
การแสดงละครหุ่นเชิดญี่ปุ่น เป็นละครที่ใช้คนเชิด 3 คนต่อหุ่นหนึ่งตัว โดยการนำเนื้อเรื่องต่างๆมาแสดงเป็นการแสดงพื้นบ้านของญี่ปุ่โดยเรียกกันว่า "Bungaku" และถูกบันทึกให้เป็นมรดกโลกจากยูเนสโกในปี ค.ศ. 2003
ประวัติความเป็นมาของละครหุ่นเชิดญี่ปุ่น

ต้นกำเนิดของละครหุ่นเริ่มจากปี ค.ศ.1684 ได้สร้างโรงละครหุ่น Bunraku ที่แรกในโอซาก้า โดย Takemoto Gidayuซึ่งเป็นนักกวี("Joururi”)ในสมัยนั้น แต่ว่าละครหุ่นเชิดและบทกวีนั้นเป็นศิลปะการแสดงมาก่อน เริ่มจากการต้นกำเนิดเรื่องราวของหญิงสาวที่เรียกว่า” Joruri gozen” ในเวลานั้นจะเรียกว่า"Joururi”ซึ่งเป็นเพลงที่เล่าเรื่องร้องพร้อมกับเพลงเรียบง่าย โดยเพิ่มการแสดงหุ่นเชิดเข้าไป แต่ตอนนั้นยังไม่ได้เรียกว่าละครหุ่นเชิด ซึ่งการแสดงละครหุ่นเชิดขยายความื่นชอบจอากโอซาก้าไปยังเอโดะ นอกจากนั้นความหลากหลายของวิธีการเล่นที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว และความหลากหลายของเนื้อเรื่องที่นำมาแสดง
บทบาทการแสดงบนเวที

ขอแนะนำบทบาทการแสดงละครหุ่นดังนี้
หุ่นเชิดจะบังคับด้วยคน 3 คน ส่วนมากผู้เชิดจะใส่ชุดสีดำ แต่ก็มีบางครั้งที่เปิดเผยตัวผู้เชิดออกมาในบทสำคัญ ๆ เช่นเดียวกัน เช่นตำแหน่ง "Tayuu" ที่เป็นผู้บรรยายเรื่องราวในละครหุ่นเชิด ก็มีหน้าที่จะพากย์ตัวละครที่ปรากฎในเรื่องต่าง ๆ และบรรยายภาพเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในตอนนั้นออกมาอย่างแยบยล เป็นต้น บทเพลงก็มีส่วนสำคัญในละครหุ่นเชิดเช่นเดียวกัน โดยปกติแล้วมักจะใช้เครื่องสาย "Futosao" ที่เสียงก้องกังวานกว่า Shamisen (ซอสามสายของญี่ปุ่น) มาใช้ในละครหุ่นเชิด
วิธีเพลิดเพลินไปกับละครหุ่นเชิด

Bunrakuคือการสืบทอดเทคนิคศิลปะโดยการนำเรื่องราวหรือตำนานที่เล่าสืบๆกันมาตั้งแต่สมัยเอโดะมาแสดง โดยจะใช้ภาษาโบราณซึ่งอาจจะเข้าใจยาก โดยในโรงละครจะมีโบชัวร์ที่บรรยายเนื้อหาเรื่องราว และคำศัพท์อธิบายไว้มีบทบรรยายบนหน้าจอ และหูฟังไกด์ที่สามารถใช้ฟังคำอธิบายที่ชัดเจนได้เตรียมเอาไว้ให้ด้วย
บทบาทการแสดงในละครหุ่นเชิดญี่ปุ่น

ละครหุ่นเชิดญี่ปุ่นถูกแบ่งออกเป็น "Jidaimono" ที่เป็นเรื่องราวช่วงก่อนยุคเอโดะ (ค.ศ. 1603-1868) "Sewamono" ที่กล่าวถึงเรื่องราวของประชาชนทั่วไป และ "Keiji" ที่เน้นดนตรีเป็นองค์ประกอบหลัก
โดยตัวอย่างผลงานที่โดดเด่นของ Jidaimono ก็คือ "Yoshitsune Senbonzakura (โยชิสุเนะกับต้นซากุระพันต้น)" ส่วนของ Sewamono จะเป็น "Sonesaki Shinjuu (การฆ่าตัวตายเพราะรักของโซเนะซากิ)" และ Keiji ก็จะมี "Gojobashi (สะพานห้าเส้น)" เป็นต้น
หารแสดงละครหุ่นเชิด หาดูได้ที่ไหน?

