HOME พื้นที่โดยรอบมหานครโตเกียว โตเกียว กินซะ ซื้ออะไร ได้ที่ไหนบ้าง? คัด 10 ย่านช้อปปิ้งในโตเกียวและพื้นที่ใกล้เคียง โดยแบ่งตามเป้าหมายการซื้อ
HOME พื้นที่โดยรอบมหานครโตเกียว โตเกียว อะซะกุซะ ซื้ออะไร ได้ที่ไหนบ้าง? คัด 10 ย่านช้อปปิ้งในโตเกียวและพื้นที่ใกล้เคียง โดยแบ่งตามเป้าหมายการซื้อ
HOME พื้นที่โดยรอบมหานครโตเกียว โตเกียว อะกิฮะบะระ ซื้ออะไร ได้ที่ไหนบ้าง? คัด 10 ย่านช้อปปิ้งในโตเกียวและพื้นที่ใกล้เคียง โดยแบ่งตามเป้าหมายการซื้อ
ซื้ออะไร ได้ที่ไหนบ้าง? คัด 10 ย่านช้อปปิ้งในโตเกียวและพื้นที่ใกล้เคียง โดยแบ่งตามเป้าหมายการซื้อ

ซื้ออะไร ได้ที่ไหนบ้าง? คัด 10 ย่านช้อปปิ้งในโตเกียวและพื้นที่ใกล้เคียง โดยแบ่งตามเป้าหมายการซื้อ

Last updated: 28 ก.พ. 2565

ย่านช้อปปิ้งดี ๆ ที่แนะนำแถวโตเกียวมีที่ไหนบ้างนะ? เวลามาเที่ยวญี่ปุ่นคงต้องมีไปจับจ่ายซื้อของกันบ้างล่ะ ไม่ว่าจะท่องไปตามร้านสินค้าปลอดภาษีเพื่อซื้อของให้ตัวเอง, ซื้อของฝากให้เพื่อนและครอบครัว แต่ว่าหากจะซื้อเสื้อผ้าและสินค้าแฟชั่นก็ควรไปกินซ่ากับฮาราจูกุใช่ไหม ถ้าจะซื้อของเกี่ยวกับอนิเมะต้องต้องไปอากิฮาบาระหรือเปล่า หรือควรไปห้างใหญ่ ๆ เพื่อดูของหลาย ๆ อย่าง แล้วซื้อให้ครบ ๆ หรือถ้าจะซื้อของฝากแบบญี่ปุ่นควรไปหาซื้อที่อาซากุสะเหรอ?

จากคำถามต่าง ๆ ข้างต้น ครั้งนี้เราจึงจะมาแนะนำแหล่งซื้อของยอดนิยมแถวโตเกียว 10 ที่กัน! ถ้ามีแนวทาง การช้อปปิ้งที่โตเกียวและละแวกรอบข้างไว้แล้วล่ะก็ การช้อปปิ้งจะเป็นเรื่องสนุกอย่างจริงแท้แน่นอนเลยล่ะ เพื่อที่จะได้เพลิดเพลินกับการช้อปปิ้งซึ่งเป็นเสน่ห์อย่างหนึ่งของโตเกียวให้ได้อย่างเต็มที่ อย่าลืมอ่านเป็นแนวทางกันนะ!

Table of Contents
  1. 1. กินซ่า ย่านแห่งแฟชั่นและความหรูหรา
  2. 2. คัปปะบาชิ ศูนย์รวมสินค้าแบบญี่ปุ่นดั้งเดิมและเครื่องครัวที่มีสไตล์
  3. 3. อาซากุสะ สถานที่ที่เหมาะจะไปหาซื้อของฝากแบบญี่ปุ่น
  4. 4 จิมโบโจ แหล่งซื้อเสื้อกันหนาว,อุปกรณ์กีฬา เช่น อุปกรณ์สกี, หนังสือ
  5. 5 อากิฮาบาระ ไม่ได้มีแค่อนิเมะกับเครื่องใช้ไฟฟ้านะ
  6. 6. ถ้าอยากซื้อเครื่องดนตรีอย่างเช่นกีตาร์ หรือสินค้าเครื่องเขียนที่มีเอกลักษณ์ต้องที่โอฉะโนะมิสึ
  7. 7. สวรรค์แห่งแฟชั่น หากต้องการความ “คาวาอี้” ต้องฮาราจูกุ
  8. 8. แฟชั่นวินเทจและสินค้าแอนทีคที่ชิโมคิตะซาวะ
  9. 9. หากมองหาห้างทันสมัยและส่วนลดสุดคุ้มต้องไปที่มาคุฮาริ
  10. Let's shop at a good deal!! Japan's largest-scale shopping mall
    Complimentary Coupon
    Exclusively for foreign visitors
  11. 10. เพลิดเพลินกับการช้อปปิ้ง ความบันเทิง และวิวสวยสวยได้ที่โอไดบะ
  12. ขอให้สนุกกับการช้อปปิ้งแอดเวนเจอร์แสนสนุกในโตเกียวและบริเวณใกล้เคียงนะ!

