“มิตซุยเอาท์เล็ตพาร์ค ท่าเรือเซ็นได” คือเอาท์เล็ตขนาดใหญ่ที่สุดในภูมิภาคโทโฮคุที่มีร้านค้าร่วม 120 ร้าน เป็นแหล่งช้อปปิ้งที่ตั้งอยู่ระหว่าง “สนามบินเซ็นได” ที่เป็นประตูสู่เซ็นไดทางอากาศกับ “มัตสึชิมะ” สถานที่ท่องเที่ยวที่ได้รับการคัดเลือกโดยมิชลิน กรีน ไกด์ เจแปน ที่นี่จึงเป็นตัวช่วยทำให้วางแผนเตรียมแหล่งช้อปปิ้งในทริปได้ง่าย เหมาะกับการช้อปปิ้งพร้อมกับเด็ก ๆ ด้วย เพราะมีชิงช้าสวรรค์ และสวนสนุกจัดเตรียมไว้ให้บริการ และเมื่อเดินเท้าไปอีกประมาณ 10 นาทีก็จะพบกับ “พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำเซ็นได อุมิ โนะโมริ” ที่น่าไปเยือนในคราวเดียวพร้อม ๆ กันเลย

หากเดินทางด้วยรถยนต์ จะใช้เวลาประมาณ 30 นาทีจากสถานี JR เซ็นได โดยใช้ถนนหมายเลข 45 หรือใช้เวลาประมาณ 20 นาทีจากสนามบินเซ็นไดโดยวิ่งถนนเส้นโทบุ และเนื่องจากวันเสาร์-อาทิตย์รถค่อนข้างติด จึงขอแนะนำให้นั่งรถไฟหรือรถบัสจะสะดวกกว่า มีรถบัสด่วนจากสนามบินเซ็นไดไปยังมัตสึชิมะ และฮิราอิซึมิ มรดกโลกในจังหวัดอิวาเตะโดยผ่านมิตซุยเอาท์เล็ตพาร์ค ท่าเรือเซ็นได ให้บริการทุกวัน หากต้องการเดินทางโดยรถไฟ ขึ้นสาย Sendai Airport Access Line ไปยังสถานี JR เซ็นได จากนั้นต่อสาย JR เซ็นเซกิ ใช้เวลาประมาณ 18 นาทีจากสถานี JR เซ็นได ลงสถานีนากาโนะซาคาเอะ และเดินเท้าต่ออีกประมาณ 8 นาทีก็จะถึง และยังมีรถบัสไปถึงห้างจากสถานี JR เซ็นไดและสถานีอาราอิ ของรถไฟใต้ดินเทศบาลเมืองเซ็นไดสายโทไซให้บริการด้วย

ที่มิตซุยเอาท์เล็ตพาร์ค ท่าเรือเซ็นได มีแบรนด์ยอดนิยมทั้งในญี่ปุ่นและต่างประเทศมากมาย ตั้งแต่แบรนด์หรูจนถึงแบรนด์แคชชวล จุดเด่นข้อนึงของที่นี่ก็คือมีร้านสินค้าเอาท์ดอร์ และร้านอุปกรณ์กีฬาเยอะมาก ลองไปดู 5 แบรนด์ที่น่าสนใจกันเลย

แซมโซไนท์ คือแบรนด์กระเป๋าเดินทางอันดับหนึ่งของโลก ที่มิตซุยเอาท์เล็ตพาร์ค ท่าเรือเซ็นได มีไอเทมที่เหมาะกับทุกไลฟ์สไตล์ ไม่ว่าจะเป็นกระเป๋าเดินทาง, กระเป๋าทำงานกระเป๋าลำลองต่าง ๆ เตรียมไว้ให้คุณช้อปปิ้งได้เต็มที่

เรย์-แบน แบรนด์แว่นตาและแว่นกันแดดที่มีต้นกำเนิดจากพันอากาศเอกของอเมริกา โด่งดังในเรื่องดีไซน์และความสามารถในการป้องกันรังสี UV เป็นที่รู้จักเพราะเป็นไอเทมลูกรักของบรรดาคนดังระดับโลกหลายคน

