HOME พื้นที่โดยรอบมหานครโตเกียว ไซตะมะ ชานเมืองไซตะมะ [คู่มือเที่ยวจิจิบุ] ความรู้พื้นฐานเรื่องการท่องเที่ยวและแหล่งเที่ยวที่อยากแนะนำ 11 แห่ง ที่มีทั้งอาหารจานยักษ์และสถานที่เสริมพลังชีวิตด้านความสัมพันธ์!
[คู่มือเที่ยวจิจิบุ] ความรู้พื้นฐานเรื่องการท่องเที่ยวและแหล่งเที่ยวที่อยากแนะนำ 11 แห่ง ที่มีทั้งอาหารจานยักษ์และสถานที่เสริมพลังชีวิตด้านความสัมพันธ์!

[คู่มือเที่ยวจิจิบุ] ความรู้พื้นฐานเรื่องการท่องเที่ยวและแหล่งเที่ยวที่อยากแนะนำ 11 แห่ง ที่มีทั้งอาหารจานยักษ์และสถานที่เสริมพลังชีวิตด้านความสัมพันธ์!

Last updated: 16 ต.ค. 2563

เมืองจิจิบุ” ตั้งอยู่ทางทิศตะวันตกของจังหวัดไซตามะ จังหวัดที่อยู่ห่างจากโตเกียวไม่ถึง 2 ชั่วโมง ซึ่งสามารถเดินทางท่องเที่ยวแบบไปเช้าเย็นกลับจากใจกลางเมืองโตเกียวได้อย่างสะดวกสบาย เมืองจิจิบุนั้นเป็นสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมที่มีวัฒนธรรมเฉพาะตัวแบบดั้งเดิม พร้อมด้วยวิวทิวทัศน์ที่มีกลิ่นอายแห่งประวัติศาสตร์ รวมไปถึงธรรมชาติที่อุดมสมบูรณ์งดงามตามฤดูกาล โอบรอบทิวเขาที่เรียงราย เป็นเมืองที่ได้รับความนิยมในกลุ่มนักท่องเที่ยวสุภาพสตรีเป็นอย่างมาก เนื่องจากมีร้านอาหารแสนอร่อยที่หลากหลาย รวมทั้งสถานที่เสริมพลังชีวิตมากมาย และยังเป็นที่น่าจับตามองยิ่งขึ้นไปอีกเพราะเมื่อไม่นานมานี้เมืองแห่งนี้ได้กลายเป็นฉากของภาพยนตร์และอนิเมะชื่อดัง ดังนั้นจึงอยากนำเสนอข้อมูลแหล่งท่องเที่ยวสุดคลาสสิครวมไปถึงสถานที่ต่างๆ ในบริเวณเมืองจิจิบุ

จิจิบุกับธรรมชาติที่อุดมสมบูรณ์โอบกอดด้วยภูเขาและแม่น้ำ

picture cells / Shutterstock.com
picture cells / Shutterstock.com

จิจิบุมีธรรมชาติที่อุดมสมบูรณ์ทั้งสายน้ำใสไหลเย็นของแม่น้ำอาราคาวะและภูเขาน้อยใหญ่ของแอ่งที่ราบจิจิบุ ซึ่งเมืองศูนย์กลางจะตั้งอยู่ใจกลางแอ่งที่ราบจิจิบุแห่งนี้ คุณสามารถเพลิดเพลินไปกับทิวทัศน์ที่หลากหลายตามฤดูกาลได้ตลอดทั้งปี ไม่ว่าจะเป็นดอกซากุระในฤดูใบไม้ผลิ กิจกรรมทางน้ำในฤดูร้อน ใบไม้เปลี่ยนสีในฤดูใบไม้ร่วง และหยาดน้ำแข็งของลำธารในฤดูหนาว