1. กินซ่า ย่านแห่งแฟชั่นและความหรูหรา

image:PIXTA
image:PIXTA

หากชื่นชอบ กระเป๋าสวย ๆ, เครื่องประดับส่องประกาย, ไอเทมแฟชั่นนำเทรนด์ล่าสุด, สินค้าคุณภาพสูงแล้วล่ะก็ ขอแนะนำให้มาที่กินซ่า เมืองแห่งแฟชั่น ศูนย์รวมแบรนด์อันดับต้น ๆ ในญี่ปุ่น ที่นี่คึกคักด้วยผู้คนที่มาจับจ่ายสินค้าหรูคุณภาพดี นักท่องเที่ยวส่วนมากจะขึ้นรถบัส และตะลอนทัวร์ไปตามบรรดาห้างดังกันเป็นวัน ๆ เลย

กินซ่า มีร้านแฟลกชิป สโตร์ ของชาแนล (CHANEL), บุลการี (BVLGARI), โรเล็กซ์ (ROLEX) ฯลฯ และที่กินซ่าก็ยังมีห้างเก่าแก่ที่มีประวัติศาสตร์อย่างกินซ่ามิตสึโคชิ และมัตสึยะกินซ่าตั้งอยู่ด้วยกินซ่ามิตสึโคชิเป็นห้างที่เก่าแก่ที่สุดในญี่ปุ่น ทั้ง 8 ชั้นมีร้านปลอดภาษีทุกชั้น ชั้นใต้ดินเป็นพื้นที่ขายอาหารที่เรียกว่า “เดปาจิกะ (ชั้นใต้ดินของห้าง)” ขนาดใหญ่ยักษ์ซึ่งเป็นสถานที่ที่เหมาะจะไปหาอาหารญี่ปุ่นที่หลากหลายทานได้ และที่ชั้นเก้ามีระเบียงบนดาดฟ้าสามารถไปพักผ่อนทานเซตแซนด์วิชที่คาเฟ่ตรงนั้นได้ด้วย

กินซ่าซิกส์ (GINZA SIX) ศูนย์การค้าที่ใหญ่ที่สุดในย่านกินซ่า เป็นห้างใหม่ซึ่งดูตรงกันข้ามกับห้างที่มีประวัติศาสตร์อย่างกินซ่ามิตสึโคชิ มีการออกแบบในสไตล์ญี่ปุ่นที่สุดแสนจะทันสมัย โดยคุณทานิกูจิ โยชิโอะ ผู้เป็นสถาปนิก เป็นห้างที่แบรนด์ไฮเอนด์อย่างวาเลนติโน่ หรือ FENDI ต่างมารวมตัวออกร้านกัน ภัตตาคารหรูอลังการทั้งหลายบนชั้น 13 ก็เป็นที่รู้จักเป็นอย่างมาก

กินซ่าไม่ได้มีแค่ห้างสรรพสินค้าเพียงอย่างเดียว แต่ยังมีสถานที่ที่เหมาะกับการได้รู้จักกับ
แบรนด์ของญี่ปุ่นเองด้วย เช่น ร้าน “มูจิรูชิ เรียวฮิน กินซ่า” ที่เป็นแบรนด์สินค้าเรียบง่าย ไม่ค่อยนำเสนอความเป็นสินค้ายี่ห้อมากนัก หรือร้าน “เครื่องดนตรียามาโนะ” ที่มีทั้ง CD, DVD, โน้ตเพลงขาย, “ยามาฮ่า” แบรนด์เครื่องดนตรีชื่อดัง เป็นต้น ไม่เพียงแค่มีสินค้าต่าง ๆ ให้เลือกซื้อเท่านั้น แต่คุณยังสามารถเข้าใจถึงแนวทางความคิดของทางแบรนด์ได้ด้วย ที่นี่สามารถไปลองเล่นแกรนด์เปียโนสุดหรูหรือเครื่องเป่าทองเหลืองกันได้

หากมาเที่ยวญี่ปุ่นไม่กี่วันจนทำให้ได้อยู่แค่ในโตเกียวหรือเปล่าคะ หากเป็นเช่นนั้น ไปลองดูงานฝีมือญี่ปุ่น, อาหาร, และไวน์ ฯลฯ ที่ “ร้านแอนเทนน่า” กันเถอะ ร้านแอนเทนน่าคือร้านขายผลิตภัณฑ์ใหม่ ของบริษัทในแต่ละท้องถิ่นโดยรัฐบาลท้องถิ่น เป็นร้านที่มีขึ้นเพื่อศึกษาเทรนด์การตลาดและการตอบรับของผู้บริโภค บริเวณแถวกินซ่ามีร้านแอนเทนน่าของหลายจังหวัดอยู่มากมาย ที่เป็นที่นิยมได้แก่ “กินซ่า NAGANO” ที่มีไวน์และเหล้าญี่ปุ่นจากจังหวัดนางาโนะ ที่เป็นที่รู้จักในฐานะจังหวัดที่มีประชากรอายุยืนยาว

2. คัปปะบาชิ ศูนย์รวมสินค้าแบบญี่ปุ่นดั้งเดิมและเครื่องครัวที่มีสไตล์

2. คัปปะบาชิ ศูนย์รวมสินค้าแบบญี่ปุ่นดั้งเดิมและเครื่องครัวที่มีสไตล์

คัปปะบาชิ เป็นย่านที่เหมาะจะไปซื้อสินค้าสำหรับการทำอาหารมาก ไม่ว่าจะเป็นมีดญี่ปุ่นแบบดั้งเดิม, ตะเกียบคุณภาพดี, อาหารจำลองทำจากพลาสติกที่เหมือนของจริงจนน่าตกใจ ฯลฯ ที่นี่ยังไม่ค่อยถูกเปลี่ยนเป็นแหล่งท่องเที่ยวมากนัก ส่วนใหญ่จะมีแต่คนในพื้นที่ที่มาหาซื้ออุปกรณ์เครื่องครัวใหม่

