เมื่อพูดถึงญี่ปุ่น อาจจะนึกถึงกิโมโน ฮากามะ หรืออาจจะนึกถึงแฟชั่นที่สีสันสดใสของ "สาวฮาราจูกุ"
จึงอยากขอแนะนำความหลากหลายของวัฒนธรรมแฟชั่นของญี่ปุ่นเหล่านั้น
ประวัติความเป็นมาของชุดประจำชาติแบบดั้งเดิมของญี่ปุ่น
คนญี่ปุ่นยุคเก่าล่าสัตว์ เพื่อนำหนังสัตว์นั้นมาทำเป็นเสื้อผ้าแบบง่าย ๆ
หลังจากที่มีการพัฒนาของอารยธรรม และจากการแลกเปลี่ยนวัฒนธรรมกับประเทศอื่น ๆ
จึงเริ่มมีการสวมใส่เสื้อผ้าแปรรูป เมื่อเริ่มเข้าสู่ยุคกลางได้เกิดการเปลี่ยนแปลงที่อาจกล่าวได้ว่า
"กิโมโน" คือต้นแบบที่เป็นเอกลักษณ์ของแฟชั่นญี่ปุ่น
การสวมเสื้อผ้าทับหลาย ๆ ชั้นได้รับความนิยมในหมู่ขุนนาง
จึงเกิดเครื่องแต่งกายที่สวยงามเรียกว่า "จูนิฮิโตะเอะ (กิโมโน12ชั้น)"
สีของผ้าที่ทับซ้อนกันแสดงออกถึงฤดูกาลหรือสิ่งที่ก่อให้เกิดความรู้สึกต่าง ๆ
ในหมู่ชาวบ้านทั่วไปนั้น "โคะโซะเดะ (กิโมโนสีเรียบ ชายเเขนเสื้อสั้น)"
ที่ทอจากต้นป่านสร้างความคุ้นหูคุ้นตาอย่างกว้างขวาง
และมาถึงกิโมโนในปัจจุบัน
เครื่องแต่งกายของผู้คนนั้น เกิดการเปลี่ยนแปลง
เพราะได้อิทธิพลของยุคสมัยและการพัฒนาทางเทคโนโลยี
เมื่อเข้าสู่ยุคของความวุ่นวายที่เกิดจากสงครามเครื่องแต่งการที่พร้อมใช้งานจึงเป็นที่ต้องการ
ไม่ว่าจะเป็นหญิงชายหรือเพศไหนก็ตาม ก็เริ่มหันมาใส่เสื้อแขนเล็ก
เมื่อวัฒนธรรมที่แตกต่างของยุโรปตะวันตกเริ่มที่จะส่งผลกระทบ
แม้กระทั่งเรื่องสีสันก็เกิดการเปลี่ยนแปลงไปอย่างมาก
การแข่งขันกันใส่โคะโซะเดะที่มีลวดลายที่ฉูดฉาดกลับได้รับความนิยม
และขณะนี้เองที่ได้มีการนำผ้าผืนใหญ่ที่หนักและมีหน้ากว้างยาวมาพันรอบลำตัว
จนเกิดเป็นการเปลี่ยนเเปลงของกิโมโนมาจนถึงสมัยนี้
ความเพลิดเพลินกับการแต่งตัวสวยงามของวัยรุ่นอายุ 10 กว่าปี
นอกเหนือไปจากแฟชั่นฉูดฉาดของวัยรุ่นที่เห็นในวัฒนธรรมป๊อปญี่ปุ่นแล้ว
แฟชั่นของหญิงสาวก็ยังมีหลายหลายทำให้สามารถเพลิดเพลินไปกับแฟชั่นเหล่านั้นได้
เนื่องจากรูปร่างที่แตกต่างกันไม่มาก ชายหญิงที่สวมใส่เสื้อผ้า
โดยไม่บ่งบอกว่าเป็นของเพศไหนโดยเฉพาะก็มีไม่น้อย
วัยทำงานอายุช่วง 20 กว่าปี
หญิงสาวในวัยอายุช่วงเ 20 กว่าปี นิยมใช้สินค้าแบรนด์เนมก็มีไม่น้อย
แน่นอนว่าแฟชั่นก็มีความหลากหลายและมีคนจำนวนมาก
ที่ถึงแม้ว่าจะอยู่ในสังคมของคนที่ทำงานแล้วแต่ก็ยังใช้ของน่ารัก ๆ อยู่
สำหรับผู้ชายในฤดูร้อนกางเกงขาสั้นกว่าหัวเข่าเล็กน้อยกำลังได้รับความนิยม
