โรงแรมในเมืองนี้ตั้งอยู่ห่างจากสถานีชิบุยะ เดินประมาณ 7 นาที
มีทำเลดีเหมาะแก่การช็อปปิ้งและท่องเที่ยวมาก
เพียงก้าวเท้าเข้ามาในโรงแรม จากเมืองชิบุยะที่วุ่นวายแล้ว คุณจะได้พบกับบรรยากาศที่เงียบสงบทันที
ลักษณะพิเศษที่เด่นที่สุดคือฟลอร์ของโรงแรม 9 ชั้นที่จะมีดีไซน์แตกต่างกันออกไปตามธีมต่าง ๆ
ตามคอนเซปต์ "Something Happens!?" นี้
ก็มีการจัดให้เหมือนอยู่ในโลกที่ทำให้รู้สึกตื่นเต้นออกมาอย่างสุดโต่ง
โดยเฉพาะความงามของวัฒนธรรมดั้งเดิมญี่ปุ่นที่อยู่ตามพื้นและกำแพงห้องพักที่ห้ามพลาดเลยทีเดียว!
นอกจากนี้พนักงานที่อยู่ตรงประชาสัมพันธ์ยังสื่อสารภาษาอังกฤษได้อีกด้วยนะ

ส่วนฟลอร์โรงแรมที่ให้เราได้สัมผัสถึงวัฒนธรรมญี่ปุ่นนั้น
มีความงามของวัฒนธรรมท้องถิ่นญี่ปุ่นจัดตกแต่งอยู่ตามชั้นต่าง ๆ
เช่นชั้น 4 นี้ ที่เราสามารถลิ้มรสบรรยากาศเมืองเกียวโตได้แม้เราจะยังอยู่ในชิบุยะก็ตาม
ส่วนชั้น 7 ก็จะมีซุ้มประตู "โทริอิ" ที่เป็นทางเดินเข้าศาลเจ้ารอรับแขกที่มาพักอยู่
ต้นแบบดั้งเดิมสีแดงและดำก็ดูมีสไตล์ไม่น้อย
นอกจากนี้ ฟลอร์ของคอนเซปต์ "มังงะ" ยังมีการ์ตูนมังงะญี่ปุ่น
วาดอยู่บนกำแพงด้านหนึ่ง เสริมสร้างความมีชีวิตชีวาได้ดีอีกด้วย

ที่ชั้น 9 นั้นมีห้องที่ตกแต่งในธีมบ้านญี่ปุ่นสมัยเก่า พระราชวัง และถ้ำต่าง ๆ จัดอยู่
ส่วนตั้งแต่ชั้น 2 ไปจนถึงชั้น 8 จะแบ่งออกเป็นสองชนิดคือ ญี่ปุ่นสมัยใหม่ และโรงงานอุตสาหกรรมสมัยใหม่
โดยมีการใช้ไม้ หิน กระเบื้อง และอิฐบล็อกจากวัตถุดิบจริงที่หรูหรา
ห้องที่ถูกออกแบบมาอย่างดีเช่นนี้ คงจะเป็นความประทับใจอย่างสุดซึ้งได้เลย

เรียวกัง (โรงแรมแบบญี่ปุ่น) นี้ตั้งอยู่ท่ามกลางย่านเมืองเก่าที่เรียงรายกันในเขตไทโต ยานากะ กรุงโตเกียว
ที่นี่นอกจะเป็นเรียวกังที่สามารถมีปฏิสัมพันธ์กันกับคนในครอบครัว
และมีบรรยากาศที่สะอาดและเงียบสงบแล้ว ยังมีแขกชาวต่างชาติมาพักกันมากถึง 90 เปอร์เซนต์เลยล่ะ!
ด้วยการบริการที่อ่อนโยนและพิถีพิถันแบบญี่ปุ่นที่ได้รับความนิยมนี้
ทำให้มีจำนวนแขกพักมากถึง 150,000 คน จากกว่าร้อยประเทศ
นับตั้งแต่เปิดให้นักท่องเที่ยวชาวต่างชาติเข้าพักเลยทีเดียว (ข้อมูลเดือนมกราคม 2016)
ภายในโรงแรมมี Wi-Fi ฟรีบริการ และยังมีแผนที่เมืองยานากะและอุเอโนะ รวมไปถึงหนังสือพิมพ์ภาษาอังกฤษ
และหนังสือนำเที่ยวจัดเตรียมเอาไว้ให้
นอกจากนี้ยังมีบริการเครื่องซักรีดหยอดเหรียญ และสิ่งที่คิดล่วงหน้าไว้เพื่อนักท่องเที่ยวอีกมากมาย
และพนักงานประจำเคานเตอร์ประชาสัมพันธ์ยังสามารถสื่อสารภาษาอังกฤษได้อีกด้วย