ตลอดถนนสายหลักที่ยาวร่วม 800 เมตร ซึ่งเชื่อมระหว่างอุเอโนะกับอาซากุสะ มีร้านอุปกรณ์ทำครัวมากมายเรียงรายอยู่ คัปปะบาชิ มีร้านเก่าแก่ที่มีประวัติศาสตร์ยาวนานเกินกว่า 100 ปีอยู่ถึง 170 ร้าน มีทุกอย่างตั้งแต่ถ้วยชาม, ตะกร้า, โต๊ะ, จนถึงเก้าอี้

ญี่ปุ่นโด่งดังเรื่องการตีดาบมาตั้งแต่โบราณ การทำมีดเองก็มีประวัติยาวนานเช่นกัน คุณสามารถหาซื้อมีดญี่ปุ่นที่เหมาะกับการใช้ทำอาหารในทุกครัวเรือนได้ที่หลายร้านในคัปปะบาชิ

และที่คัปปะบาชิ เรามักจะพบว่าสินค้าที่นี่จะมีราคาถูกกว่าซื้อตามสถานที่ท่องเที่ยว และยังมีคุณภาพดีอีกด้วย ลองหาซื้อตะเกียบหรือภาชนะเซรามิกญี่ปุ่นไปเป็นของฝากดูดีไหม ที่นี่คุณจะได้พบกับสินค้าหลายรูปแบบ หลากสีสันเลย

หรือหากต้องการความเป็นญี่ปุ๊นญี่ปุ่น แนะนำอาหารจำลองทำจากพลาสติกที่ดูเหมือนจริงมาก อาหารจำลองเหล่านี้จะประดับอยู่ที่หน้าร้านอาหารญี่ปุ่น เพื่อเรียกลูกค้าโดยทำให้มองแล้วรู้สึกหิวกระตุ้นให้ต่อมน้ำย่อยทำงาน ร้านที่อยากจะแนะนำคือ “กันโซะ แซมเปิ้ล”, “โตเกียวบิเคน” และ “ซาโต้แซมเปิ้ล”

3. อาซากุสะ สถานที่ที่เหมาะจะไปหาซื้อของฝากแบบญี่ปุ่น

image:PIXTA
image:PIXTA

อาซากุสะเป็นคลังสมบัติของสินค้าเบ็ดเตล็ดญี่ปุ่น ที่เหมาะจะซื้อเป็นของฝากเวลามาเที่ยวญี่ปุ่นมาก หากเดินไปตามถนนนากามิเสะโดริ ที่อยู่ระหว่างทางไปวัดเซนโซจิ ก็จะพบกับร้านของฝากโบราณมากมาย

อาซากุสะ เป็นย่านที่ให้คุณได้สนุกกับการท่องเที่ยวและช้อปปิ้งในบรรยากาศแบบญี่ปุ่นที่คึกคัก ที่นี่คุณสามารถหาของฝากที่ใช้งานได้จริง เช่น พัดที่ช่วยคลายความร้อนได้เยอะในช่วงหน้าร้อนที่สุดแสนทรมานของโตเกียว, ตะเกียบ, ถุงเท้า ต่าง ๆ ของเหล่านี้หาซื้อได้ง่ายตามร้านของฝากในอาซากุสะ

ใครอยากได้สินค้าหลายประเภทในร้านเดียว ลองไป “ดองกี้โฮเต้ สาขาอาซากุสะ” ดูนะ ร้านสรรพสินค้าเครือข่ายลดราคานี้มีขายทั้งขนมญี่ปุ่น, ของฝาก ของที่ระลึก, สินค้าอนิเมะ, เครื่องใช้ไฟฟ้า, กระเป๋าเดินทาง เรียกได้ว่ามีครบทุกอย่างเลย ที่นี่มีทั้งหมด 7 ชั้น เป็นร้านที่มี
คาราโอเกะและไลฟ์ เฮ้าส์ไว้จัดคอนเสิร์ตด้วย

เมื่อมาเที่ยวอาซากุสะจะพลาดขนมโบราณไม่ได้เลย! ขนม “ยูกิโอโคชิ” เป็นขนมโบราณแบบดั้งเดิมที่ทำจากข้าวกรุบกรอบเพิ่มความหวานด้วยน้ำตาลและน้ำเชื่อมรสชาติหวานกลมกล่อม ถึงจะชื่อขนมยูกิโอโคชิที่แปลว่าฟ้าผ่าก่อนหิมะตกก็จริง แต่กินแล้วไม่มีอะไรเปรี้ยงปร้างขึ้นมาในปากนะ สบายใจได้ ว่ากันว่าชื่อนี้ได้มาเพราะอยู่ใกล้กับคามินาริมงนั่นเอง
ต่อไปเป็นร้าน “ฟุนาวะ สาขาแรก” ที่ก่อตั้งขึ้นในปีค.ศ. 1902 สนใจจะรับ “อิโมะโยกัง” ขนมโยกังที่ใช้มันซัทสึมะไปชิมไหม หรือว่าจะเป็นขนมนิงเกียวยากิ ที่เป็นคาสเทลล่ารูปตุ๊กตาคนและสัตว์ต่าง ๆ ก็ต้องมาลองกันได้เลย รูปร่างของขนมนี้ช่างน่ารักจนน่าเสียดายที่จะกินเลยล่ะ