จิจิบุและสถานที่เสริมพลังชีวิตอันน่าดึงดูดที่มีอยู่มากมาย

atsushi nemoto / Shutterstock.com
atsushi nemoto / Shutterstock.com

ตั้งแต่ในสมัยโบราณเหล่านักแสวงบุญมักใช้จิจิบุเป็นเมืองแวะพักค้างแรม ดังนั้นจึงทำให้มีศาลเจ้าเป็นจำนวนมากและมีหลายแห่งถูกกล่าวขานว่าเป็นสถานที่เสริมพลังชีวิต โดยเฉพาะอย่างยิ่ง “ศาลเจ้าจิจิบุ” ช่วยเสริมพลังชีวิตด้านความสัมพันธ์ ส่วน “ศาลเจ้าจิจิบุอิมามิยะ” ที่มีต้นไม้ศักดิ์สิทธิ์และบ่อน้ำเทพเจ้ามังกร (ริวจิน) ช่วยเสริมพลังให้สมหวังในความรัก นอกจากนี้ยังมี “ศาลเจ้ามิสึนามิ” แห่งโอคุจิจิบุ “ศาลเจ้าฮิจิริ” เสริมโชคลาภด้านการเงินและธุรกิจให้รุ่งเรือง และ “ศาลเจ้าโฮโดซาน” เสริมพลังให้ครอบครัวปลอดภัยและป้องกันสิ่งชั่วร้าย ทั้งยังได้รับมิชลินหนึ่งดาวจากคู่มือนำเที่ยว มิชลิน กรีน ไกด์ ประเทศญี่ปุ่น นอกจากนี้ยังมีสถานที่เสริมพลังชีวิตที่เชื่อมโยงกับธรรมชาติอย่างลึกซึ้งอื่น ๆ อีก เช่น “ถ้ำหินปูนฮาชิดาเตะ” และ “วัดไทโยจิ” เป็นต้น

จิจิบุกับงานเทศกาลที่มากที่สุดในภูมิภาคคันโต

Tupungato / Shutterstock.com
Tupungato / Shutterstock.com

จิจิบุมีงานเทศกาลมากมายในแต่ละท้องที่ตามฤดูกาล โดยมีจำนวนเทศกาลรวมกันในแต่ละปีมากถึงประมาณ 400 งานเลยทีเดียว! นับได้ว่ามีการจัดงานเทศกาลแทบจะทุกวัน และเทศกาลที่มีชื่อเสียงที่สุดนั้นก็คือ “งานเทศกาลจิจิบุโยรุมัตสึริ”(งานเทศกาลจิจิบุยามค่ำคืน) ซึ่งได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกทางวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ของยูเนสโก เป็นหนึ่งใน 3 งานเทศกาลที่มีการลากจูงรถแห่ที่มีชื่อเสียงของประเทศญี่ปุ่น หรือที่เรียกว่า “นิฮนซานไดฮิกิยามะมัตสึริ” โดยอีก 2 งานเทศกาลคือ “กิออนมัตสึริของเกียวโต” และ “ทาคายามะมัตสึริของฮิดะ” นอกจากนี้จิจิบุยังมีเทศกาลอันเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวอื่น ๆ อีกมากมาย ไม่ว่าจะเป็นเทศกาล “จิจิบุคาวาเซะมัตสึริ” ที่จะอัญเชิญ “โอะมิโคชิ” หรือศาลเจ้าขนาดเล็กสำหรับแห่ในงานและนำไปลอยลงสู่แม่น้ำ เทศกาล“ยามาดะโนะฮารุมัตสึริ” ที่จัดขึ้นเพื่อประกาศว่าฤดูใบไม้ผลิได้มาถึงแล้ว เทศกาล “นางาโทโระ ฟุนาบามะ มัตสึริ” ที่จัดขึ้นเพื่อความปลอดภัยทางน้ำและรำลึกถึงผู้สูญเสียจากอุทกภัย และ เทศกาล “ริวเซมัตสึริ” ที่จะมีการยิงบ้องไฟที่ทำด้วยมือ เป็นต้น

นั่งรถจักรไอน้ำบนเส้นทางรถไฟจิจิบุ! ซึ่งคนรักรถไฟไม่ควรพลาด!

นั่งรถจักรไอน้ำบนเส้นทางรถไฟจิจิบุ! ซึ่งคนรักรถไฟไม่ควรพลาด!

ในปัจจุบันรถจักรไอน้ำ (Steam Locomotive) นั้นมีให้บริการเพียงบางพื้นที่ของประเทศญี่ปุ่นเท่านั้น และรถจักรไอน้ำที่สามารถพบเจอได้ใกล้ใจกลางเมืองหลวงที่สุดนั้น ก็คือรถจักรไอน้ำบนเส้นทางรถไฟจิจิบุ มีระยะทาง 71.7 กิโลเมตร เชื่อมต่อจาก สถานีฮันยูของสายโทบุ อิเซซาคิ แล้ววิ่งผ่าน สถานีคุมางายะของสาย JR ทาคาซากิ รวมถึง สถานีเซบุจิจิบุของสายเซบุจิจิบุ โดยมีปลายทางอยู่ที่ สถานีมิตสึมิเนกุจิ นอกจากนี้จุดสำคัญอีกอย่างหนึ่งของรถไฟจิจิบุ คือในบางช่วงเวลาของปีโดยเฉพาะวันหยุดเสาร์อาทิตย์จะมีการจัดรถไฟขบวน “SL Pareo Express” ให้บริการวิ่งระหว่าง สถานีคุมางายะ และ สถานีมิตสึมิเนกุจิ อีกด้วย

จิจิบุกับอาหารขึ้นชื่อมากมายที่ไม่เหมือนใคร!