ส่วนกางเกงขายาวส่วนมากจะเป็นแบบรัดรูป การใส่ซ้อนกันหลาย ๆ ชั้นสำหรับหนุ่มญี่ปุ่น
ก็กล่าวได้ว่าเป็นแฟชั่นหลากหลายที่มีลักษณะโดดเด่น
วัยที่มีการเปลี่ยนเสื้อผ้าหรือชีวิตความเป็นอยู่อายุช่วง 30 กว่าปี
แฟชั่นในช่วงวัยอายุช่วง 30 กว่าปี มีการเปลี่ยนแปลงการดำเนินชีวิตที่ไม่ค่อยวุ่นวายเงียบสงบ
ในกลุ่มหญิงสาว จะแต่งกายโดยแฟชั่น ที่ช่วยปกปิดร่างกายแลดูสวยงาม
มากกว่าแฟชั่นที่โชว์ส่วนเว้าส่วนโค้ง
สำหรับผู้ชาย แม้จะเป็นวันหยุดก็มักจะสวมใส่แจ็คเก็ตหรือเสื้อเชิ้ตและแต่งกายให้ดูสะอาดมากกว่า
เป็นเครื่องแต่งกายที่คำนึงถึงด้านรูปร่างแต่ลักษณะที่โดดเด่นคือ
ต้องเป็นเครื่องแต่งกายที่สร้างความประทับใจด้วย
วัยเลือกทางเดินช่วงอายุ 40 ปี
มีผู้คนในวัยช่วงอายุ 40 กว่าปี ที่กังวลกับเรื่องเครื่องแต่งกายเป็นจำนวนมาก
วัยนี้เริ่มปล่อยตัวทั้งเรื่องเครื่องแต่งกายและรูปร่าง
จึงมีคนที่ไม่ยึดติดกับแฟชั่นเพิ่มขึ้นจะเริ่มเห็นคนที่ใส่เสื้อผ้าขนาดใหญ่จนสะดุดตา
ถ้าเป็นผู้ที่สนใจกับแฟชั่นเป็นอย่างมากก็ต้องมีของแบรนด์เนมหรือของที่ได้รับความนิยมแน่นอน
เนื่องจากการดูแลริ้วรอยได้รับความนิยมทั้งหญิงและชายจึงมักจะเห็นผู้ที่แต่งกาย
ด้วยแฟชั่นที่ดูอ่อนกว่าวัยอยู่ทั่วไป
วัยในยุคฟองสบู่กับช่วงอายุ 50 กว่าปี
เข้าสู่วัยที่เริ่มสงบ มีความพร้อมทั้งการใช้ชีวิตและเงินทอง
เป็นวัยที่ผ่านประสบการณ์ "เศรษฐกิจฟองสบู่" ของประเทศญี่ปุ่นมาแล้ว
จึงมีผู้ที่ยึดติดกับแฟชั่นอยู่เป็นจำนวนมาก รสนิยมหรูหราของแฟชั่นเครื่องแต่งกายจากประเทศตะวันตก
เครื่องแต่งกายแบบธรรมชาติที่ใช้วัตถุดิบจากออร์แกนิกหรือแฟชั่นที่เน้นลักษณะโดดเด่นของบุคคล
แต่คนที่บอกว่า "เลิกสนใจแฟชั่นแล้ว" ก็มีจึงจะเห็นผู้ชายที่สวมใส่เสื้อผ้าที่เลือกโดยภรรยาของเขาอยู่ไม่น้อย
เกี่ยวกับแฟชั่นของช่วงอายุวัย 60 ปีขึ้นไป
ลักษณะพิเศษของคนญี่ปุ่นที่ได้รับการกล่าวถึงคือ "การถ่อมตน"
นั่นสามารถเห็นได้อย่างชัดเจนในแฟชั่นรุ่นอาวุโสของช่วงอายุวัย 60 ขึ้นไป
ที่พยายามไม่ให้มีความโดดเด่นที่สุดเท่าที่จะทำได้ด้วยการใช้สีเรียบ ๆ
เช่น สีเทา สีเบจหรือสีน้ำตาล แต่ก็มีผู้ที่เพลิดเพลินกับแฟชั่นรุ่นอาวุโสเพิ่มขึ้น
ในปัจจุบันผู้ที่สวมชุดกิโมโนแบบดั้งเดิมอาจพบได้น้อยแต่ในรุ่นอาวุโสนั้น
สามารถพบผู้ที่ใส่กิโมโนเป็นปกติในการใช้ชีวิตทั่วไป
- พื้นที่
- หมวดหมู่
*Prices and options mentioned are subject to change.