4 จิมโบโจ แหล่งซื้อเสื้อกันหนาว,อุปกรณ์กีฬา เช่น อุปกรณ์สกี, หนังสือ

image:PIXTA
image:PIXTA

นักท่องเที่ยวผู้ชื่นชอบการผจญภัยและคนที่ชอบหนังสือขอแนะนำให้ไปจิมโบโจ เมืองอันมีเอกลักษณ์ของโตเกียว

ที่นี่มีอุปกรณ์กีฬาที่หลากหลาย โดยเฉพาะกีฬาฤดูหนาว ทุกปี จะมีผู้คนจากทั่วโลกจะมาที่ญี่ปุ่นมากมายเพื่อเล่นหิมะ ด้วยเหตุนี้ กลุ่มคนที่ชอบกีฬาฤดูหนาวจึงได้สร้างสถานที่ขายอุปกรณ์สำหรับสกี, สโนว์บอร์ดชั้นดีในโตเกียวขึ้นมา ซึ่งนั่นก็คือ ร้าน “วิคตอเรีย สาขาหลักโอฉะโนะมิสึ” และ ร้าน
“L-Breath สาขาโอฉะโนะมิสึ” เป็นสถานที่ที่เหมาะที่จะไปตั้งต้นเตรียมตัวในการเล่นกีฬาฤดูหนาวในญี่ปุ่น ที่อยู่ทั้งสองร้านเป็นสาขาโอฉะโนะมิสึแต่สถานีที่ใกล้ที่สุดคือสถานีจิมโบโจ เพราะฉะนั้นอย่าลงผิดสถานีกันนะ

จิมโบโจเป็นย่านที่ขึ้นชื่อในเรื่องมีร้านหนังสือเก่าเยอะ ถึงแม้ว่าขนาดและรูปแบบของร้านจะมีหลากหลาย แต่ก็มีร้านหนังสือเก่าอยู่ประมาณ 200 ร้านเลย มีร้านที่มีแต่หนังสือภาษาญี่ปุ่นเท่านั้น และก็มีร้านที่มีหนังสือภาษาต่างประเทศขายด้วยอย่างซันเซโด หรือร้านที่ขายแต่หนังสือภาษาต่างประเทศโดยเฉพาะเลยก็มี

หนังสือดีดีก็ต้องคู่กับกาแฟดี ๆ ที่จิมโบโจคุณจะสามารถหากาแฟอร่อย ๆ ได้แน่นอน คุณสามารถไปดื่มกาแฟพิเศษหรือ specialty coffee ในบรรยากาศสไตล์อินดัสเทรียลที่ดูสว่างตา ได้ที่ “GLITCH COFFEE & ROASTERS” หรือจะไปที่ “ลาดริโอ” คาเฟ่ที่เก่าที่สุดในย่านนี้แห่งหนึ่ง เพื่อดื่มด่ำบรรยากาศแบบเรโทร แนวญี่ปุ่นย้อนยุคกันได้

หลังจาก ผู้มาเยือนจากถิ่นที่ต่างสภาพอากาศได้ไปซื้อชุดกันหนาวบ้าง, เพลิดเพลินกับหนังสือและกาแฟบ้าง ก็ไปทานข้าวแกงกะหรี่แบบญี่ปุ่นตำรับย่านจิมโบโจ ปิดท้ายกันด้วยนะ

5 อากิฮาบาระ ไม่ได้มีแค่อนิเมะกับเครื่องใช้ไฟฟ้านะ

5 อากิฮาบาระ ไม่ได้มีแค่อนิเมะกับเครื่องใช้ไฟฟ้านะ

หากชอบอนิเมะหรือมังงะล่ะก็ ไปช้อปฟิน ๆ ที่อากิฮาบาระกันเถอะ “แหล่งเครื่องใช้ไฟฟ้าอากิฮาบาระ (เป็นที่รู้จักกันในชื่อ: อากิบะ)” สมัยก่อนมีชื่อเสียงเรื่องเป็นแหล่งจำหน่ายเครื่องใช้ไฟฟ้า แต่ปัจจุบันนี้ก็โด่งดังในฐานะศูนย์กลางวัฒนธรรมโอตาคุด้วย สามารถหาซื้อสินค้าอนิเมะทุกประเภท ไม่ว่าจะเป็น ไอเทมสะสมของอนิเมะหรือ OVA, สินค้าที่ระลึกต่าง ๆ ได้ไม่ยากเลย ขอให้เพลิดเพลินให้เต็มที่กับ “อนิเมท”, ตึก “อากิฮาบาระ เรดิโอ ไคคัง”, “มันดาราเกะ” และร้านอื่น ๆ กันไปเลยนะ !