จิจิบุกับอาหารขึ้นชื่อมากมายที่ไม่เหมือนใคร!

จิจิบุมีอาหารที่ขึ้นชื่อมากมายและหลากหลายทั้งอาหารคาวไปจนถึงของหวาน เนื่องจากเป็นต้นกำเนิดแม่น้ำอาราคาวะจึงเป็นดินแดนที่เหมาะสำหรับการทำโซบะจนทำให้ “นิฮนโซบะ” เป็นอาหารขึ้นชื่อของที่นี่ แล้วยังมี “วาราจิคัตสึด้ง” ข้าวหน้าหมูชุบแป้งทอดชิ้นโตเสิร์ฟสองชิ้นคู่กัน และ “บูตะมิโซะด้ง” ข้าวหน้าหมูหมักมิโซะ ซึ่งได้รับความนิยมจากคนในท้องถิ่นว่าเป็นอาหารที่อร่อยและคุ้มค่าสมราคา นอกจากนี้ยังมี “คาคิโคริ (น้ำแข็งใส)” ซึ่งใช้น้ำแข็งจากธรรมชาติ และ “ซูชิ” ที่ทำจากปลาแม่น้ำด้วย

จิจิบุในสายตาของชาวต่างชาติ

หลายปีที่ผ่านมานักท่องเที่ยวชาวต่างชาติเดินทางมาเยือนเมืองจิจิบุมากถึง 130,000 คน ในแต่ละปีและมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น ในปัจจุบันสถานที่ที่ได้รับความนิยมจากกลุ่มนักท่องเที่ยววัยรุ่นส่วนใหญ่ คือฉากอันโด่งดังในอนิเมะเรื่อง “ดอกไม้ มิตรภาพ และความทรงจำ” โดยเสน่ห์ที่โดดเด่นของเมืองแห่งนี้คือสามารถรักษาและคงวิวทิวทัศน์แบบดั้งเดิม วัฒนธรรมประเพณีที่เป็นเอกลักษณ์ รวมทั้งกลิ่นอายของประวัติศาสตร์อันเก่าแก่เอาไว้ได้ ทั้งยังขึ้นชื่อในเรื่องของอาหารเมนูแบบดั้งเดิมอีกด้วย

พื้นที่จิจิบุ ① บริเวณรอบๆ “สถานีเซบุจิจิบุ”

สถานีเซบุจิจิบุเปรียบเสมือนประตูหน้าด่านสู่เมืองจิจิบุ และบนถนนเซบุจิจิบุกับถนนนากามิเสะที่อยู่ใกล้ ๆ กับสถานีนั้นจะมีร้านอาหารและร้านค้าจำหน่ายสินค้าเฉพาะถิ่นเรียงรายอยู่มากมายและคราคร่ำไปด้วยนักท่องเที่ยว นอกจากนี้ยังสามารถแช่น้ำพุร้อนได้อย่างเพลิดเพลินที่ “เซบุจิจิบุ เอกิมาเอะ ออนเซ็น มัตสึริโนะยุ” ที่ประดับตกแต่งร้านด้วยลวดลายของร้านค้าในงานเทศกาล “จิจิบุโยรุมัตสึริ” ทั้งนี้คุณสามารถขอรับแผนที่การเดินทางที่แทรกข้อมูลของสถานที่ในเมืองจิจิบุที่ถูกใช้เป็นฉากในอนิเมะชื่อ “ดอกไม้ มิตรภาพ และความทรงจำ” (โดยมีชื่อย่อว่า อะโนะฮะนะ) ได้ที่ศูนย์ข้อมูลการท่องเที่ยวจิจิบุ ซึ่งตั้งอยู่ด้านหน้าสถานี นอกจากนี้ยังมีสวนสาธารณะมิตสึจิยามะที่มองเห็นภูเขาบุโคซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของจิจิบุ โดยสวนแห่งนี้มีความโด่งดังในเรื่องความสวยงามของดอกชิบะซากุระ (ชื่อทางวิทยาศาสตร์ Phlox subulata) ที่จะบานสะพรั่งไปทั่วสวนในเดือนเมษายน และในสวนสาธารณะมิตสึจิยามะแห่งนี้ยังมีพิพิธภัณฑ์ศิลปะ “ยามาโต อาร์ต มิวเซียม” ซึ่งจัดแสดงผลงานโดยคุณชิโก มุนากาตะ

พื้นที่จิจิบุ ② บริเวณรอบๆ “สถานีจิจิบุ”

