ถ้าจะไปยังไยซุ หรือเมืองแห่งปลานี้ ก่อนอื่นให้ขึ้นโทไคโดชินคันเซ็นไปยังสถานีชิซูโอกะ (Shizuoka) ที่ตั้งอยู่ระหว่างโตเกียวและโอซาก้า อาจมีบางคนที่ไม่เคยลงรถไฟที่สถานีชิซูโอกะ แต่ถือเป็นสถานีที่สะดวกสบายมากเพราะเป็นประตูไปสู่สถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยม เช่น ไยซุ ภูเขาไฟฟูจิ ฟูจิคิวไฮแลนด์ (Fuji-Q Highland) และมิโฮะ โนะ มัตสึบาระ (Miho no Matsubara) ไยซุที่เดินทางมาถึงได้จากสถานีชิซูโอกะโดยรถไฟประมาณ 12 นาที มีท่าเรือ 3 แห่ง ส่วนใหญ่จะเน้นจับปลาคัตสึโอะ (ปลาโอ) ปลาทูน่า ปลาซาบะ ปลาชิราสึ กุ้งซากุระเอบิ ฯลฯ และมีปริมาณการจับปลาโดดเด่นในญี่ปุ่น เช่น เป็นท่าเรือที่มีปริมาณจับปลามากเป็นอันดับ 1 ในญี่ปุ่นถึง 4 ปีซ้อน

วันนี้คนที่จะเที่ยวรอบๆ ไยซุ (Yaizu) เพื่อค้นหาทิวทัศน์งดงามและอาหารแสนอร่อยไปพร้อมกับเราก็คือ คุณโรมันจากประเทศรัสเซีย เราตื่นเต้นอย่างมากว่า “ใช้เวลาเพียงแค่ประมาณ 1 ชั่วโมงทั้งจากโตเกียวและนาโกย่า เราเดินทางได้สะดวกจากทั้ง 2 เมืองนี้ จึงตั้งตารอมากๆ ที่จะได้เพลิดเพลินไปกับภูเขาไฟฟูจิและอาหารทะเล!”

ก่อนอื่นไปผ่อนคลายกันที่บ่อแช่เท้าหน้าสถานี ภูเขาไฟฟูจิตั้งอยู่บนเขตแดนระหว่างจังหวัดชิซูโอกะกับจังหวัดยามานาชิ ผู้คนจำนวนมากมองเห็นภูเขาไฟฟูจิตามเลียบทะเลสาบที่อยู่ใกล้เคียง เช่น ทะเลสาบคาวากุจิ แต่คุณโรมันเองก็เพิ่งได้ยินเป็นครั้งแรกว่าสามารถเห็นภูเขาไฟฟูจิจากในเมืองท่าได้ “ถ้ามาญี่ปุ่น ก็อยากถ่ายรูปวิวสวยๆ ของภูเขาไฟฟูจิเก็บไว้ และอาจไม่ค่อยมีภาพลักษณ์ของทะเลกับภูเขาไฟฟูจิเท่าไรนัก แต่เราจะได้เห็นวิวแบบไหนกันนะ?” ถ้าอย่างนั้นเรามาเริ่มต้นทริปไยซุเพื่อค้นหาทิวทัศน์งดงามของภูเขาไฟฟูจิกันเลย

ถ้าคุณมาเยือนไยซุในฤดูใบไม้ผลิ อย่าลืมมาชมวิวแสนงดงามของซากุระและภูเขาไฟฟูจิ และจากเลียบแม่น้ำโทจิยามะซึ่งไหลจากทางหลวงหมายเลข 150 มุ่งหน้าไปยังนากามิเนะ ฮานะคาเฟ่ คุณจะพบทิวทัศน์อันงดงามกว้างขวางที่มองเห็นภูเขาไฟฟูจิซึ่งอยู่ด้านหลังดอกซากุระที่บานสะพรั่ง

