Outlet Center ที่รับวัฒนธรรม "American Art Deco (การตกแต่งเชิงศิลป์แบบอเมริกัน)"
ที่เป็นสัญลักษณ์ตัวแทนในยุคปี 1930 เข้ามาใช้
มีการนำร่มกันแดดมาวางที่ทางเดินอันกว้างขวาง เต็มไปด้วยบรรยากาศ
แบบเปิดโล่ง มีจำนวนร้านค้ารวม 183 ร้าน (ณ ปัจจุบัน เดือนมกราคม 2016)
ในแต่ละพื้นที่มีการแบ่งประเภทออกเป็น แฟชั่น, ภาชนะใส่อาหาร,
ศูนย์อาหาร, สินค้าบริโภค ฯลฯ จึงเป็นที่เลื่องลื่อในด้านการหาซื้อของ
อย่างสะดวกและง่ายดาย ที่นี่เป็นเอาท์เล็ตที่แรกของโลกที่มีการจำหน่าย
สินค้าเพื่อการเดินทาง เริ่มตั้งแต่แบรนด์ "Flight 001" ไปจนถึงแบรนด์
ที่ได้รับความนิยมที่มาเปิดร้านในเอาท์เล็ตร้านแรกในญี่ปุ่นอย่างแบรนด์
"Hanes" และ "Chums" เป็นต้น นอกจากนี้ ยังมีสินค้าที่ซื้อได้เฉพาะที่นี่
วางเรียงรายอยู่อีกมากมาย

ศูนย์อาหารในเอาท์เล็ตมีที่นั่งทั้งหมด 800 ที่นั่ง หลังคาสูงให้บรรยากาศ
แบบเปิดโล่งแม้อยู่ในอาคาร ครบครันไปด้วยอาหารหลากหลายทั้งอาหาร
ญี่ปุ่น, จีนและตะวันตก หรือจะเพลิดเพลินไปกับอาหารหรือของหวานที่อยู่
ด้านนอกศูนย์อาหารก็ได้ มีร้านอาหารโด่งดังมากมาย ตัวอย่างเช่น
ร้าน "Dashidokoro Hannari" ที่สามารถลิ้มรสอาหารญี่ปุ่นจากวัตถุดิบ
ที่ผลิตในจังหวัดชิบะได้ หรือฮาวายเอี้ยนคาเฟ่ "Hanao Cafe" ที่มีแพนเค้ก
ราดซอสถั่วแมคคาเดเมีย เป็นต้น นอกจากนี้ ยังมีซอฟท์ครีมจากนมวัวสดใหม่
ที่ส่งตรงมาจากฟาร์ม "Narita Yume bokujo (Narita dream dairy farm)"
หรือร้านป๊อปคอร์น "Garrett popcorn shops" สาขา 2 ของญี่ปุ่น ซึ่งแต่ละ
ร้านมักจะมีคนต่อแถวยาวอยู่เสมอในวันสุดสัปดาห์

ที่ Shisui Premium Outlets นี้ นอกจากจะอยู่ใกล้สนามบินนาริตะแล้ว ยังใส่ใจในการรับรองชาวต่างชาติอีกด้วย บริเวณโต๊ะประชาสัมพันธ์จะมี
พนักงานที่สามารถสื่อสารด้วยภาษาอังกฤษและภาษาจีนได้ประจำการอยู่
ซึ่งในคู่มือแนะนำพื้นที่ (Floor guide) ก็มีการจัดเตรียมไว้ถึง 4 ภาษา
โดยมีภาษาเกาหลีและภาษาไทยเพิ่มเข้ามาด้วย
นอกจากนี้ ยังมีการจัดเตรียมการบริการต่าง ๆ อย่างมากมาย อาทิเช่น
การชำระเงินด้วย Ginren card, เคาน์เตอร์ปลอดภาษี, เครื่องแลกเงิน
ต่างประเทศอัตโนมัติ, บริการอินเทอร์เน็ตระบบไร้สายสาธารณะฟรี
หรือห้องละหมาดก็มีการติดตั้งไว้ด้วย เป็นต้น ยิ่งไปกว่านั้นยังรวมถึง
มีการให้ข้อมูลเที่ยวบินขึ้นลงที่สนามบินนาริตะด้วย

การไป Shisui Premium Outlets ด้วยรถบัสความเร็วสูงนั้น มีความสะดวกสบายมาก จากเทอร์มินอล 1 (จุดจอดรถหมายเลข 30),
เทอร์มินอล 2 (จุดจอดรถหมายเลข 13 และ 3) มีบริการรถบัสไป-กลับ วันละ 18 รอบ ใช้เวลา 15 - 20 นาที
กรณีที่ใช้รถไฟ จากสถานี "Keisei Narita airport" ถึงสถานี "Keisei Shisui"
ใช้เวลาประมาณ 20 นาที หลังลงจากรถไฟต่อรถเมล์อีกประมาณ 18 นาที

