HOME พื้นที่โดยรอบมหานครโตเกียว โตเกียว อะซะกุซะ [MOVIE] เจาะลึกเรื่องราวของวัดอาซากุสะ วัดโคมแดงที่คนไทยชอบไป
[MOVIE] เจาะลึกเรื่องราวของวัดอาซากุสะ วัดโคมแดงที่คนไทยชอบไป

[MOVIE] เจาะลึกเรื่องราวของวัดอาซากุสะ วัดโคมแดงที่คนไทยชอบไป

Last updated: 25 พ.ค. 2563

วัดอาซากุสะ หนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงของโตเกียว ตั้งอยู่ในย่านอาซากุสะ
ที่มีประวัติศาสตร์มาอย่างยาวนาน วัดอาซากุสะแห่งนี้เป็นวัดที่มีประวัติศาสตร์ยาวนาน
ถูกสร้างขึ้นเมื่อปี 628 และการมาเยือนอาซากุสะของเราในครั้งนี้ ก็เพื่อที่จะตามหาสถานที่
ที่จะทำให้ทุกคนได้รู้จักวัดอาซากุสะมากยิ่งขึ้น

ศาลคามากาตะ จุดเริ่มต้นของวัดอาซากุสะ

ศาลคามากาตะ จุดเริ่มต้นของวัดอาซากุสะ

ศาลคามากาตะ (คามากาตะโด) ตั้งอยู่ไม่ไกลจากวัดอาซากุสะนัก เมื่อประมาณ 1,400 ปีก่อน
ในสมัยที่อุตสาหกรรมการประมงบริเวณอาซากุสะเจริญรุ่งเรืองเป็นอย่างมาก ชาวประมง 2 คน
ได้พบรูปปั้นเจ้าแม่กวนอิมในแหขณะจับปลาอยู่ ในบริเวญใกล้กับที่ตั้งของศาลคามากาตะแห่งนี้
ศาลที่เราเห็นอยู่ในปัจจุบันนั้นเป็นศาลที่ถูกบูรณะขึ้นมาใหม่ เนื่องจากในอดีตศาลแห่งนี้ได้ถูกเผา
ทำลายอยู่บ่อยครั้ง

รูปปั้นเทพเจ้าสายฟ้า และเทพเจ้าแห่งลมผู้พิทักษ์ประตูคามินาริมง

รูปปั้นเทพเจ้าสายฟ้า และเทพเจ้าแห่งลมผู้พิทักษ์ประตูคามินาริมง

ประตูคามินาริมงที่ประดับไปด้วยโคมไฟสีแดงขนาดใหญ่ยักษ์ ถือเป็นสัญลักษณ์
ของวัดอาซากุสะแห่งนี้ เมื่อเขยิบเข้ามาดูใกล้ๆ จะเห็นว่าด้านหน้าทางด้านขวามือ
จะมีรูปปั้นของเทพเจ้าแห่งลม ส่วนด้านซ้ายเป็นรูปปั้นของเทพเจ้าสายฟ้าสถิตอยู่
ทั้งสององค์นี้มีสีหน้าเกรี้ยวกราดดุดันให้ความรู้สึกว่ากำลังปกป้องรักษาวัดอาซากุสะ
แห่งนี้อยู่นั่นเอง แต่รู้กันหรือไม่ว่าจริงๆแล้วประตูนี้ไม่ได้ชื่อ “คามินาริมง”
แต่ชื่อ “ฟูไรจินมง” หรือแปลเป็นไทยง่ายๆว่า ประตูแห่งเทพเจ้าสายลมและเทพเจ้า
สายฟ้า ตามชื่อของเทพเจ้าทั้งสององค์นั่นเอง

มีมังกรอยู่ใต้โคมไฟ!?

มีมังกรอยู่ใต้โคมไฟ!?

โคมไฟที่ประตูคามินาริมง สูง 3.9 เมตร กว้าง 3.3 เมตร และหนักประมาณ 700 กิโลกรัม
ซึ่งถือว่าใหญ่มาก เป็นที่รู้จักกันดีอยู่แล้วว่าด้านหน้าโคมไฟมีการสลักคำว่า
“คามินาริมง (ประตูสายฟ้า)” ไว้ ส่วนด้านหลังโคมไฟ มีชื่อเรียกอย่างเป็นทางการและสลักไว้ว่า
“ฟูไรจินมง (ประตูแห่งเทพเจ้าลมและสายฟ้า)” และเมื่อเดินไปที่ด้านล่างของโคมไฟและแหงนขึ้นไป
มองที่ใต้โคมไฟคุณก็จะพบกับสิ่งที่ซ่อนอยู่ นั่นก็คือ…. รูปสลักของมังกร!