ที่ไยซุ ดอกซากุระที่บานเร็วกว่าปกติจะเริ่มบานตั้งแต่กลางเดือนกุมภาพันธ์ และในอำเภอไยซุจะมีสถานที่ชมซากุระขึ้นชื่อมากมาย เช่น ยามะโนะเทะซากุระที่ฝั่งแม่น้ำอาซาฮินะ และอุโมงค์คัมโปะซากุระ ดังนั้นการเที่ยวไปรอบๆ ด้วยจักรยานเช่าที่สามารถเช่าได้ที่สมาคมการท่องเที่ยวหน้าสถานีไยซุจึงเป็นประโยชน์อย่างมาก

ใช้เวลาประมาณ 15 นาทีโดยรถยนต์จากหน้าสถานีไยซุ และภูเขาไฟฟูจิจะรอต้อนรับคุณทันทีอยู่ที่ชายฝั่งทาจิริฮามะ ซึ่งอ่าวซุรุกะที่กว้างไกลออกไปสุดสายตา ท้องฟ้าสีฟ้าสดใส และภูเขาไฟฟูจิล้วนสวยงามมากจนคุณโรมันเองก็ยังรู้สึกประทับใจ

เลียบชายฝั่งที่ล้อมรอบไปด้วยป่าสนนี้ก็คือเส้นทางเดินเล่น และคุณจะรู้สึกสดชื่นได้เพียงแค่เดินเล่นสบายๆ ด้วยความรู้สึกของผู้คนในท้องถิ่น

เดิน 10 นาทีไปทางทิศเหนือโดยเดินไปบนชายฝั่งทาจิริฮามะ เราก็มาถึงสวนอิชิซุไคกังซึ่งมองเห็นภูเขาไฟฟูจิที่อยู่ฝั่งตรงข้ามของสนามหญ้าได้

ณสามารถนั่งบนม้านั่งและมองดูภูเขาไฟฟูจิในสวนที่ลมทะเลพัดผ่านนี้ และมีเพียงไยซุซึ่งเป็นเมืองท่าในจังหวัดชิซูโอกะเท่านั้นที่คุณจะสามารถสัมผัสประสบการณ์แบบนี้ได้

ท่าเรือโคกาวะซึ่งอยู่ห่างจากสวนอิชิซุไคกังเพียงไม่กี่ก้าวนี้ เป็นท่าเรือที่มีการจับปลาซาบะและปลาอาจิในน่านน้ำและชายฝั่ง และที่นี่คุณยังสามารถเพลิดเพลินกับการผสมผสานกันระหว่างวิวของเรือประมงกับภูเขาไฟฟูจิได้

คุณโรมันโพสต์ท่าสไตล์หนุ่มท่าเรืออันหรูหราโดยไม่ทันคิดและน่าประทับใจอย่างมาก “ภูเขาไฟฟูจิด้านหลังที่มีเรือประมงเท่ๆ เรียงรายแบบนี้จะทำให้หนุ่มๆ อารมณ์ดีได้!” แน่นอนว่าใครที่ชอบวิวนี้จะต้องอดใจไม่ไหวแน่นอน

และเรือประมงของท่าเรือโคกาวะก็ได้แขวนธงที่ช่วยให้จับปลาได้เยอะ (ไทเรียวบาตะ) ในวันปีใหม่เพื่อขอให้ปลอดภัยในการเดินทางด้วยเรือและจับปลาได้เยอะ และดูเหมือนผู้คนมากมายจากสถานที่ห่างไกลต่างมาที่ไยซุเพื่อชมทิวทัศน์นำโชคเหล่านี้

มันกันโฮ (Manganho) ที่พาดผ่านอำเภอไยซุและอำเภอชิซูโอกะแห่งนี้ คุณสามารถมองเห็นภูเขาไฟฟูจิและอ่าวซุรุกะได้จากยอดเขา และเป็นที่นิยมในฐานะเส้นทางเดินเขาง่ายๆ เพราะปีนขึ้นไปได้ภายในระยะเวลาเพียงประมาณ 1 ชั่วโมงครึ่งจากฮานาซาวะ โนะ ซาโตะที่ใกล้ที่สุด

