ภูเขาไฟฟูจิมีเส้นทางปีนเขาอยู่4แบบ ซึ่งแนะนำให้ขึ้นรถเมล์โดยตรงจากโตเกียวถึงชั้น5
เพราะถ้าขึ้นรถไฟการต่อรถเมล์หรือแท็กซี่จากสถานีจะลำบากไม่ใช่เล่น แถมไม่ว่าจะเลือกทางไหน
ก็ใช้เวลาเดินทางจากโตเกียวประมาณ 3 ชั่วโมงอยู่ดี

สำหรับเส้นทางปีนเขา ไม่ว่าจะเลือกทางไหนก็ไปถึงยอดเขาได้ ถ้าค่อยๆปีนขึ้นไปโดยรักษา
ความเร็วของตัวเองไว้ ก็จะปีนถึงยอดเขาได้ในเวลา 4-8 ชั่วโมง และปีนลงได้ในเวลา 2-4 ชั่วโมง

เส้นทางนี้เป็นเส้นทางที่ง่ายที่สุดและคนนิยมมากที่สุด ชั้น 5 จะตั้งอยู่บนความสูง 2,305 เมตร
มีร้านขายของฝากและร้านขายสินค้าเกี่ยวกับการปีนเขาอยู่มากที่สุด หากอยากดูพระอาทิตย์ขึ้น
ควรออกเดินทางช่วงหัวค่ำ

จากชั้น 5 ถึงชั้น 6 จะใช้เวลาปีนเพียง 30 นาทีเท่านั้น ดังนั้นขอให้คิดว่าเป็นการวอร์มอัพ
เพราะของจริงนั้นจะเริ่มจากชั้น 6 เป็นต้นไป โดยทางตลอดเส้นทาง จะเต็มไปด้วยทรายนิ่มๆ
ผสมกับก้อนกรวดเล็กๆ มีทางชัน และบันไดสูงๆ ต่ำๆ ซึ่งกว่าจะถึงจุดพักถัดไป
ใช้เวลาประมาณ 60-80 นาที

จากชั้น 7 จะเป็นการปีนขึ้นตามทางที่คดเคี้ยวไปมาซึ่งจะมีเชือกขึงเพื่อบอกทางอยู่
และถ้าเริ่มมองเห็นท้องฟ้าแล้วล่ะก็แสดงว่าใกล้จะถึงชั้น 8 แล้ว
สรุปตั้งแต่ออกเดินทางจะใช้ระยะเวลาประมาณ 4-7 ชั่วโมงก็ถึงยอดเขาแล้ว!

เส้นทางนี้จะเต็มไปด้วยธรรมชาติและคนไม่เยอะเท่ากับเส้นทางโยชิดะกุจิ คาวาคุจิโกะกุจิ
เนื่องจากเส้นทางนี้อยู่กลางป่าหากจะปีนในเวลากลางคืน ควรมีไฟติดศีรษะ แม้ในชั้น 5
จะมีร้านค้าและบ้านพักอยู่บ้าง แต่ก็ยังถือว่าน้อยเมื่อเทียบกับเส้นทางอื่น
ดังนั้นอาจจะทำให้รู้สึกว่าได้ปีนเขาแบบจริงจัง

เส้นทางนี้จะไปบรรจบกับรูทรูทโยชิดะกุจิ คาวาคุจิโกะกุจิ ที่ชั้น 8 ดังนั้น
จากชั้น 8 จนถึงยอดเขา ก็มีโอกาสที่จะต้องเดินเบียดเสียดกับคนอื่นเยอะขึ้น

เส้นทางนี้เป็นรูทสำหรับมืออาชีพ ที่คุณจะสามารถชื่นชมวิวทิวทัศน์อันสวยงามได้
เมื่อออกเดินทางจากชั้น 5 ซึ่งตั้งอยู่บนความสูง 1,440 เมตร จะต้องปีนขึ้นทางชันประมาณ
8 ชั่วโมง แถมไม่มีทั้งบ้านพักและห้องน้ำจนกว่าจะถึงชั้น 7

