HOME พื้นที่โดยรอบมหานครโตเกียว โตเกียว อะซะกุซะ ตามหา "นกฮูก" สุดน่ารักที่อาซากุสะกัน! ใครเบื่อเที่ยวแบบเดิมๆ ต้องอ่าน!
ตามหา "นกฮูก" สุดน่ารักที่อาซากุสะกัน! ใครเบื่อเที่ยวแบบเดิมๆ ต้องอ่าน!

ตามหา "นกฮูก" สุดน่ารักที่อาซากุสะกัน! ใครเบื่อเที่ยวแบบเดิมๆ ต้องอ่าน!

Last updated: 25 พ.ค. 2563

หากพูดถึงสถานที่ท่องเที่ยวในโตเกียวแล้ว ก็ต้องนึกถึงอาซากุสะ ในครั้งนี้เรามีสถานที่หนึ่งที่อยากแนะนำให้ทุกคนได้ลองไปกันหลังจากเที่ยววัดอาซากุสะกัน ซึ่งที่นั่นคุณจะได้พบอาซากุสะในมุมป่าๆ และสถานที่นั้นคือ “ร้านอาอุรุโนะโมริ อาซากุสะ ถนนชินนาคามิเสะ” ร้านคาเฟ่ที่เลี้ยงนกฮูกไว้ ร้านนี้ตั้งอยู่ในย่านการค้า ชินนาคามิเสะ ใกล้กับประตูคามินาริมงของวัดอาซากุสะ

คำขอร้องจากนกฮูก

คำขอร้องจากนกฮูก

เมื่อขึ้นบันไดไปชั้นสองแล้วเปิดประตูเข้าไปในร้าน คุณจะพบกับบรรยากาศเหมือนอยู่ในป่าอันน่าทึ่ง คนที่รอฉันอยู่ตรงเคาท์เตอร์นั้นไม่ใช่พนักงาน กลับเป็น…ตุ๊กตานกฮูก? เอ๊ะ? เดี๋ยวสิ มันเคลื่อนไหวได้!? ในระหว่างที่ตกใจนั่นเอง พนักงานก็อธิบายให้ฉันฟังว่า “เด็กคนนี้ชื่อ “สุชิโร่”ค่ะ” เอ้า! ของจริงเหรอเนี่ย! เหมือนว่าเจ้าเด็กคนนี้จะแอบงีบอยู่น่ะ ฉันจ่ายค่าเข้าไปเป็นเงิน 890 เยน (รวมเครื่องดื่ม 1 แก้ว) และทำความเข้าใจกับกฎของ “อาอุรุโนะโมริ”

1.ห้ามถ่ายรูปโดยใช้แฟลช
2.ห้ามสัมผัสนกฮูกที่มีป้ายเขียนไว้ว่า “ห้ามจับ”
3.เวลาจะสัมผัสฉัน จะต้องใช้หลังมือ
4.ค่าเข้ารวมเครื่องดื่มแล้ว

เอาล่ะ งั้นก็เข้าไปในคาเฟ่นกฮูกกันเลย!

เจอเฮดวิกแล้ว!

เจอเฮดวิกแล้ว!

เมื่อเดินจากโต๊ะประชาสัมพันธ์ไปทางด้านขวา จะมีนกฮูกสีขาวจั๊วะรอคุณอยู่ ถ้าคุณเป็นแฟนตัวยงของแฮร์รี่ พอตเตอร์แล้วล่ะก็คงรู้แล้วใช่ไหม ใช่! เจ้า “นิคุมัง” ตัวนี้เป็นนกฮูกพันธุ์เดียวกันกับเฮดวิกในเรื่องแฮร์รี่ พอตเตอร์ยังไงล่ะ สต๊าฟที่ชื่อ คุณโอกาฮารุ บอกว่า นกฮูกพันธุ์นี้เราสามารถแยกเพศได้จากสีขนของมันล่ะ ถ้าขนสีขาวก็คือเพศผู้!

เอาล่ะ เข้าไปในป่านกฮูกกันเถอะ

เอาล่ะ เข้าไปในป่านกฮูกกันเถอะ

หลังจากที่ถ่ายรูปกับเจ้านิคุมังไปหลายใบตรงทางเข้าแล้ว ก็ได้เวลาเดินเข้าไปด้านไหน โอ้โห! ฉันเบิกตากว้างโดยไม่รู้ตัวเลยล่ะ ไม่ว่าจะมองซ้ายหรือขวา ก็รู้ถึงสายตาของนกฮูกเกาะอยู่บนต้นไม้ อ้ะ แต่พอลองมองดีๆ แล้ว ไม่ใช่แค่บนต้นไม้เท่านั้นนะ ที่พื้นก็มีอยู่ตั้งหลายตัวแน่ะ!

ระหว่างนั้น สต๊าฟคุณโอกาฮารุก็อธิบายเกี่ยวกับนกฮูกให้ฟังหลายๆ อย่าง ภายในป่าแห่งนี้มีนกฮูกประมาณ 30 สายพันธุ์ บางตัวก็ขี้อาย บางตัวก็ดุดัน แต่ละตัวก็มีเอกลักษณ์ทั้งนิสัยใจคอหรืออารมณ์แตกต่างกันไป นอกจากนี้ที่อาอุรุโนะโมริแห่งนี้ มีเรื่องที่ฉันไม่รู้หลายอย่างทั้ง นกฮูกทุกสายพันธุ์กิน “เนื้อไก่” เป็นอาหาร และแต่ละสายพันธุ์ชอบอยู่ในที่ที่แตกต่างกันไป
 