ที่นี่ก็เป็นอีกหนึ่งศูนย์การค้าขนาดใหญ่ที่อยู่ใกล้สนามบินนาริตะ ครบครันไป ด้วยร้านค้าที่รวบรวมไว้ทั้งหมด 174 ร้าน อาทิเช่น ซุปเปอร์มาร์เก็ต, แฟชั่น,
สินค้าเบ็ดเตล็ดในชีวิตประจำวัน, ร้านอาหารนานาประเภท, เสื้อผ้า และรวมไปถึงสิ่งบันเทิงเริงรมย์ ฯลฯ จนมีชื่อเสียงเลื่องลื่อว่า "ถ้ามาที่นี่ก็ไม่มีสิ่งที่หาไม่ได้"
ลานกิจกรรมที่มีอยู่หลายจุดภายในอาคาร ซึ่งมักมีการจัดงานจำหน่ายของอร่อยที่รวบรวมมาจากที่ต่าง ๆ ของญี่ปุ่นหรือมีการจักคอนเสิร์ตด้วยเช่นกัน
ศูนย์อาหารที่มีการรวบรวมร้านค้าไว้ 12 ร้าน ซึ่งมีอาหารหลากหลายมากมายทั้งอาหารญี่ปุ่น, อาหารจีน, อาหารตะวันตก รวมถึงสามารถเพลิดเพลินไปกับของหวาน อย่างเช่น ไอศกรีม, โดนัทและอื่น ๆ ได้ด้วย
นอกจากนี้ ยังมีห้องสำหรับเด็กทารกและมุมสำหรับเด็กไว้บริการอีกด้วย

ด้วยเหตุที่มีความสะดวกสบายในการเดินทางจากสนามบินนาริตะ ทำให้นักท่องเที่ยวและลูกเรือมากมายมาเยี่ยมเยือนที่นี่
เคาน์เตอร์ประชาสัมพันธ์ทั้งสองแห่งในอาคารจึงสามารถให้บริการ
เป็นภาษาอังกฤษหรือภาษาจีนได้ และคู่มือแนะนำพื้นที่ (Floor guide) ก็จัดเตรียมไว้หลายภาษา มีบริการ Wi-Fi ฟรีทั้งอาคารและติดตั้งเครื่อง
แลกเงินต่างประเทศเอาไว้ด้วย
เนื่องจากมีชาวต่างชาติที่แวะมาก่อนกลับประเทศค่อนข้างมาก สถานที่ขายสินค้าบริโภคที่ชั้น 1 จึงมีการจัดกล่องกระดาษสำหรับห่อของไว้ให้ด้วย
ยิ่งไปกว่านั้น เอกสารยกเว้นภาษีที่ต้องใช้มือเขียนก็ถูกเปลี่ยนเป็น
แบบอิเล็กทรอนิกส์ ซึ่งช่วยให้สามารถดำเนินการได้อย่างราบรื่นยิ่งขึ้น

ของฝากที่พอได้รับแล้วน่าปลื้มใจคงจะเป็นนขนมกล่องอย่างคิทแคทหรือป็อกกี้ สถานที่จำหน่ายสินค้าบริโภคที่ชั้น 1 ของห้างสรรพสินค้า Aeon มีขนม
ที่ขึ้นชื่อว่าอร่อยรวบรวมไว้อย่างจุใจ นอกจากขนมแล้วยังมีทั้งชาญี่ปุ่น
และเหล้าญี่ปุ่น, เครื่องเขียนหรือเครื่องสำอางค์ ฯลฯ ซึ่งครบครันไปด้วย
สินค้าที่เป็นของฝากที่ผู้รับประทับใจอีกด้วย

รถบัสที่จอดที่เทอร์มินอล 1 สาย 30, เทอร์มินอล 2 สาย 3 นั้น ใน 1 วันจะเดินรถ 7 รอบ ใช้เวลาราว ๆ 20 นาที
ถ้าใช้บริการรถไฟของบริษัท Keisei ต้องขึ้นจากสถานี "สนามบินนาริตะ"
ไปสถานี "นาริตะ" จากนั้นจะมีรถประจำทางสายตรงจากป้าย "สถานีนาริตะ" สาย 6 ซึ่งจะออกรถทุก ๆ 15 นาที
-