เราทราบกันอยู่แล้วว่า การเปลี่ยนแปลงของฤดูกาลมีความเกี่ยวข้องกับ
การเคลื่อนที่ของโลกและพระอาทิตย์ ซึ่งโลกจะหมุนรอบตัวเองหนึ่งครั้ง
ต่อวัน และโคจรรอบดวงอาทิตย์หนึ่งรอบโดยใช้เวลาหนึ่งปี แต่ถึงอย่างนั้น
เนื่องจากโลก (แกนโลก) โคจรรอบดวงอาทิตย์ในลักษณะที่เอียงเล็กน้อย
จึงเป็นเหตุทำให้พื้นที่ต่าง ๆ ได้รับความร้อนจากดวงอาทิตย์แตกต่างกันไป
ด้วยประการนี้เอง ทำให้ฤดูกาลเกิดขึ้นและหมุนเวียนไปทุก ๆ รอบปีของ
วงโคจรจนทำให้เกิดฤดูกาลทั้งสี่ขึ้นมาในที่สุด
เราจึงสามารถเพลิดเพลินไปกับฤดูกาลที่แตกต่างกันตามแต่ละพื้นที่และ
ยังเปลี่ยนแปลงตลอดทั้งปีในหมู่เกาะญี่ปุ่นที่มีลักษณะยาวเป็นแนวตั้งนี้

เหตุที่ฤดูกาลทั้งสี่ของญี่ปุ่นแตกต่างกันอย่างชัดเจนนั้น เนื่องมาจากมี
ภูมิประเทศที่ห้อมล้อมไปด้วยทะเล ทำให้ในฤดูหนาวจะได้รับอิทธิพล
จากกระแสน้ำในมหาสมุทรเกิดลมตะวันตก, มีลมตะวันออกเฉียงใต้ใน
ช่วงฤดูร้อนและลมประจำฤดูต่าง ๆ ที่พัดเข้ามา อีกทั้งยังกล่าวได้อีกว่า
เป็นพื้นที่ที่มีความเปลี่ยนแปลงของมวลอากาศบริเวณเส้นละติจูดกลาง
อย่างชัดเจน

"ดอกซากุระ" เป็นสิ่งที่คนญี่ปุ่นชื่นชอบอย่างมาก และที่ประเทศญี่ปุ่นนั้น
ยังมีธรรมเนียมการพยากรณ์ช่วงเวลาการบานของดอกซากุระในพื้นที่
ต่าง ๆ อีกด้วย ลักษณะของเส้นแบ่งที่อยู่บนแผนที่ตามจุดต่าง ๆ ของ
พื้นที่ที่ดอกซากุระบานในวันเดียวกันนั้นดูเหมือนกับเส้นแบ่งภูมิอากาศ
ที่อยู่บนแผนภาพอากาศอย่างมาก ด้วยเหตุนี้จึงทำให้เรียกกันว่า
"แนวดอกซากุระบาน" หรือ "เส้นแบ่งสภาพอากาศตามดอกซากุระ"

"ภูมิแพ้เกสรดอกไม้" เป็นอาการภูมิแพ้เกสรต้นสนญี่ปุ่นที่ทำให้คนญี่ปุ่น
จำนวนมากต้องกังวลในช่วงฤดูใบไม้ผลิ แต่ถึงอย่างนั้น ว่ากันว่าที่จังหวัด
โอกินาว่า มีคนเป็นโรคภูมิแพ้เกสรดอกไม้น้อยมาก ดูเหมือนจะเป็นเพราะ
สภาพอากาศที่โอกินาว่าเป็นภูมิอากาศแบบร้อนชื้นตลอดทั้งปี ทำให้แทบ
จะไม่มีต้นสนญี่ปุ่นขึ้นเลยนั่นเอง

เมื่อมาญี่ปุ่นในช่วงระหว่างเดือนพฤษภาคม - เดือนกรกฎาคม ก็มักจะ
มีผู้ที่ประหลาดใจกับความชื้นของอากาศที่ให้ความรู้สึกเปียกชื้น
สภาพอากาศแบบนี้มีความเกี่ยวข้องกับปรากฏการณ์ธรรมชาติในช่วง
ระหว่างเปลี่ยนจากฤดูใบไม้ผลิไปสู่ฤดูร้อน ซึ่งจะทำให้มีฝนมากและ
ไม่ค่อยมีแสงแดด หรือที่เรียกว่า "สึยุ (หน้าฝน)" นั่นเอง
"ช่วงเข้าหน้าฝน" โดยเฉลี่ยแล้วจะมีช่วงเวลาการเปลี่ยนแปลงอยู่ที่
ประมาณ 5 วัน เมื่อจะเข้าสู่สภาพอากาศในช่วงนั้น จะเริ่มมีวันที่มีฝน
และเมฆมากเพิ่มขึ้นจากการพยากรณ์อากาศล่วงหน้าหนึ่งสัปดาห์
ซึ่งนับเป็นการเริ่มเข้าสู่ช่วงหน้าฝน เส้นแบ่งสภาพภูมิอากาศของช่วง
หน้าฝนจะแสดงว่าบริเวณใกล้ ๆ กับประเทศญี่ปุ่นฝนจะลดลง และเริ่ม
เปลี่ยนฤดูกาลเข้าสู่ฤดูร้อน ซึ่งเรียกว่า "ช่วงหมดหน้าฝน"
สภาพภูมิอากาศที่มีความชื้นและอุณหภูมิสูงที่เป็นลักษณะเด่นของ
ช่วงหน้าฝนจะปรากฏออกมาอย่างชัดเจนในเดือนมิถุนายนและกรกฎาคม