และอย่างที่รู้ๆ กันอยู่ว่า นกฮูกนั้นเป็นสัตว์กลางคืน แต่ก็มีลักษณะบางอย่างที่สามารถปรับตัวให้เข้ากับการใช้ชีวิตของมนุษย์ได้อย่างดี อย่างนกฮูกที่ร้านจะลืมตาตื่นขึ้นเวลาเดียวกับที่ร้านเปิด และจะตื่นอยู่อย่างนั้นจนกระทั่งร้านปิดเลยล่ะ
มีนกฮูกบางตัวที่เคลิ้มหลับ พลิกตัวไปมา ซึ่งเป็นอะไรที่น่ารักมากๆ ฉันชอบคู่หู “จิโร่” กับ “ทาโร่” มากๆ เลยล่ะ ยืนเท่ห์อย่างกับนายแบบนิตยาสารเชียว

ไปสนิทสนมกับนกฮูกกันเถอะ

ไปสนิทสนมกับนกฮูกกันเถอะ

หลังจากที่ทักทายบรรดานกฮูกจนรอบแล้ว ก็ถึงเวลาใกล้ชิดกับพวกมันแล้วล่ะ ฉันสวมถุงมือสีขาวที่ได้มาจากพนักงาน และให้เจ้า “เป็นเป็น” เกาะบนแขน “เป็นเป็น” เป็นนกฮูกร่างเล็ก ก็เลยคิดว่าถึงแม้จะให้เกาะบนแขน ก็คงจะไม่ค่อยรู้สึกเท่าไหร่หรอกมั้ง แต่ในความเป็นจริงแล้ว ทั้งๆที่ตัวเล็ก แต่แรงเกาะของขานั้นแรงมาก จนแขนซ้ายของฉันแข็งอย่างกับต้นไม้เลยล่ะ และฉันก็ลองใช้หลังมือลูบเจ้าเป็นเป็นดู มันนุ่มมาก แบบรู้สึกดีมากๆ เลยล่ะค่ะ เป็นเป็นก็ดูเหมือนจะชอบมากๆ ด้วย พอยิ่งมองเป็นเป็นใกล้ๆ ก็ยิ่งรู้สึกว่ามันน่ารักมากๆ เลยล่ะ
ครั้งนี้ฉันได้ลองให้นกฮูกเกาะที่แขนเป็นกรณีพิเศษค่ะ ครั้งหน้าจะสามารถลองได้แค่ในงานอีเวนท์เท่านั้น ท่านที่สนใจก็ลองไปเช็คดูที่เว็บไซต์ของ คาเฟ่นกฮูก “อาอุรุโนะโมริ” ดูนะคะ

พักผ่อนที่ม้านั่ง

พักผ่อนที่ม้านั่ง

แม้จะเป็นป่า แต่ก็มีพื้นที่สำหรับพักเหนื่อย อย่างม้านั่งหรือตู้ขายอัตโนมัตินะ ฉันเลือกซื้อกาแฟร้อนแล้วนั่งพักที่ม้านั่ง โอ้ะ! ที่โทรทัศน์บนตู้ขายอัตโนมัติกำลังฉายวีดีโอเกี่ยวกับนกฮูกด้วยล่ะ ขณะพักเหนื่อยแบบนี้ก็ยังสามารถเก็บเกี่ยวความรู้เกี่ยวกับนกฮูกได้

ในป่าแห่งนี้ ไม่ได้มีแค่นกฮูกนะ

ในป่าแห่งนี้ ไม่ได้มีแค่นกฮูกนะ

อุตส่าห์มาที่ป่าแห่งนี้ทั้งที ถ้าไม่เล่นกับนกฮูกให้หนำใจ ก็น่าเสียดายแย่ ที่นี่ยังมีสัตว์อื่นๆ อยู่ด้วย อย่างเช่น ชินชิลล่า นกแก้วสีเทา หรือสัตว์เลื้อยคลานอื่นๆ แถมที่ผนังยังประดับไปด้วยของกุ๊กกิ๊กลายนกฮูกที่สต๊าฟประดิษฐ์ขึ้นมาเองด้วย และทางด้านขวาของประชาสัมพันธ์ใกล้ๆ กับเจ้านิคุมังนั้นก็มีมุมขายของฝากอยู่ด้วยล่ะ

เชื่อว่าทุกท่านที่อ่านบทความมาจนถึงตรงนี้ ก็คงอยากจะลองไปที่ “อาอุรุโนะโมริ” กันแล้วใช่ไหมคะ โอกาสที่จะได้ใกล้ชิดกับนกฮูกได้ขนาดนี้ หาได้ยากมากๆนะคะ แนะนำมากๆเลยค่ะสำหรับผู้ที่ชื่นชอบสัตว์ หรือใครก็ตามที่อยากลองได้ประสบการณ์ใหม่ๆ

ร้านเปิด 10 โมงเช้าค่ะ แต่ว่ามีลูกค้าทั้งชาวญี่ปุ่นและต่างชาติเยอะมากๆ ได้ยินจากพนักงานว่าที่นี่ฮิตมากในหมู่นักท่องเที่ยวต่างชาติค่ะ แม้จะไม่ได้โฆษณาอะไรเป็นพิเศษ แต่ด้วยเสียงบอกต่อกันใน SNS ก็เลยมีนักท่องเที่ยวหลายคนอยากลองมาที่นี่ดู

ราคาค่าเข้า : 890 เยน (รวมเครื่องดื่ม 1 แก้ว)
เวลาทำการ : 10:00-21:00 (ไม่มีวันหยุด)

Written by:ไต้หวันบล็อกเกอร์:ลูลู่

*This information is from the time of this article's publication.
*Prices and options mentioned are subject to change.
*Unless stated otherwise, all prices include tax.

แชร์บทความนี้

 
ค้นหา