ว่ากันว่าเครื่องปั้นดินเผาที่เก่าแก่ที่สุดในโลกคือเครื่องดินเผามนสมัยยุคหินใหม่ที่ถูกขุดพบในญี่ปุ่น ที่สามารถเห็นได้จากประวัติความเป็นมาของเครื่องปั้นดินเผามากมายและยาวนานในประเทศญี่ปุ่น
นอกจากนี้ยังเครื่องปั้นดินเผาไม่ได้เป็นเพียงสิ่งจำเป็นในชีวิตประจำวัน แต่ยังถูกนำมาเป็นอุปรกรณ์ใช้ในพิธีกรรมต่างๆ ในช่วงศตวรรษที่8 (ซึ่งตรงกับราชวงศ์ ถัง ของจีน)เทคโนโลยีเครื่องเคลือบที่ถูกส่งมาจากจีนแล้วจึงนำมาพัฒนาจนเป็นเอลักษณ์ของญี่ปุ่นเอง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในศตวรรษที่ 16 Sen no Rikyū ได้รับศิลปะเครื่องปั้นดินเผา มาพร้อมกับพิธีชงชา

เครื่องปั้นดินเผาทำจากดินเหนียวนำมาขึ้นรูป แล้วนำไปเผาด้วยความร้อนสูง โดยการทาน้ำยาเคลือบไปที่เนื้อดินของดินเหนียวที่มีคุณภาพ น้ำยาเคลือบคือน้ำยาที่เอาไว้เคลือบพื้นผิว นอกจากนี้จึงนำไปอบด้วยความร้อนสูง เพราะความงามที่ทนทานของเครื่องปั้นดิเผา จึงถูกนำมาใช้ในพิธีชงชา มีความสมบูรณ์และไม่สมบูรณ์แต่ก็ยังถูกนำไปเป็นสัญลักษณ์ในพิธีชงชา ซึ่งเครื่องปั้นมีผิวขรุขระ

เครื่องลายครามถูกผลิตเป็นครั้งแรกที่ประเทศญี่ปุ่นในช่วงต้นของศตวรรษที่17โดยได้รับอิทธิพบมาจากจีน หลังจากนั้นจึงถุกนำเข้าไปยังยุโรปโดยชาวฮอลแลนด์ ซึ่งเป็นที่นิยมอย่างมากของชาวตะวันตก อย่างเช่น อะริตะเป้นต้น นอกจากนี้ยังมีถ้วยชามที่ส่งออกจากท่าเรืออิมะริ ในจังหวัดซะงะ จึงถูกเรียกว่า อิมะริยะกิ เครื่องลายครามมีคุณภาพสูงเป็นแต่ก็ยังไม่ค่อยเป็นที่นิยมเท่าเครื่องปั้นดินเผา

เครื่องลายครามผลิตโดยการผสมดินเหนียวเข้ากับผงหินแล้วเผาด้วยความร้อนสูง เครื่องกระเบื้องผสมวัตถุดิบเข้า
กับวัตถุดิบที่เป็นแก้ว เมื่อนำไปเผาแล้วจึงมีคุณสมบัติแข็งกว่าเครื่องปั้นดินเผาดังนั้นเสน่ห์อย่างหนึ่งของเครื่องกระเบื้องถ้วยชามคือสามารถทำให้บางและประณีตได้ นอกจากนั้น ลวดลายภาพวาดอันเงางามที่ถูกวาดบนพื้นผิวสีขาวอันราบลื่นยังสวยงามอีกด้วย ลวดลายภาพวาดมีตั้งแต่ลายเรียบจนถึงสิ่งที่สัมผัสได้ถึงความละเอียดลออ

1. นำวัตถุดิบของกระเบื้องเคลือบและเครื่องปั้นดินเผามาใช้มือหรือ”โระคุโระ”　
(แท่นจานหมุนที่ใช้ปั้นภาชนะดินเผา) หรือพิมพ์ปั้นขึ้นรูป
2. นำของที่ขึ้นรูปแล้วมาทำให้แห้ง
3. นำผลงานมาวางเรียงในหม้อแล้วเผาด้วยอุณหภูมิ 800 - 900 องศา (เผาก่อนเคลือบ)
4. วาดลวดลายภาพวาด (ร่างภาพ)
5. ทาน้ำยาเคลือบ
6. ใช้ฟืนหรือก๊าซเป็นเชื้อเพลิงเผาด้วยอุณหภูมิ 1,200 - 1,300 องศา (เผาจริง)
7. เผาจริงจนเนื้อดินราบลื่นแล้วใช้พู่กันหรือพิมพ์เขียนลวดลายภาพวาด (พิมพ์ลวดลาย)
8. เผาลวดลายพิมพ์ด้วยอุณหภูมิต่ำประมาณที่ 800 องศา

นอกเหนือจากเครื่องลายครามที่กล่าวมาแล้ว ยังมีเครื่องปั้นดินเผาจากท้องถิ่นต่างๆในญี่ปุ่น .
บิเซนยะกิ ความพิเศษของลวดลายอยู่ที่การปรับระดับเปลวไฟตอนเผา เครื่องปั้นดินเผาที่ไม่ทาด้วยน้ำยาเคลือบจนพื้นผิวดูเหมือนเหล็ก .
ฮะกิยะกิ ความพิเศษของเครื่องปั้นดินเผาอยู่ที่การติดสีส้ม
นอกจากนี้ยังมี โอะริเบะยะกิ เครื่องปั้นดินเผาที่ทาด้วยยาเคลือบสีเขียวมีชื่อเสียง ส่วนมากมีลวดลายแบบเลขาคณิต
ชินระคุยะกิ ของตั้งโชว์รูปตัวทานูกิเป็นเครื่องปั้นดินเผาที่มีชื่อเสียง ประดับไว้หน้าร้านเพื่อเป็นเครื่องรางที่ดี

สามารถซื้อได้ที่สถานที่วางจำหน่ายถ้วยชามในห้างร้านหรือซูเปอร์มาร์เก็ตขนาดใหญ่, ร้านที่ขายกระเบื้องเคลือบและเครื่องปั้นดินเผาโดยเฉพาะ นอกจากนั้นบริเวณรอบเมืองโตเกียว เมืองคะซะมะจังหวัดอิบะระกิที่ทำ ”คะซะมะยะกิ”, เมืองมะชิโกะจังหวัดโทะจิงิที่ทำ ”มะชิโกะยะกิ” ฯลฯเป็นที่รู้จักในฐานะที่เป็นสถานที่ผลิตเครื่องปั้นดินเผา