นอกจากในโอซาก้าแล้ว ละครหุ่นเชิดญี่ปุ่นยังถูกนำไปจัดแสดงตามโรงละคร หรือฮอลล์ต่าง ๆ ในหลากหลายพื้นที่ และใน "โรงละครหุ่นเชิดแห่งชาติ" ที่อยู่ใจกลางเมืองโอซาก้า ก็สามารถรับชมการแสดงพื้นบ้านของญี่ปุ่นที่เรียกว่า
“ละครโน" ไปพร้อมกันได้ด้วยเช่นกัน
*Prices and options mentioned are subject to change.
*Unless stated otherwise, all prices include tax.
Recommended places for you
-
Jukuseiniku-to Namamottsuarera Nikubaru Italian Nikutaria Sannomiya
Izakaya
Kobe, Sannomiya, Kitano
-
Kambei Sannomiyahonten
Yakiniku
Kobe, Sannomiya, Kitano
-
ISHIDAYA Hanare
Yakiniku
Kobe, Sannomiya, Kitano
-
Goods
Yoshida Gennojo-Roho Kyoto Buddhist Altars
Gift Shops
Nijo Castle, Kyoto Imperial Palace
-
Kanzenkoshitsuyakinikutabehodai Gyugyu Paradise Sannomiya
Yakiniku
Kobe, Sannomiya, Kitano
-
Appealing
Rukku and Uohei
Izakaya
Sapporo / Chitose
-
สามารถอร่อยกับเครื่องดื่มแอลกอฮอล์และอาหารได้ง่ายๆ! ด้วยภาษาญี่ปุ่นที่ใช้บ่อยๆ ในร้าน “อิซากายะ” สถานที่ที่ควรไปเมื่อมาเที่ยวประเทศญี่ปุ่น
-
5 จุดแนะนำสำหรับท่องเที่ยวมือเปล่ารอบ ๆ นาริตะ เหมาะกับเวลาว่างก่อนหรือหลังขึ้นเครื่อง!
-
เส้นทางยอดนิยมสำหรับท่องเที่ยวอะตะมิ
-
กูรูด้านอาหารต้องรู้! รวมคำศัพท์ “เฉพาะเกี่ยวกับอาหารญี่ปุ่น” ที่สามารถใช้ได้ในร้านอาหาร
-
[MOVIE] ไปดูโชว์แล่ปลามากุโร่และลิ้มรสปลาสดๆแล่ใหม่ๆกันเถอะ!
-
ไม่ต้องไปไกลถึงฟุคุโอกะ ก็ทานราเม็งซุปกระดูกหมูสูตรเด็ดในโตเกียวได้!
-
พืชและสัตว์กว่า 3,000 ชนิดที่อาศัยอยู่รอบบริเวณป่าของศาลเจ้าเมจิ
-
นั่งรถไฟจากสนามบินแค่ 10 นาที! เดินเล่นหน้าวัด “Naritasan Shinshoji”
-
5 วิธีสนุกที่รปปงหงิฮิลส์
-
การเดินทางจากสนามบินนาริตะ มาประเทศญี่ปุ่นครั้งแรกก็ไม่มีปัญหา!
-
มนุษย์ญี่ปุ่นก็เป็นอย่างนี้แหละ! มาเรียนรู้สิ่งที่คนญี่ปุ่นชอบทำกัน
-
วัฒนธรรมโอะฟุโระ (การแช่น้ำร้อนญี่ปุ่น) และวิธีการใช้โอะฟุโระ