สำหรับใครที่อยากได้ฟิกเกอร์ตัวละครพิเศษแต่หาตามร้านทั่วไปในแถวนั้นไม่เจอ แนะนำร้านขาย
ฟิกเกอร์โดยเฉพาะที่ตึก “อากิฮาบาระ เรดิโอ ไคคัง” ที่นี่มีสินค้าเยอะครบครัน และมีร้านขายของสำหรับงานอดิเรกยอดฮิตอยู่ด้วย เช่น “อุจูเซน TOYS&FIGURES” และ “ไคโยโด ฮอบบี้ ล็อบบี้ โตเกียว” เป็นต้น นอกจากที่อากิฮาบาระ เรดิโอ ไคคังแล้ว “Volks Akihabara Hobby Tengoku 2”, “เอ็นเตอร์เทนเม้นต์ ฮอบบี้ช็อป จังเกิ้ล โตเกียว” ก็เป็นตัวเลือกที่ดี

เมื่อมาที่นี่ ก็สามารถไปเดินดูร้านเครื่องใช้ไฟฟ้าต่าง ๆ ได้ด้วย ย่านนี้มีร้านเครื่องใช้ไฟฟ้าหลากหลายอยู่ทุกที่ มีหลายประเภทไม่ว่าจะเป็นของใหม่, ของมือสอง, พวกอะไหล่ต่าง ๆ

ในโยโดบาชิคาเมร่า และบิ๊กคาเมร่า มีสินค้าของผู้ผลิตชื่อดังของญี่ปุ่น เช่น โซนี่, พานาโซนิค, โตชิบา ฯลฯ อยู่ครบครัน ลองแวะไปดูที่ร้านเหล่านี้ก่อนก็อาจจะดี ที่ชั้น 6 ของ “โยโดบาชิคาเมร่า มัลติมีเดีย Akiba” เป็นชั้นของเล่นและฟิเกอร์โดยเฉพาะ ชั้น 8 เป็นร้านอาหาร ทั้งที่โยโดบาชิ และบิ๊กคาเมร่าสามารถให้บริการในหลายภาษาได้ทั้งสองที่เลย

จากนั้นก็ไปยังถนนด้านหลังที่มีร้านเล็ก ๆ ที่ขายไอไทมเฉพาะต่าง ๆ แล้วแวะไปดื่มกาแฟที่เมดคาเฟ่
ก็น่าสนใจ พนักงานสวมชุดเมดจะชงกาแฟหรือชาให้คุณ โดยปฏิบัติราวกับว่าคุณเป็นนายท่านของเธอจริง ๆ เลยล่ะ… เป็นประสบการณ์ที่แปลกดีแต่ก็สมกับเป็นโตเกียว

6. ถ้าอยากซื้อเครื่องดนตรีอย่างเช่นกีตาร์ หรือสินค้าเครื่องเขียนที่มีเอกลักษณ์ต้องที่โอฉะโนะมิสึ

image:PIXTA
image:PIXTA

ใครที่ชื่นชอบดนตรี สนใจแวะเวียนไปแถวโอฉะโนะมิสึ ที่มีมหาวิทยาลัยแนวหน้าของโตเกียวรวมอยู่หลายแห่งกันไหม

ณ ถนนเมไดที่เรียกกันว่ากีตาร์สตรีท มีร้านเอาท์เล็ตกีต้าร์และเครื่องดนตรีเรียงราย ในวันอากาศดีจะมีกีตาร์มากมายทั้ง เฟนเดอร์, กิ๊บสัน, มาติน, PRS, ริคเคนแบคเคอร์, ยามาฮ่า, เกรทช์ และอื่น ๆ อีกมากมายเรียงกันอยู่ด้านนอกร้าน ที่นี่น่าจะถ่ายรูปเจ๋ง ๆ ออกมาได้เลยล่ะ ถนนนี้มีร้านค้าที่ขายทุกอย่างที่เกี่ยวกับกีตาร์ มีทั้งสินค้าใหม่และมือสองเลยนะ

หากต้องการจะลองกีตาร์ทั้งมือหนึ่งและมือสองขอแนะนำร้าน “เครื่องดนตรีชิโมคุระ”, “เครื่องดนตรีอิชิบาชิ” และสามารถสั่งทำ ตกแต่งกีตาร์ในแบบของคุณได้ที่ “EPS คัสตอม ชอป”

และเนื่องจากเป็นย่านที่มีนักเรียน นักศึกษาเยอะ จึงมีร้านอุปกรณ์เครื่องเขียนและร้านอุปกรณ์วาดรูปมากมาย ที่ร้าน “เลมอน กะซุย” เมื่อไปที่นี่นอกจากจะเลือกซื้อเครื่องเขียนแสนน่ารักได้แล้ว คุณจะยังได้เห็นภายในร้านที่มีเอกลักษณ์โดดเด่นด้วยผลงานของพนักงานที่แขวนตกแต่งอยู่ เป็นร้านที่ผสมผสานระหว่างร้านค้ากับแกลอรี่ศิลปะเข้าด้วยกัน

7. สวรรค์แห่งแฟชั่น หากต้องการความ “คาวาอี้” ต้องฮาราจูกุ

image:PIXTA
image:PIXTA

หากหลงใหลในแฟชั่นวัยรุ่นของญี่ปุ่นรวมไปถึงเครื่องแต่งกายแบบวิชวลเค และวัฒนธรรมการแต่งกายแบบโลลิต้าแล้วล่ะก็ ลองแบ่งวันมาเดินเล่นที่ฮาราจูกุ แหล่งช้อปปิ้งของโตเกียวดูสิ