ห้องพักทุกห้องที่จัดเตรียมไว้ปูด้วยเสื่อตาตามิทั้งหมด
และยังตั้งอยู่ในเขตพื้นที่พักอาศัยในถนนสายรองที่เงียบสงบ
ทำให้ห้องเงียบสงบและปลอดภัยหายห่วงได้
นอกจากนี้ในห้องพักแต่ละห้องยังมีเครื่องปรับอากาศ และโทรศัพท์จัดเตรียมเอาไว้ให้เรียบร้อย
แถมยังมี Wi-Fi ให้บริการ ทำให้เราสามารถมานอนพักสักคืนหนึ่งได้สบาย
อาหารที่จัดเตรียมให้จะมีแต่อาหารเช้าเท่านั้น
แต่ก็สามารถจ่ายเงินแยกต่างหาก เพื่อให้เสิร์ฟอาหารตะวันตกได้

ภายในโรงแรมมีห้องอาบน้ำรวมอยู่สองแห่ง แบ่งออกเป็นห้องที่ฝักบัวทำมาจากไม้ฮิโนกิ "น้ำร้อนฮิโนกิ"
และอ่างอาบน้ำเครื่องกระเบื้องจีน "น้ำร้อนเครื่องเรือนจีน" อ่างอาบน้ำนั้นไม่ได้แบ่งแยกชายหญิงไว้
แต่มีกุญแจไว้ให้ ทำให้สามารถล็อกกุญแจห้องเพื่อแบ่งกันเข้าใช้ได้ เป็นระบบการใช้งานแบบ
ถ้าหากอ่างอาบน้ำว่างก็สามารถใช้ได้ แต่หากไม่ว่างก็ต้องรอ
การแช่น้ำร้อน ไปพร้อม ๆ กับการชมวิวสวนนั้นเองก็เป็นการแช่น้ำร้อนที่ได้รับความนิยมดีทีเดียว

เรียวกังแห่งนี้สร้างขึ้นใหม่จากอาคารที่ก่อสร้างขึ้นเมื่อปี ค.ศ. 1950
ตามกำแพงดิน เสา และหน้าต่างในที่ต่าง ๆ ภายในเรียวกังล้วน
แต่สร้างขึ้นมาเพื่อให้สัมผัสได้ถึงบรรยากาศในสมัยนั้นทั้งนั้น
นอกจากนี้ยังสามารถเดินไปยังสถานที่ท่องเที่ยวขึ้นชื่อของญี่ปุ่น "วัดเซนโซจิ"
ที่อยู่ในอาซากุสะได้ในเวลาเดินเพียง 6 นาทีเท่านั้นอีกด้วย
เป็นเรียวกังทำเลดีที่สามารถเข้าพักได้ในราคาสมเหตุสมผลดีทีเดียว
ห้องอาบน้ำและสุขาเป็นแบบใช้ร่วมกัน และต้องจัดการเก็บผ้าปูที่นอนด้วยตนเอง
พนักงานที่เคานเตอร์ประชาสัมพันธ์สามารถสื่อสารภาษาอังกฤษได้

ภายในโรงแรมมีสิ่งปลูกสร้างแบบญี่ปุ่นดั้งเดิมหลงเหลืออยู่ทุกหนแห่ง
ตามพื้นไม้และบันไดมีการไล่โทนสีชวนให้รู้สึกถึงช่วงเวลาที่ผ่านมาตั้งแต่อดีตถึงปัจจุบัน
อีกทั้งยังมีหน้าต่างแบบกลมที่อยู่ในห้องบางส่วน (หน้าต่างสำหรับตกแต่งที่นำมาติด)
และพื้นกระเบื้องก็ยังเป็นของจากสมัยนั้นจริง ๆ อีกด้วย
นอกจากนี้ สวนด้านในและการตกแต่งรั้วลูกกรง
ทำให้เราเข้าไปสัมผัสเทคนิคดั้งเดิมของญี่ปุ่นได้อย่างใกล้ชิดอีกด้วย

ห้องปูเสื่อตาตามิสำหรับพักตั้งแต่ 2-4 คนทั้งหมดมีอยู่ด้วยกัน 7 ห้อง และต้องปูฟูกนอนด้วยตัวเอง
ถ้ามากันเป็นกลุ่มก็มีโอกาสสูงที่จะพักห้องรวมกันได้ แต่หากเป็นช่วงไฮซีซั่นที่มีคนเข้าพักมาก
ก็อาจจะต้องแชร์ห้องรวมกับคนอื่นเช่นกัน
โรงแรมทั้งหลายที่อยู่ในเมืองอันเป็นตัวแทนความเป็นย่านชานเมืองของญี่ปุ่นอย่างอาซากุสะนี้นี่ล่ะ
เป็นโรงแรมที่ทำให้คุณสามารถดื่มด่ำถึงบรรยากาศความเป็นชานเมืองได้ถึงก้นบึ้งของหัวใจเลย