แต่ข้อดีคือไม่ค่อยมีนักปีนเขาคนอื่น และไม่ว่าจากทางสายไหนก็สามารถเห็นพระอาทิตย์ขึ้นได้
หากเลือกทางนี้ แนะนำให้เตรียมน้ำและอาหารมาให้พร้อม และต้องออกเดินทางเร็วกว่าเส้นทางอื่นๆ

เส้นทางนี้เดินทางสะดวกจากฝั่งคันไซ ชั้น 5 ตั้งอยู่บนความสูง2,380เมตร มีระยะทางปีนเขาที่สั้น
แต่เนื่องจากเส้นทางนี้ชันและเต็มไปด้วยหินตลอดทาง ทำให้ต้องระวังอุบัติเหตุให้มากขึ้น

อากาศที่นี่จะเปลี่ยนแปลงอย่างรุนแรง เหมือนแดดจะออก ฝนกลับดันหนักซะอย่างนั้น
แถมต่อให้เป็นกลางฤดูร้อน ยอดเขาก็จะมีอุณหภูมิต่ำเพียง 5-8 องศาเท่านั้น
จึงควรเช็คพยากรณ์อากาศ เตรียมน้ำอาหาร และอุปกรณ์การปีนเขาให้พร้อมก่อนจะปีนเขา

ไม่ว่าจะปีนในเวลาไหน เส้นทางบนภูเขาจะมีจุดที่มืดอยู่ ดังนั้นไฟฉายจึงเป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้
นอกจากนั้นไม้เท้าปีนเขาเองก็ช่วยได้เยอะเช่นกัน เพราะระหว่างปีนเขา แรงที่มีในตอนแรก
จะค่อยๆลดลงและความเหนื่อยจะสะสม อีกอย่างเลยคือ ห้ามลืม รองเท้าปีนเขา กระเป๋าสำหรับปีนเขา
อุปกรณ์กันฝน เด็ดขาด!

ช่วงฤดูปีนจะมีเขากระท่อมและรถบัสให้บริการ แต่ช่วงนอกฤดูไม่แนะนำให้ปีนเด็ดขาด
ภูเขาไฟฟูจิช่วงดังกล่าวไม่ใช่หมูๆ อย่างที่คิด

ช่วงฤดูหนาวลมจะพัดแรงจนน่ากลัว แถมช่วงฤดูใบไม้ผลิหิมะที่ละลายจะถล่มลงมาจนเป็นเรื่องปกติ
แต่สำหรับคนที่ถึงจะรู้อย่างนั้น ก็ยังอยากปีนภูเขาหิมะนี้ ก็ต้องไปขอทำเรื่องที่สถานีตำรวจในพื้นที่ไว้ก่อน

หากจะปีนโดยมีลูกไปด้วย ควรจ้างพี่เลี้ยงเด็กให้ไปช่วยดูแล เพราะถึงแม้การปีนภูเขาไฟฟูจิ
จะเป็นโอกาสอันดีให้ลูกๆ ได้ลิ้มรสความสำเร็จ แต่ถึงจะเป็นการปีนที่เราดูว่าไม่มีอะไร
เด็กเล็กๆ ก็เหนื่อยง่ายอยู่ดี

จำเรื่องที่เราได้บอกไว้นี้ให้ขึ้นใจ แล้วมาสร้างความทรงจำที่ไม่มีวันลืมบนภูเขาไฟฟูจิกันเถอะ!

วิธีการเดินทาง: จากสถานีรถไฟคาวาคุจิโกะ สายฟูจิคิวโค หรือ สถานีฟูจิซัง สายฟูจิคิวโค
และต่อรถบัสฟูจิคิวโคมุ่งหน้าไปยังภูเขาฟูจิชั้น5 ประมาณ1ชั่วโมง
วิธีการเดินทางจากโตเกียวถึงสถานีคาวาคุจิโกะ สายฟูจิคิวโค ขึ้นรถไฟสายฟูจิคิวโคจากสถานีโอซึกิ
สาย JR จูโอประมาณ 40 นาที