ที่ฮาราจูกุซึ่งมีถนนทาเกชิตะอันโด่งดัง คุณจะได้พบกับแฟชั่นอินเทรนด์ และสไตล์ใหม่ล่าสุดที่
แปลกใหม่ล้ำกรอบเดิม ๆ ช่วงก่อนเกิดโควิด ถนนจะแน่นไปด้วยชาวท้องถิ่นและชาวต่างชาติ ทำให้จำเป็นต้องระวังเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะในวันสุดสัปดาห์ ที่ฮาราจูกุ คุณสามารถไปซื้อชุดโลลิต้าฟู ๆ แสนโดดเด่นสวยงามได้ที่ “บูติก ทาเกโนะโกะ” ร้านเก่าแก่ของย่านฮาราจูกุที่เปิดมาตั้งแต่ปีค.ศ. 1978 หรือซื้อเสื้อผ้าแนวใหม่ล่าสุดกันได้ที่ “ACDC RAG สาขาใหญ่ฮาราจูกุ” นอกจากนี้การจะไปตามหาไอเทมที่มีแค่เพียงชิ้นเดียวที่ร้านเสื้อผ้ามือสองดี ๆ ที่อยู่ใกล้ ๆ อย่าง “KINJI สาขาฮาราจูกุ” และ “RAGTAG” ก็เป็นกิจกรรมที่ขอแนะนำเลย

เมื่อมาฮาราจูกุ ไม่ใช่มีแค่ถนนทาเกชิตะให้เดินอย่างเดียว หากลองเดินต่อไปถึงอุระ-ฮาราจูกุถิ่นที่มีสันสันสดใส ก็จะได้สัมผัสกับเสน่ห์ของวัฒนธรรมแนวซับคัลเจอร์ได้อีกด้วย ที่อุระ-ฮาราจูกุมีทุกอย่างตั้งแต่สินค้าโดยดีไซเนอร์ออริจินัลของญี่ปุ่นเช่น “A BATHING APE®” จนถึงร้านคอลเลคชั่นของเล่นอย่าง “ร้านของเล่น SPIRAL”

ที่แคทสตรีทเป็นเหมือนกึ่งกลางเชื่อมระหว่างห้างสุดหรูของโอโมเตะซันโด กับสตรีทแฟชั่นใน
ถนนทาเกชิตะ เรียกได้ว่าเป็นสวรรค์ของเหล่าฮิปสเตอร์ จะไปดูเพชรสวย ๆ แล้วก็ทานโดนัทของทิฟฟานี่บลูต่อที่ “ทิฟฟานี่@แคทสตรีท” หรือจะแวะเข้าบูติกเล็ก ๆ ก็ได้ จะทำอะไรแบบไหนเชิญเลือกได้ตามใจชอบเลย!

ที่ถนนโอโมเตะซันโด มีแฟชั่นไฮเอนด์สำหรับแฟชั่นนิสต้าผู้ใหญ่อยู่ครบ มีศูนย์การค้าโอโมเตะซันโดฮิลส์และ GYRE สามารถเข้าไปเลือกซื้อไอเท็มสุดหรูกันได้เลย

8. แฟชั่นวินเทจและสินค้าแอนทีคที่ชิโมคิตะซาวะ

image:PIXTA
image:PIXTA

ชิโมคิตะซาวะ ย่านสวยงามมีศิลปะที่เต็มไปด้วยเทรนด์ที่มีเอกลักษณ์ ถูกเรียกว่าเป็นเมืองแห่งแฟชั่นวินเทจของโตเกียว ฝั่งตะวันตกติดกับย่านชิยูย่าที่โด่งดังระดับโลก ย่านนี้แบ่งออกเป็น 2 พื้นที่คือ เหนือกับใต้ซึ่งถูกแบ่งโดยสถานี จุดเด่นคือไม่ว่าจะฝั่งไหนก็มีทางเดินสำหรับคนเดินเท้าโดยเฉพาะ เป็นย่านที่คึกคัก มีร้านอาหารและกาแฟอร่อย ๆ มีร้านค้าต่าง ๆ เรียงรายกันอยู่มากมาย

ที่ “ชิโมคิตะ” มีตรอกซอกซอยเล็ก ๆ มากมายเชื่อมต่อกันราวกับเขาวงกต มีทั้งร้านเสื้อผ้ามือสอง, ร้านกาแฟคราฟต์, ร้านกินดื่มแนวนานาชาติ, ร้านอาหารแนวฟาสฟู้ด, ผับและบาร์ค็อกเทลหลายแห่ง นอกจากนี้ก็ยังมีร้านที่ขายของทุกอย่างหลายจำพวก เช่น แผ่นเสียง, หนังสือและนิตยสารสมัยก่อน, ของจุกจิกและของเบ็ดเตล็ดแบบสมัยก่อน เช่น เครื่องเขินโบราณ ที่ได้บรรยากาศเรโทรและแอนทีค, สินค้าที่ระลึกต่าง ๆ อยู่หลายร้านมาก