บ่อน้ำพุชำระล้างร่างกายและจิตใจ (โจวสุยะ)

บ่อน้ำพุชำระล้างร่างกายและจิตใจ (โจวสุยะ)

ก่อนที่จะเข้าไปไหว้พระในวัดอาซากุสะนั้น มีสิ่งหนึ่งที่ขาดไมได้เลยก็คือ การชำระร่างกายที่บ่อน้ำ
ทางด้านขวามือระหว่างที่มุ่งหน้าไปอุโบสถ (ฮงโด) นั้น จะมีบ่อน้ำพุซึ่งประดับด้วยเทพเจ้ามังกรที่
ทำจากหินตั้งอยู่ ซึ่งตัวน้ำพุจะไหลออกมาจากเทพเจ้ามังกร
 วิธีชำระล้างร่างกายมีดังนี้ ให้ใช้มือขวาถือกระบวย ตักน้ำจากอ่างเพื่อล้างมือซ้าย จากนั้นเปลี่ยน
มาจับกระบวยด้วยมือซ้าย แล้วล้างมือขวา เสร็จแล้วให้ใช้มือขวาถือกระบวยอีกครั้ง ตักน้ำใส่มือซ้าย
แล้วบ้วนปาก
  ข้อระวังคือ ห้ามดื่มน้ำ ห้ามไม่ให้น้ำราดลงพื้น และต้องใช้กระบวยตักเท่านั้น
และจะต้องตักเพียงครั้งเดียวเท่านั้น

ชำระล้างจิตใจและร่างกายด้วยควันธูป!

ชำระล้างจิตใจและร่างกายด้วยควันธูป!

ที่กระถางธูป (โจวโคโระ) มีควันโขมงออกมาจากก้านธูปที่ถูกปักอยู่ ว่ากันว่า ควันธูปเหล่านั้น
จะช่วยรักษาร่างกายที่ย่ำแย่ให้ดีขึ้นได้ และที่ก้านธูปมีคำว่า “ 卍 (อ่านว่า “มันจิ”
เป็นเครื่องหมายแห่งความโชคดี) ” สลักอยู่ด้วย อย่าลืมลองสังเกตดูกันนะคะ ส่วนธูปสามารถ
หาซื้อได้ที่ขายธูป อยู่ทางด้านขวามือเมื่อหันหน้าเข้าอุโบสถ

หลังไหว้พระก็ต้องเสี่ยงเซียมซีทำนายอนาคต!

หลังไหว้พระก็ต้องเสี่ยงเซียมซีทำนายอนาคต!

เซียมซี หรือในภาษาญี่ปุ่นเรียกว่า “โอมิคุจิ” เป็นอีกวิธีหนึ่งที่เราใช้ทำนายดวงชะตาอนาคตของเรา
ให้หยอดเหรียญ 100 เยนลงไป แล้วเขย่ากล่องใส่ติ้วเซียมซีที่ทำจากไม้ เมื่อเขย่าได้ติ้วออกมา
ที่ติ้วนั้นจะมีหมายเลขเขียนไว้ จากนั้นให้หาลิ้นชักที่มีหลายเลขเดียวกัน ใบเซียมซีที่ได้จะอยู่ในลิ้นชักนั้น

  ประเภทของใบเซียมซี หากเรียงลำดับตามความโชคดี จะเป็นดังนี้ “ไดขิจิ (โชคดีมาก) ”
“คิจิ (โชคดี) ” “ฮังคิจิ (ปานกลาง) ” “โชคิจิ (โชคน้อย) ” “สุเอะโชคิจิ (โชคค่อนข้างน้อย) ”
“สุเอะคิจิ (โชคน้อยมาก) ” และ “เคียว (ไม่มีโชค)” ทั้งหมด 7 ประเภท แต่ต่อให้ได้ “เคียว”
ก็ไม่ต้องกังวลกลัวไป กลับกันถ้าได้ “ไดขิจิ” ก็ห้ามชะล่าใจนะ!

เสียงระฆังของวัดอาซากุสะ

เสียงระฆังของวัดอาซากุสะ

ในสมัยเอโดะ มีการลั่นระฆังบอกเวลาที่วัดอาซากุสะแห่งนี้ แต่ปัจจุบันจะลั่นระฆังเพียงวันละครั้ง
คือเวลา 6 โมงเช้า ส่วนวันที่ 31 ธันวาคม ซึ่งเป็นวันสิ้นปี จะลั่นระฆัง 108 ครั้ง ซึ่งหมายถึง
ตัณหา 108 ที่ทำให้เกิดทุกข์ตามหลักคำสอนทางพุทธศาสนา

สิบปากว่าไม่เท่าตาเห็น!!

สิบปากว่าไม่เท่าตาเห็น!!

และนี่คือสิ่งที่ควรรู้เกี่ยวกับวัดเก่าแก่แห่งนี้ จะเหลือก็แค่เพียงไปดูด้วยตาตัวเองเท่านั้น!
-

  • Senso-ji Temple
    • Address 2-3-1, Asakusa, Taitou-ku, Tokyo, 111-0032
      View Map
    • Nearest Station Asakusa Station (Tokyo Metro Ginza Line / Toei Asakusa Line / Tobu Isesaki Line (Tobu Skytree Line) / Tsukuba Express)
      5 minutes on foot
    • Phone Number 03-3842-0181
*This information is from the time of this article's publication.
*Prices and options mentioned are subject to change.
*Unless stated otherwise, all prices include tax.

แชร์บทความนี้

 
บทความใหม่
ค้นหา