ถนนที่จะขึ้นไปบนยอดเขาเอง เราก็สัมผัสได้ถึงทิวทัศน์ที่อุดมไปด้วยธรรมชาติ และคุณจะรู้สึกสดชื่นจากทิวทัศน์ของภูเขาในแต่ละฤดูกาล และใบไม้เปลี่ยนสีในความเขียวขจีอย่างแน่นอน

คุณสามารถเพลิดเพลินกับความแตกต่างระหว่างความเขียวขจี ทะเล ชายฝั่ง และภูเขาไฟฟูจิบนระเบียงชั้น 2 ของ “อุมิเอรุ ไยซุ” สถานที่ที่คุณสามารถทานอาหารโดยเน้นที่การขายอาหารที่ผลิตขึ้นในท้องถิ่นและอาหารจากปลา และนี่เป็นทิวทัศน์จาก “โทโทยะ ชินเบเอะ” บาร์บีคิวอาหารทะเล

สัมผัสกับวิวงดงามของภูเขาไฟฟูจิไปพร้อมอาหารทะเล ซึ่งนี่ถือเป็นประสบการณ์อันสมบูรณ์แบบในสไตล์ไยซุ!

ถ้าคุณจะปิดท้ายทริปไปไยซุโดยการค้นหาวิวอันงดงามของภูเขาไฟฟูจิ ขอให้มุ่งหน้าไปยังชายฝั่งวาดะฮามะที่อยู่ใกล้ๆ กับท่าเรือโคกาวะ ซึ่งภูเขาไฟฟูจิที่จะเปลี่ยนเป็นสีชมพูเมื่อพระอาทิตย์ตกดินนั้นก็งดงามจนน่าทึ่ง เป็นการปรากฏตัวของภูเขาไฟฟูจิอันน่าตื่นตาตื่นใจ กับทะเลและท้องฟ้าอันเงียบสงบ ซึ่งคุณโรมันเองก็ถึงกับพูดอะไรไม่ออกเมื่อธรรมชาติอันงดงามของไยซุปรากฏขึ้นตรงหน้าแบบนี้

เราสามารถมองขอบฟ้าที่มีการไล่ระดับสีอ่อนจางนี้ไปได้แบบไม่มีที่สิ้นสุด และเป็นความคิดที่ดีในการมองย้อนกลับไปในความทรงจำที่ไยซุขณะที่คุณนั่งอยู่บนชายหาดนี้

เราจะขอแนะนำสถานที่ที่คุณสามารถชม กิน ซื้อ และผ่อนคลายที่ไยซุในขณะที่ตระเวนชมทิวทัศน์งดงามของภูเขาไฟฟูจิ โดยคุณจะสัมผัสได้ถึงเสน่ห์ของไยซุผ่านอาหารอร่อยและวิวที่สวยงามทั้งหมดนี้ได้

“โทโทยะ ชินเบเอะ” บนชั้น 2 ของอุมิเอรุ ไยซุ เป็นร้านอาหารสไตล์บาร์บีคิวที่สามารถชมทิวทัศน์มุมกว้างของภูเขาไฟฟูจิและคาบสมุทรอิซุได้ ซึ่งบริหารงานโดยตรงโดยบริษัทค้าส่งทางประมง คุณจึงสามารถย่างวัตถุดิบที่คัดสรรมาอย่างดีจากทั่วประเทศญี่ปุ่นได้ด้วยตนเอง

อาหารขึ้นชื่อคือ “อาหารทะเลสุดหรู” (บนซ้าย / 2,728 เยน) ซึ่งคุณสามารถลิ้มรสหอยนางรม 300 กรัมและอาหารทะเล 4 ชนิดอย่าง หอยเชลล์ กุ้ง หอยตลับลาย และหอยซาซาเอะจากฮอกไกโด “อาหารชุดซาซิมิประจำวันนี้” (ขวาบน / 2,178 เยน) จะเหมาะมากสำหรับมื้อกลางวันพร้อมซาซิมิที่สวยงาม 5 ชนิด เช่น ปลาทูน่าครีบน้ำเงินใต้ รวมถึง “สเต๊กปลาคัตสึโอะแบบแรร์” (ล่างซ้าย / 1,078 เยน) และ “อาหารชุดซูชิปลาซาบะย่าง” (ล่างขวา / 1,210 เยน) ก็เป็นเมนูที่อยากให้ลองให้ได้เช่นกัน

