ประเทศญี่ปุ่นใน 1 ปีจะแบ่งช่วงเวลาออกเป็น 4 ช่วง ซึ่งเรียกช่วง
เดือนมีนาคมถึงเดือนพฤษภาคมว่าฤดูใบไม้ผลิ, เดือนมิถุนายนถึง
เดือนสิงหาคมเรียกว่าฤดูร้อน, เดือนกันยายนถึงเดือนพฤศจิกายน
เรียกว่าฤดูใบไม้ร่วงและเดือนธันวาคมถึงเดือนกุมภาพันธ์เรียกว่าฤดูหนาว
ในแต่ละช่วงเวลาของฤดูใบไม้ผลิ, ฤดูร้อน, ฤดูใบไม้ร่วงและฤดูหนาว
จะมีอุณหภูมิ สภาพอากาศและอื่น ๆ แตกต่างกันเป็นอย่างมาก

ความหนาวเย็นเริ่มจางลง อากาศค่อย ๆ อบอุ่นขึ้น เป็นฤดูที่
ดำเนินชีวิตได้อย่างง่าย ๆ
ฤดูใบไม้ผลิจะมีลมพัดแรงค่อนข้างมาก แต่เป็นฤดูที่ดีที่สุดสำหรับ
การท่องเที่ยว

หากพูดถึงทิวทัศน์ที่เป็นสัญลักษณ์ของฤดูใบไม้ผลิของประเทศญี่ปุ่น
ก็ต้องนึกถึงดอกซากุระ
งานชมดอกซากุระจะถูกจัดขึ้นตามแหล่งของซากุระในแต่ละท้องที่
ช่วงเวลาในการชมซากุระที่ดีที่สุดของโตเกียวในแต่ละปีคือ
ช่วงปลายเดือนมีนาคม - ต้นเดือนเมษายน

ตั้งแต่ปลายเดือนมิถุนายนจนถึงกลางเดือนกรกฎาคมจะมีฝนตกชุก
ส่งผลให้อุณหภูมิลดลงชั่วคราวทำให้รู้สึกหนาวเย็นเล็กน้อย จึงเรียก
ช่วงเวลานี้ว่า "ฤดูฝน"
ในช่วงที่ฤดูฝนหมดไปจะเรียกว่า "สิ้นสุดฤดูฝน" เมื่อสิ้นสุดฤดูฝนแล้ว
อุณหภูมิจะเพิ่มสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว จึงเริ่มเข้าสู่ฤดูร้อนแบบเต็มตัว
ซึ่งแสงแดดก็จะแรงขึ้นด้วยเช่นกัน

ฤดูร้อนของประเทศญี่ปุ่นไม่เพียงแต่มีแสงแดดจัดและอุณหภูมิ
ที่สูงขึ้นเท่านั้น แต่ความชื้นสูงก็เป็นอีกหนึ่งลักษณะเด่นด้วยเช่นกัน
คนที่กำลังคิดจะมาเที่ยวในช่วงเวลานี้จะต้องเตรียมใจยอมรับและ
เตรียมการรับมือกับความร้อนที่รุนแรงของฤดูร้อนในประเทศญี่ปุ่น
ไว้ให้ดีด้วย

หากพูดถึงกิจกรรมในฤดูร้อนแล้วละก็ ต้องเป็นงานเทศกาลฤดูร้อนและ
เทศกาลดอกไม้ไฟ
ตั้งแต่เดือนกรกฎาคมถึงเดือนสิงหาคม จะมีการจัดงานเทศกาลฤดูร้อน
ในหลาย ๆ ท้องที่ในญี่ปุ่น ผู้คนจะเดินแห่ศาลเจ้าเล็ก ๆ ที่ใช้แห่ใน
งานเทศกาล
ตามชายทะเลหรือฝั่งแม่น้ำก็จะมีการจัดงานเทศกาลดอกไม้ไฟ
ซึ่งดอกไม้ไฟที่ถูกยิงขึ้นฟ้าจะช่วยแต่งแต้มสีสันที่สดใสเจิดจ้าให้กับ
ท้องฟ้าในยามค่ำคืน

ความร้อนเริ่มบรรเทา รวมถึงความชื้นก็ลดลงด้วย แม้อากาศจะแห้งขึ้น
แต่ก็เป็นฤดูที่ใช้ชีวิตได้ง่าย
ฤดูแห่งใบไม้เปลี่ยนสีก็เหมือนกับฤดูแห่งซากุระ
ตามแหล่งที่มีใบไม้เปลี่ยนสี อย่างเช่น เกียวโต, นารา, นิคโค ฯลฯ
จะคับคั่งไปด้วยนักท่องเที่ยวมากมายที่มาเยี่ยมเยียนเพื่อชมบรรยากาศ
ใบไม้เปลี่ยนสี

ที่โตเกียว เมื่อเข้าสู่เดือนพฤศจิกายน ใบไม้ของไม้ผลัดใบจะถูกย้อมเป็น
สีแดงและสีเหลือง สามารถเพลิดเพลินไปกับใบไม้เปลี่ยนสีของภูเขาและ
ต้นไม้ริมถนนได้ รวมถึงในช่วงเวลานี้จะมีการจัดกิจกรรมทางวัฒนธรรม
ต่าง ๆ มากมายด้วย

เมื่อเข้าสู่เดือนธันวาคม อุณภูมิจะยิ่งลดลง ทำให้รู้สึกถึงความหนาวได้
มากขึ้น ตั้งแต่ช่วงปลายเดือนธันวาคมเป็นต้นไปก็จะยิ่งหนาวจัด
ซึ่งหากอุณหภูมิจะต่ำกว่าจุดเยือกแข็งระหว่างเดือนมกราคมจนถึง
ต้นเดือนมีนาคมก็ไม่ใช่เรื่องแปลก
บริเวณเขตโฮคุริคุ, โทโฮคุ, ฮอกไกโดจะมีหิมะที่ตกทับถมกัน ซึ่งแม้แต่
ในเมืองหลวงก็มีปีที่หิมะตกหนักด้วยเช่นกัน

วันที่ 31 เดือนธันวาคมจะถูกเรียกว่าวันสิ้นปี มีธรรมเนียมการทานโซบะ
ในช่วงเวลาข้ามสู่วันใหม่
ระยะเวลา 3 วันตั้งแต่ขึ้นปีใหม่จะเรียกว่า โชกะสึหรือแปลว่าปีใหม่
จะมีการทานโอะเซจิเรียวริที่เป็นชื่อเรียกของอาหารในเทศกาลปีใหม่
นอกจากนี้ยังมีการดื่มเหล้าและเฉลิมฉลองการขึ้นปีใหม่อีกด้วย