นอกจากนี้ ยังสามารถไปสนุกกับร้านหนังสือที่ขายสินค้าเบ็ดเตล็ดด้วยอย่าง “Village Vanguard” ซึ่งถูกเรียกว่าร้านหนังสือแสนน่าตื่นเต้น ที่มีทั้งความงุนงงและตลกรวมผสมกันในร้านได้ที่ชิโมคิตะซาวะแห่งนี้ได้

9. หากมองหาห้างทันสมัยและส่วนลดสุดคุ้มต้องไปที่มาคุฮาริ

อิออนมอลล์ มาคุฮาริ ชินโทชิน
อิออนมอลล์ มาคุฮาริ ชินโทชิน

มาคุฮาริ สรวงสวรรค์แห่งการช้อปปิ้ง ที่มีศูนย์การค้าและเอาท์เล็ตมากมายเรียงรายกัน“มิตซุยเอาท์เล็ตพาร์ค” เป็นเอาท์เล็ตมอลล์ที่อยู่ใกล้กับโตเกียวที่สุด โดยนั่งรถไฟ JR สายเคโยจากสถานีโตเกียวไปเพียงประมาณไม่ถึง 30 นาทีก็ถึงแล้ว สามารถสนุกกับการซื้อของในราคาลดถูกลง 20-40% จากปกติได้ มีร้านค้าประมาณ 140 ร้าน ตั้งแต่แบรนด์หรูอย่าง บรูคส์ บราเธอร์ส จนถึงแบรนด์ แฟชั่นของญี่ปุ่นเช่น SNIDEL มีร้านเอาท์เล็ตของ SEIKO ด้วย นี่อาจจะเป็นโอกาสให้คุณได้นาฬิกาญี่ปุ่นกลับบ้านในราคาถูกก็ได้นะ

อิออนมอลล์ มาคุฮาริ ชินโทชิน
อิออนมอลล์ มาคุฮาริ ชินโทชิน

สำหรับใครที่อยากไปช้อป ในห้างที่ใหญ่ขึ้น ลองไปที่ ”อิออนมอลล์ มาคุฮาริ ชินโทชิน” ศูนย์การค้าขนาดใหญ่แห่งหนึ่งในญี่ปุ่นกันดูไหมคะ ห้างนี้มีขนาดใหญ่มากก็จริง แต่ก็แบ่งโซนช้อปปิ้งไว้ได้ดีมาก โดยมีหลายโซนเช่น “โซนสัตว์เลี้ยง” ที่มีคาเฟ่น้องหมาใหญ่ ๆ และลานวิ่ง Dog Run กลางแจ้ง, “โซนครอบครัว” ที่มีร้านศูนย์รวมของเล่นและสินค้าเด็กทารกขนาดใหญ่ที่สุดในญี่ปุ่นอย่าง “ทอย อาร์ อัส” และสวนบนดาดฟ้าที่ให้เด็กเล่นได้ มีห้องน้ำเด็กและห้องพักทารก สำหรับครอบครัวที่มีเด็กเล็ก, “โซนแอคทีฟ” ที่มีร้านกีฬาเครื่องใช้ไฟฟ้าและสามารถ
ไปทดลองกิจกรรมต่าง ๆ ได้ด้วย ห้างนี้ผสมผสานทั้งการช้อปปิ้งและนันทนาการได้อย่างลงตัว ยิ่งไปกว่านั้นยังน่าดีใจสุด ๆ เพราะว่าที่นี่มีชั้นโซนร้านอาหารที่ใหญ่มากเลยล่ะ

Ikspiari คือศูนย์การค้ากว้างใหญ่ที่ตั้งอยู่ด้านหน้าทางเข้าโตเกียวดิสนีย์รีสอร์ต แค่ตัวอาคารศูนย์การค้าก็เหมือนเป็นมินิดิสนีย์รีสอร์ตเลยล่ะ ภายในศูนย์การค้ามีการออกแบบและตกแต่งที่สวยงามมาก สามารถชื่นชมไปด้วยในระหว่างที่กำลังจับจ่ายซื้อของได้ มีร้านดิสนีย์สโตร์ขนาดใหญ่เพื่อคนที่อยากหาดูสินค้าลิมิเต็ดเฉพาะญี่ปุ่น แต่ไม่ได้เข้าไปที่ส่วนของสวนสนุก และใครที่อยากได้เสื้อผ้าที่โดดเด่นไม่เหมือนใครจริง ๆ ก็ขอแนะนำร้านกรานิฟ (Graniph) แบรนด์นี้มีการคอลแลปส์ที่น่าสนใจบ่อยครั้งร่วมกับคาแรกเตอร์ต่าง ๆ เช่น มูมิน, ชินจังจอมแก่น เป็นต้น มีเสื้อเซ็ตสำหรับพ่อแม่ลูกด้วยนะ!