ที่ฮอกไกโดนั้นไม่มีช่วงหน้าฝน ซึ่งลักษณะเด่นของเส้นแบ่งสภาพภูมิอากาศ
ในช่วงหน้าฝนเกิดจากความรุนแรงของความกดอากาศสูง 2 ลูกที่พัด
ไปมาระหว่างทิศเหนือและทิศใต้ และถึงแม้จะเป็นการพัดจากโอกินาว่า
ขึ้นไปทางทิศเหนือ แต่ช่วงที่จะพัดเข้าสู่ฮอกไกโด ความกดอากาศสูง
จากมหาสมุทรแปซิฟิกก็จะรุนแรงขึ้น จึงทำลายแนวฝนตกให้หายไป

ฤดูร้อนของญี่ปุ่นจะมีความชื้นในอากาศสูง คงทำให้นักท่องเที่ยว
รู้สึกไม่สบายตัวอยู่บ่อยครั้งกับเหงื่อที่ไหลทั่วร่างกาย นั่นเป็นเพราะ
มีความเกี่ยวเนื่องกับ "ความกดอากาศสูงจากมหาสมุทรแปซิฟิก" นั่นเอง
ความกดอากาศสูงนี้ก่อตัวขึ้นเหนือมหาสมุทรแปซิฟิกซึ่งจะทำให้มีไอน้ำ
แทรกตัวอยู่ในอากาศมาก เมื่อเข้าสู่ฤดูร้อนมันจะเคลื่อนตัวไปทางเหนือ
และปกคลุมหมู่เกาะญี่ปุ่น และเนื่องจากมีลมจากทิศใต้ที่หอบอากาศร้อน
ชื้นจากมหาสมุทรแปซิฟิกพัดเข้ามาที่ญี่ปุ่นด้วย จึงทำให้ความชื้นในอากาศ
เพิ่มสูงขึ้น

ช่วงฤดูหนาว ในฮอกไกโดและภูมิภาคโทโฮะคุนั้น แม้ความหนาวเย็นจะ
รุนแรงมาก แต่ก็สามารถเพลิดเพลินไปกับวิวหิมะตกที่สวยงามได้ด้วยเช่นกัน
หิมะนั้นตกลงมาจากก้อนเมฆเป็นเพราะในก้อนเมฆมีหยดน้ำเล็ก ๆ
รวมตัวกันอยู่มากมาย ซึ่งหยดน้ำเล็ก ๆ ที่อยู่ในเมฆนั้น แม้แรกเริ่มจะ
เป็นเพียงก้อนน้ำแข็งชิ้นเล็ก ๆ แต่ไอน้ำที่อยู่ในบรรยากาศก็จะจับตัวกัน
และค่อย ๆกลายเป็นผลึกน้ำแข็งก้อนใหญ่ขึ้น เมื่ออุณหภูมิบนพื้นดินต่ำลง
กว่า 0 องศา และมีสภาพหนาวเย็นจัด ก็จะทำให้ผลึกน้ำแข็งบนฟ้าตกลงมา
โดยไม่ละลายและกลายเป็นหิมะในที่สุด

ว่ากันว่า ในสมัยก่อนผู้คนที่อาศัยอยู่รอบ ๆ ภูเขาไฟฟูจินั้น
พยากรณ์อากาศจากการดูก้อนเมฆที่อยู่บนภูเขาไฟฟูจิ
ยกตัวอย่างเช่น หากมีเมฆรูปร่างเหมือนร่มปกคลุมยอดภูเขาไฟอยู่นั้น
ในวันต่อมาจะมีฝนตก หากมีเมฆอยู่บริเวณตีนเขา ในวันต่อมาท้องฟ้า
จะแจ่มใส คนในสมัยก่อน ในช่วงที่ยังไม่มีเทคโนโลยีการพยากรณ์อากาศ
ก็จะใช้ภูมิปัญญาการดูภูเขาไฟฟูจิเพื่อคาดเดาอากาศแทน

ที่ประเทศสหรัฐอเมริกาจะตั้งชื่อพายุไต้ฝุ่นเป็นชื่อผู้หญิงมาโดยตลอด
จนถึงปัจจุบัน ว่ากันว่าสาเหตุเริ่มต้นมาจากอารมณ์ขันของทหารเรือและ
ทหารอากาศที่ออกตรวจพายุไต้ฝุ่นในสมัยนั้น พวกเขาจะตั้งชื่อพายุไต้ฝุ่น
ตามชื่อภรรยาหรือคนรัก ซึ่งเป็นการเรียกพายุอย่างสนิทสนมนั่นเอง
แต่ตั้งแต่ ค.ศ. 2000 เป็นต้นมา ก็เริ่มมีการตั้งชื่อเรียกเฉพาะขึ้นเพื่อ
ใช้เรียกพายุไต้ฝุ่นที่เกิดภายในเขตพื้นที่เดียวกันในบริเวณมหาสมุทร
แปซิฟิกฝั่งตะวันตกเฉียงใต้และแถบทะเลจีนใต้ จึงทำให้ญี่ปุ่นเริ่มนับพายุ
ลูกแรกที่เกิดหลังวันที่ 1 เดือนมกราคมของทุก ๆ ปีว่า ไต้ฝุ่นหมายเลข 1
และเรียกพายุที่เกิดหลังจากนั้นตามลำดับ