที่จะหาไม่ได้ใน กาสิโนจริง

เครื่องดื่มที่สั่งได้ภายในร้าน ส่วนใหญ่จะเป็น น้ำอัดลม ราคา 300 เยน เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ราคา 700 เยน นอกจากนี้ ยังมีเมนูเครื่องดื่มผสมรสชาติแปลกใหม่จากคุณเมด ในราคา 400 เยน และส่วนผสมของเมนูนี้จะเปลี่ยนไปตามบทสนทนาระหว่างคุณลูกค้าและคุณเมด แนะนำว่าต้องลองสั่งดูสำหรับคนที่อยากดื่มด่ำกับอารมณ์บรรยากาศของเมดคาเฟ่