Let's shop at a good deal!! Japan's largest-scale shopping mall
Complimentary Coupon
Exclusively for foreign visitors

Let's shop at a good deal!! Japan's largest-scale shopping mall
Complimentary Coupon
Exclusively for foreign visitors

10. เพลิดเพลินกับการช้อปปิ้ง ความบันเทิง และวิวสวยสวยได้ที่โอไดบะ

image:PIXTA
image:PIXTA

โอไดบะ เป็นเกาะที่มนุษย์สร้างขึ้น มีวิวสวย ๆ ของอ่าวโตเกียวและสะพานเรนโบว์ให้ชม มีหุ่นกันดั้มยักษ์ตัวแรกในโตเกียว และศูนย์การค้าขนาดใหญ่ที่สนุกได้ตั้งแต่เด็กจนถึงผู้ใหญ่ โอไดบะ เป็นศูนย์รวมทั้งการช้อปปิ้งและเที่ยวเล่นเข้าด้วยกัน เป็นสถานที่ห้ามพลาดเลยถ้ามาเที่ยวโตเกียว

อควาซิตี้โอไดบะ เป็นห้างที่มองเห็นวิวอ่าวโตเกียวและเทพีสันติภาพ มีสินค้าทั้งแบรนด์ญี่ปุ่นและแบรนด์ต่างประเทศครบครัน เช่น โอนิซึกะ ไทเกอร์ แบรนด์ดังโดยเฉพาะรองเท้าผ้าใบคุณภาพดี ผลิตด้วยเทคโนโลยีของญี่ปุ่น มีร้านอาหารสำหรับทานอาหารเที่ยงและอาหารเย็นให้เลือกมากมายด้วย ตั้งแต่ภัตตาคารวิวอ่าวโตเกียว ไปจนถึงฟู๊ดคอร์ตที่เน้นราเมน สามารถไปลองอาหารท้องถิ่นของญี่ปุ่นที่มาจากหลายท้องที่ได้เลย

ไดเวอร์ซิตี้ โตเกียว พลาซ่า มองหาได้ง่ายด้วยหุ่นกันดั้มยูนิคอร์นขนาดใหญ่ยักษ์เท่าของจริง ยืนเด่นเป็นสง่าเฝ้าทางเข้าชั้น 2 อยู่ ห้างสรรพสินค้าทันสมัยแห่งนี้จะทำให้ผู้มาเที่ยวสนุกสนานได้อย่างเต็มที่แน่นอน คนที่ต้องการตามหาร้านหรือแบรนด์ของญี่ปุ่นแนะนำห้างนี้เลย มี Wego แบรนด์แฟชั่นสมัยใหม่ที่มีอิมเมจแบบฮาราจูกุ, JINS ร้านแว่นตามีสไตล์, เดอะ ไดบะ ร้านของที่ระลึกโตเกียว และยังมี hexaRide ให้แฟนอนิเมะได้สนุกกับการเล่น VR ในธีม“ผ่าพิภพไททัน” และ “โกสต์ อิน เดอะ เชลล์” อีกด้วย

ขอให้สนุกกับการช้อปปิ้งแอดเวนเจอร์แสนสนุกในโตเกียวและบริเวณใกล้เคียงนะ!

โตเกียวและบริเวณรอบข้างมีแหล่งช้อปปิ้งเยอะมาก จนอาจจะงงไปหมด แต่ถ้าเมื่อมีแนวทางสักนิดหน่อย ก็จะสามารถหาของที่ต้องการได้เกือบหมดในโตเกียว เนื่องจากมีย่านช้อปปิ้งเยอะจึงยากที่จะเลือกว่าจะต้องไปซื้ออะไร และซื้อที่ไหน ใครที่ชื่นชอบแฟชั่น ไปร้านสตรีทแฟชั่นที่ฮาราจูกุ, ชอบร้านแบรนด์หรูก็ไปกินซ่า, หรือถ้าจะหาร้านวินเทจสไตล์ฮิปสเตอร์ก็ลองไปที่ชิโมคิตะซาวะดูเป็นไง

พวกอุปกรณ์กีฬาหิมะและเครื่องกันหนาวมีขายที่จิมโบโจ, ส่วนที่อากิฮาบาระมีสินค้าอนิเมะและเครื่องใช้ไฟฟ้า หรือจะเป็นไอเทมโบราณดั้งเดิมของญี่ปุ่น เช่น พัดหรือตะเกียบ ทุกอย่างมีในโตเกียวหมดเลย ลองมาสนุกกับการช้อปปิ้งในแหล่งช้อปฯ ของโตเกียว ให้เต็มที่กันดูนะ คุณจะได้สัมผัสกับประสบการณ์การจับจ่ายซื้อของที่สุดยอดแน่นอน

หากใช้บริการรถไฟใต้ดินโตเกียวเมโทร หรือรถไฟ JR ก็จะสามารถเดินทางไปรอบ ๆ โตเกียวได้อย่างสะดวกสบาย ไม่ว่าจะเป็นรถไฟของบริษัทไหน หากซื้อตั๋วรายวันก็จะช่วยลดค่าใช้จ่ายในการเดินทางได้ (บางกรณีขึ้นอยู่กับปลายทางที่ไป) สำหรับคนที่เป็นกังวลในเรื่องของกำแพงด้านภาษาจะใช้แอปแปลภาษาในมือถือก็ได้ หรือจะเลือกใช้บริการไกด์ผู้เชี่ยวชาญให้มาร่วมทัวร์ช้อปปิ้งกับคุณด้วย ก็จะสามารถใช้เวลาที่ญี่ปุ่นได้อย่างคุ้มค่าที่สุดแน่นอน

เอาล่ะ ขอให้สนุกได้ของกลับบ้านกันเยอะ ๆ นะ!

*This information is from the time of this article's publication.
*Prices and options mentioned are subject to change.
*Unless stated otherwise, all prices include tax.

แชร์บทความนี้

บทความใหม่
ค้นหา