บริเวณใกล้เคียงกับสถานี “รถไฟจิจิบุ” ของรถไฟจิจิบุ ไปจนถึง “สถานีโอฮานาบาตาเคะ” นั้นคือแหล่งรวมสถานที่เสริมพลังชีวิตไม่ว่าจะเป็น “ศาลเจ้าจิจิบุ” ที่ช่วยเสริมพลังชีวิตด้านความสัมพันธ์ หรือ “ศาลเจ้าจิจิบุอิมามิยะ” ที่ช่วยเสริมพลังให้สมหวังในความรัก นอกจากนี้ยังมีสถานที่ด้านวัฒนธรรมตั้งอยู่ใกล้ๆ ด้วย เช่น “จิจิบุเมเซ็นคัง” ศูนย์ข้อมูลสิ่งทอที่บอกเล่าเรื่องราวของ “ผ้าไหมจิจิบุเมเซ็น” สิ่งทอขึ้นชื่อที่เป็นงานฝีมือแบบดั้งเดิมของชาติ และ “จิจิบุมัตสึริไคคัง” หอประชุมที่จัดแสดงข้อมูลเทศกาลต่างๆ ของเมืองจิจิบุ ที่คุณสามารถเยี่ยมชมและทดลองประสบการณ์เสมือนจริงราวกับได้ร่วมงานเทศกาลจิจิบุโยรุมัตสึริได้ทุกเมื่อ

長瀞周辺エリア

このエリアの中心となる長瀞(ながとろ)町は、町全体が「県立長瀞玉淀自然公園」に指定されており、シュラン・グリーンガイド・ジャポン一つ星の寶登山神社(ほどさんじんじゃ)、その珍しい形から国指定名勝・天然記念物に指定されている「長瀞石畳」などがあります。

長瀞渓谷の川下りやラフティング、ウォータースポーツ、ハイキングといったアクティビティも人気です。

この荒川にかかる親鼻鉄橋にSLが走っていく風景は、絶好の写真スポットでもあります。また、街には約3000本の桜の木があり「日本さくらの名所100選」の一つで、毎年春には多くの花見客で賑わいます。

พื้นที่โอคุจิจิบุ

พื้นที่รอบๆ ภูเขามิตสึมิเนะซานของโอคุจิจิบุนั้นจะมีทั้ง “ศาลเจ้ามิตสึมิเนะ” หรือที่รู้จักกันว่าเป็นหนึ่งในสถานที่เสริมพลังงานชีวิตที่ดีที่สุดในภูมิภาคคันโต วิวทิวทัศน์ที่สวยงามในฤดูหนาวที่ประดับประดาด้วยน้ำแข็งย้อย “มิโซตสึจิโนะตสึราระ” รวมไปถึงน้ำพุร้อนที่ไหลมาจากโอคุจิจิบุ ถึงแม้ว่าโอคุจิจิบุจะอยู่ห่างออกมาจากบริเวณใจกลางของเมืองจิจิบุ แต่ว่าที่นี่เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการเพลิดเพลินไปกับวิวทิวทัศน์ที่งดงามที่รอคอยการสำรวจและผู้ที่อยากเดินทางมารับพลังจากสถานที่เสริมพลังงานชีวิตที่มีอยู่มากมาย

จิจิบุกับการเดินทางจากสถานีโตเกียวและสถานีชินจูกุ

การเดินทางจากสถานีโตเกียว หรือ สถานีชินจูกุสามารถขึ้นรถไฟเพื่อมาลงที่สถานีอิเคบุคุโระแล้วเปลี่ยนเป็นรถไฟเซบุเพื่อเดินทางมายัง “สถานีเซบุจิจิบุ” และหลังจากนั้นสามารถใช้รถโดยสารประจำทางหรือรถไฟจิจิบุเดินทางต่อไปยังที่ต่าง ๆ ได้อย่างสะดวกสบาย

●จากสถานีโตเกียว: ถึง “สถานีอิเคบุคุโระ” โดยโตเกียวเมโทรสายมารูโนอูจิ หรือ JR สายยามาโนเตะ (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 20-30 นาที)

●จากสถานีชินจูกุ: ถึง “สถานีอิเคบุคุโระ” โดย JR สายไซเคียว สายโชนันชินจูกุไลน์ และสายยามาโนเตะ (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 5-10 นาที)

จาก “สถานีอิเคบุคุโระ” ของรถไฟเซบุ หากใช้รถด่วน “Red Arrow Limited Express” ที่วิ่งตรงมายัง “สถานีเซบุจิจิบุ” จะใช้เวลาเพียง 80 นาที แต่ถ้าหากเดินทางด้วยรถไฟธรรมดาจำเป็นต้องเปลี่ยนขบวนที่ “สถานีฮันโน” (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 100 นาที)

*This information is from the time of this article's publication.
*Prices and options mentioned are subject to change.
*Unless stated otherwise, all prices include tax.

แชร์บทความนี้

ค้นหา