*Unless stated otherwise, all prices include tax.
Recommended places for you
-
Farm Tomita
Other Nature
Furano / Biei / Sounkyo
-
Appealing
Kanemori Red Brick Warehouse
Shopping Malls
Hakodate
-
Appealing
Shirogane Blue Pond (Aoiike)
Rivers, Lakes & Canyons
Furano / Biei / Sounkyo
-
Appealing
Shiroi Koibito Park
Theme Parks
Sapporo / Chitose
-
LakeAkan
Rivers, Lakes & Canyons
Abashiri
-
Appealing
Rukku and Uohei
Izakaya
Sapporo / Chitose
-
สถานที่ห้ามพลาดเมื่อได้ไปเยือนนาริตะ 19 แห่ง รวบรวมไว้ทั้ง แหล่งท่องเที่ยว ที่ชอปปิ้ง และอาหารรสเด็ดไว้ให้คุณเรียบร้อยแล้ว
-
หากต้องการใช้ชีวิตยามราตรีในโตเกียวล่ะก็ มีบาร์ที่อยากกให้ลองไปกัน
-
5 จุดแนะนำสำหรับท่องเที่ยวมือเปล่ารอบ ๆ นาริตะ เหมาะกับเวลาว่างก่อนหรือหลังขึ้นเครื่อง!
-
เสน่ห์ของการชมดอกไม้ที่อุเอโนะ โตเกียว ทั้ง 4 ฤดูกาล (ผลิ ร้อน ร่วง หนาว) และข้อมูลงานกิจกรรมต่างๆ
-
สามารถอร่อยกับเครื่องดื่มแอลกอฮอล์และอาหารได้ง่ายๆ! ด้วยภาษาญี่ปุ่นที่ใช้บ่อยๆ ในร้าน “อิซากายะ” สถานที่ที่ควรไปเมื่อมาเที่ยวประเทศญี่ปุ่น
-
[MOVIE] ไปดูโชว์แล่ปลามากุโร่และลิ้มรสปลาสดๆแล่ใหม่ๆกันเถอะ!
-
การเดินทางจากสนามบินนาริตะ มาประเทศญี่ปุ่นครั้งแรกก็ไม่มีปัญหา!
-
นั่งรถไฟจากสนามบินแค่ 10 นาที! เดินเล่นหน้าวัด “Naritasan Shinshoji”
-
ถ้าจะซื้อของที่ญี่ปุ่นซื้อเมื่อไรดี?! แนะนำวิธีการซื้อของแบบเจาะลึก
-
สิ่งของที่ควรพกติดตัวไปเวลาไปเที่ยวประเทศญี่ปุ่น
-
มนุษย์ญี่ปุ่นก็เป็นอย่างนี้แหละ! มาเรียนรู้สิ่งที่คนญี่ปุ่นชอบทำกัน
-
วัฒนธรรมโอะฟุโระ (การแช่น้ำร้อนญี่ปุ่น) และวิธีการใช้โอะฟุโระ