การเตรียมอุปกรณ์ควรเตรียมให้เหมาะสมกับประสบการณ์การปีนเขาของแต่ละคน สิ่งที่ขาดไม่ได้เลยคือ รองเท้าปีนเขา กระเป๋าสะพาย เสื้อกันฝน อุปกรณ์กันหนาว ถุงข้อเท้ากันก้อนกรวดเข้ารองเท้า และสำหรับการปีนเขาในช่วง
เวลากลางคืน เสื้อสะท้อนแสงหรือไฟฉายติดศีรษะก็ถือเป็นอุปกรณ์ที่ช่วยป้องกันการประสบภัยอย่างดี
และเนื่องจากอาหารและน้ำดื่มที่วางขายตามร้านค้าบนภูเขานั้นมีจำนวนจำกัด การเตรียมอาหาร น้ำดื่มของตนเอง
ไว้ก่อนการปีนเขาจึงเป็นวิธีที่ดีที่สุด

ถึงแม้ช่วงหน้าร้อนซึ่งเป็นฤดูแห่งการปีนเขา เส้นทางสำหรับปีนเขาจะเปิดตามปกติ แต่ก็ต้องระวัง
สภาพอากาศของภูเขาในช่วงที่ปีนด้วย เพราะภูเขาไฟฟูจิเป็นภูเขาสูงที่อยู่โดดเดี่ยว
สภาพอากาศจึงเปลี่ยนแปลงอย่างรุนแรงและรวดเร็ว นอกจากนั้น ถึงจะเป็นหน้าร้อนแต่ก็มีโอกาส
ที่อุณหภูมิจะลดต่ำลงถึงติดลบได้ ดังนั้นต้องเช็คพยากรณ์อากาศก่อนและเตรียมอุปกรณ์ให้พร้อมกับ
สถานการณ์ก่อนจะเริ่มปีนเขา

ไม่ว่าใครก็มีโอกาสเป็นโรคแพ้ความสูงได้ในระหว่างที่ปีนเขา โดยเฉพาะคนที่ปีนขึ้นยอดเขาโดยไม่หยุดพัก
โรคแพ้ความสูงจะมีอาการ ปวดหัว คลื่นไส้ เหนื่อย และหนาวสั่น ทำให้ไม่สามารถปีนเขาต่อได้ ดังนั้น
สำหรับการป้องกันโรคแพ้ความสูง คือเมื่อถึงชั้นที่ 5 ให้พักประมาณ 30 นาทีก่อน เพื่อให้ร่างกายชินกับความสูง
หรือซื้อสเปรย์ออกซิเจนจากร้านขายของสำหรับการปีนเขาหรือกระท่อมบนภูเขาที่มีอยู่ระหว่างทาง
ก็ช่วยป้องกันโรคแพ้ที่สูงได้อีกทางหนึ่ง

ระหว่างทางหลักในการปีนเขา จะมีบ้านพักที่สามารถทานอาหารและนอนพักได้ ราคาอยู่ที่คนละ 5,000
ถึง 9,000 เยน ซึ่งจะต่างกันไปแล้วแต่ว่าต้องการอาหารหรือไม่ และต้องจ่ายเป็นเงินสดเท่านั้น
ดังนั้นต้องเตรียมเงินสดติดตัวไว้ให้พอ บ้านพักในเส้นทางที่คนนิยมผ่านนั้น ถ้าไม่จองก่อน
อยู่ๆเข้าไปส่วนใหญ่จะไม่มีที่ว่างให้พัก และตัวบ้านพักถูกสร้างออกมาอย่างง่ายๆ
ดังนั้นส่วนใหญ่จึงต้องนอนรวมกับนักปีนเขาคนอื่น

สิ่งที่ขาดไม่ได้ในการมาภูเขาไฟฟูจิ คือ เหรียญ 100 เยน ห้องน้ำบนภูเขาไฟฟูจิต้องเสียค่าเข้า
ประมาณ 100 ถึง 300เยน ซึ่งส่วนใหญ่จะไม่มีคนดู แต่จะวางกล่องไว้ให้หยอดเงินแทน
และในช่วงที่ไม่ใช่ฤดูปีนเขา จะต้องพกห้องน้ำแบบพกพามาเองด้วย

ทุกคนมาช่วยกันเก็บขยะที่ของตัวเองกลับบ้านไปด้วยกันเถอะ ขอให้ทุกคนเตรียม
ถุงเก็บขยะใส่กระเป๋าไปด้วย เพื่อรักษาวิวอันสวยงามของภูเขาไฟฟูจิ ถ้าทุกคนช่วยกัน
ก็จะสามารถเก็บความสวยงามของภูเขาไฟฟูจิไว้ได้นานเท่านาน

บนภูเขานั้น สิ่งที่สำคัญคือการเอื้ออาทรกันและกันระหว่างนักปีนเขา ระหว่างการปีนขึ้นและปีนลง ต้องให้
ต้องให้ทางผู้ปีนขึ้นก่อน และสำหรับบ้านพักในช่วงกลางคืน ต้องคิดถึงคนที่พักผ่อนในบ้านพักคนอื่นๆด้วย
โดยการคุยกันเสียงเบาๆ สุดท้าย ภูเขาไฟฟูจิแห่งนี้ถือเป็นอุทยานแห่งชาติ ดังนั้นห้ามนำหินหรือต้นไม้
จากที่นี่กลับบ้านเด็ดขาด ช่วยกันรักษามารยาทและใช้เวลาอันมีค่าบนภูเขาไฟฟูจิ
ให้เหลือเป็นความทรงจำที่ดีกันเถอะ

วิธีการเดินทาง: จากสถานีรถไฟคาวาคุจิโกะ สายฟูจิคิวโค หรือ สถานีฟูจิซัง สายฟูจิคิวโค
และต่อรถบัสฟูจิคิวโคมุ่งหน้าไปยังภูเขาไฟฟูจิชั้น 5 ประมาณ 1 ชั่วโมง
วิธีการเดินทางจากโตเกียวถึงสถานีคาวาคุจิโกะ สายฟูจิคิวโค ขึ้นรถไฟสายฟูจิคิวโคจากสถานีโอซึกิ
สาย JR จูโอประมาณ 40 นาที