อีกทั้งยังเป็นประสบการณ์ที่สนุกสนานในการนำวัตถุดิบอาหารมาวางบนตะแกรงเหล็กร้อนๆ และย่างด้วยตัวเอง

ในวันที่อากาศดีขอให้ลองไปนั่งบนที่นั่งระเบียง ซึ่งถือเป็นความหรูหราขั้นสูงสุดในการทานอาหารทะเลแสนอร่อยจากทั่วประเทศญี่ปุ่นไปพร้อมกับชมภูเขาไฟฟูจิและทะเล จึงไม่ต้องสงสัยเลยว่ามันจะเป็นช่วงเวลาอาหารกลางวันที่น่าจดจำอย่างแน่นอน

“ฮานาซาวะ โนะ ซาโตะ” เป็นหมู่บ้านบนภูเขาอันมีเอกลักษณ์อย่างบ้านสองข้างทางที่ได้รับการขยายและปรับปรุงใหม่หลายครั้ง และยังคงรักษาธรรมเนียมตั้งแต่สมัยเอโดะและสมัยเมจิไว้ ภาพเงาในอดีตของยุคสมัยที่การปลูกชาและส้มรุ่งเรืองก็ยังคงหลงเหลืออยู่ และกำแพงหินและอาคารไม้ที่ตั้งอยู่เลียบถนนก็ถูกใช้เป็นสถานที่ทำงานและโกดังในตอนที่เก็บชาและส้ม อีกทั้งชั้น 2 ยังมีการใช้เป็นที่พักสำหรับคนงานตามฤดูกาลที่ทำงานเกี่ยวกับการเก็บเกี่ยว และโครงสร้างที่เป็นเอกลักษณ์นี้ได้สร้างภูมิทัศน์ที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะของฮานาซาวะขึ้น

เส้นทางเดินเขาไปสู่มันกันโฮก็เริ่มจากฮานาซาวะ โนะ ซาโตะ และวิวที่มองจากทางเดินบนภูเขาเองก็ยอดเยี่ยมเช่นกัน

สถานที่ช็อปปิงที่คุณควรไปในเมืองแห่งปลาอย่างไยซุก็คือ ศูนย์ปลาไยซุ (Yaizu Fish Center) ที่คุณสามารถสนุกกับการช็อปปิงและทานอาหาร ไปพร้อมกับสัมผัสบรรยากาศของตลาดปลาย้อนยุค

ที่นี่ได้รวบรวมอาหารทะเลสดใหม่ สินค้าที่ผลิตในท้องถิ่น ร้านขายสินค้าของฝาก รวมทั้งร้านอาหารประมาณ 60 ร้านที่ขายอาหารทะเล เอ๊ะ? คุณโรมันใส่เสื้อต่างจากตัวที่ใส่มาจนถึงเมื่อกี้นี่...

เสื้อไยซุ อุโอกาชิที่คุณโรมันได้มานี้คือเสื้อท้องถิ่นที่มีรากฐานมาจากชุดทำงานของชาวประมงและร้ายขายปลาในท้องถิ่น เสื้อสไตล์ญี่ปุ่นที่มีดีไซน์หลากหลายนี้ยังซื้อไปเป็นของฝากในญี่ปุ่นได้ด้วย และมีการจัดแสดงอยู่เฉพาะที่ศูนย์ปลาไยซุเท่านั้น แต่คุณสามารถซื้อได้ที่อุมิเอรุ ไยซุ และสถานที่ต่างๆ ในเมือง

ได้พูดคุยกับร้านค้าที่เป็นมิตรอย่างออกรสด้วย และดูเหมือนว่าจะเผลอซื้อมากเกินไปเสียแล้ว เวลาทำการคือ 9.00-17.00 น. และยังมีร้านที่เริ่มปิดตั้งแต่ตอนเย็นด้วย ดังนั้นใครที่อยากเดินดูสบายๆ เราขอแนะนำให้มาที่นี่เร็วหน่อย

ในส่วนของที่พัก เราขอชวนให้คุณเลือกที่พักที่คุณสามารถมองเห็นภูเขาไฟฟูจิได้ ซึ่งที่ “โรงแรมแอมเบีย โชฟุคาคุ (Hotel Ambia Shofukaku)” คุณสามารถลงแช่น้ำพลางชมทิวทัศน์ของภูเขาไฟฟูจิและอ่าวซุรุกะจากบ่อแช่น้ำกลางแจ้งสำหรับผู้ชายและผู้หญิงได้

เนื่องจากตั้งอยู่บนเนิน เราจึงมองเห็นภูเขาไฟฟูจิจากที่จอดรถได้อย่างสมบูรณ์แบบ และคุณจะได้ขจัดความเหนื่อยล้าจากการเดินทางในห้องพักทุกห้องที่เป็นวิวทะเล ล็อบบี้ที่ให้ความรู้สึกเป็นอิสระ และพื้นที่แสนสบายใจ

จากโตเกียวประมาณ 1 ชั่วโมง ก็ได้เป็นทริปที่เราได้สัมผัสกับธรรมชาติอันอุดมสมบูรณ์และความอบอุ่นของผู้คนในไยซุ ไปพร้อมกับดื่มด่ำกับภูเขาไฟฟูจิและอาหารทะเล ถ้าคุณอยากเพลิดเพลินกับวิวแสนงดงาม อาหาร และออนเซ็นในสไตล์ญี่ปุ่น ไยซุแห่งนี้จะช่วยให้ความต้องการของคุณกลายเป็นจริงได้ทั้งหมดเลยทีเดียว!

รถไฟ :
ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง 20 นาทีโดยขึ้นสาย JR โทไคโดชินคันเซ็น (JR Tokaido Shinkansen) จากสถานีโตเกียว หรือประมาณ 1 ชั่วโมง 20 นาทีโดยขึ้นสาย JR โทไคโดชินคันเซ็นจากสถานีนาโกย่า รวมทั้งใช้เวลาประมาณ 12 นาทีโดยขึ้นสาย JR โทไคโดฮงเซ็นจากสถานีชิซูโอกะ

สนามบิน :
นั่งรถบัสประมาณ 40 นาทีจากสนามบินฟูจิซังชิซูโอกะ (Mt. Fuji Shizuoka Airport) ไปยังสถานีฟุจิเอดะ (Fujieda) และใช้เวลาประมาณ 7 นาทีโดยขึ้นสาย JR โทไคโดฮงเซ็นจากสถานีฟุจิเอดะ

แนะนำ 11 ร้านค้าที่รองรับชาวต่างชาติด้วย เช่น อาหารทะเลขึ้นชื่อของไยซุและร้านอิซากายะที่โดดเด่น!

ตั้งอยู่ที่ทางออกทิศใต้ของสถานีไยซุ และมีบริการจักรยานเช่าและรับฝากสัมภาระชั่วคราว โดยคุณสามารถดาวน์โหลดแผนที่ท่องเที่ยวในภาษาอังกฤษ ภาษาจีนตัวเต็ม ภาษาจีนตัวย่อ และภาษาเกาหลีได้จากโฮมเพจ

แนะนำวิธีเพลิดเพลินกับน้ำพุร้อน การตกปลา และไยซุอันเป็นเมืองท่าซึ่งมองเห็นภูเขาไฟฟูจิ!

*มีการดำเนินการมาตรการป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่อย่างจริงจัง โดยนักแสดงและพนักงานทุกคนได้สวมหน้ากากอนามัยยกเว้นในฉากที่ถ่ายทำ รวมทั้งได้ทำการถ่ายทำโดยคำนึงถึงความปลอดภัย