เป็นร้านขายอุปกรณ์เอาท์ดอร์แบรนด์ เดอะ นอร์ท เฟส กับเสื้อผ้ากีฬาแบรนด์เฮลลี แฮนเซ่น ที่มีทั้งฟังก์ชันการใช้งานดีเลิศ และยังเหมาะกับใช้ในชีวิตประจำวันได้ด้วย
จึงเป็นที่ชื่นชอบของทุกเพศทุกวัย

มองต์เบลล์เป็นแบรนด์อุปกรณ์เอาท์ดอร์ เช่น อุปกรณ์ปีนเขา สัญชาติญี่ปุ่น ในร้านมีมุมเอาท์เล็ตให้ช้อปสินค้าเอาท์ดอร์ดี ๆ ในราคาที่น่าสนใจ

ASICS แบรนด์รองเท้ากีฬายอดนิยมระดับโลก มีทั้งรองเท้าวิ่ง รองเท้าสำหรับเดิน ฯลฯ มีตั้งแต่สินค้าสำหรับมือใหม่ไปจนถึงสำหรับระดับนักกีฬา และยังมีเสื้อผ้าด้วย อย่าลืมไปเช็กดูกันนะ

เดินจนหิวแล้วก็ไปศูนย์อาหารที่มีของอร่อยชื่อดังประจำภูมิภาคโทโฮคุกัน มีทั้งร้านลิ้นวัวย่างอาหารขึ้นชื่อเมืองเซ็นได และร้านข้าวหน้าปลาดิบที่ใช้ปลาสด ๆ และอื่น ๆ อีกมากมายให้ได้เพลิดเพลินกับรสชาติแห่งโทโฮคุ และอย่าลืมแวะไปลองร้านขนมปังที่กำลังเป็นที่พูดถึง ที่เปิดไปเมื่อปีค.ศ. 2018 ด้วยนะ! ขนมปังนุ่ม ๆ เจ้านี้ขายดีชนิดที่ทำออกมาก็หมดเกลี้ยงแบบต่อเนื่องเลย

ร้านข้าวหน้าปลาดิบโดยเฉพาะของร้านขายปลา เมนูแนะนำก็คือข้าวหน้าของทะเล “ไคเซ็นด้ง” ที่เต็มไปด้วยปลาดิบอย่าง มากุโรสด ๆ กุ้งเด้ง ๆ ไข่ปลาแซลมอนเงาใสปิ๊ง จัดมาเน้น ๆ จนมองไม่เห็นข้าวด้านล่างเลย ในราคาเพียงแค่ 1,380 เยน (รวมภาษีแล้ว) เท่านั้น ที่นี่เราจะได้ทานข้าวหน้าปลาดิบที่ร้านขายปลาผู้เชี่ยวชาญเรื่องปลาสดเป็นคนเลือกคัดสรรมาให้ในราคาที่สมเหตุสมผล

ร้านเบเกอรี่พร้อมคาเฟ่ที่ดูแลโดย “โฮชิยามะ คอฟฟี่” ร้านกาแฟเก่าแก่ของเซ็นได ในหนึ่งวันจะมีขนมปังอบเสร็จใหม่ ๆ จากเตาในร้านออกมาหลายรอบเรียงรายกว่า 30 ชนิด ที่ขึ้นชื่อที่สุดได้แก่ “ขนมปังสด ‘จุนนามะ’ ” ขนมปังนุ่มฟูแต่เนื้อแน่นที่มีกระบวนการทำสุดพิถีพิถัน ราคา 2 ก้อนอยู่ที่ 800 เยน (รวมภาษีแล้ว) รสชาติเข้มข้นจากนม เนย และนมข้นหวาน ทำให้หลายคนติดใจจนมีทาสรักของขนมปังนี้เพิ่มขึ้นทุกวันเลยล่ะ

เมื่อมาถึงเอาท์เล็ตแล้วที่สะดุดตาที่สุดก็คงจะไม่พ้นชิงช้าสวรรค์ขนาดใหญ่ที่มีความสูงมากกว่า 50 เมตรที่มีชื่อว่า “พอร์ต ฟลาวเวอร์” ค่าขึ้นนั่ง 600 เยน (รวมภาษีแล้ว) กระเช้าชิงช้าสวรรค์จะค่อย ๆ ลอยขึ้นไปอย่างช้า ๆ ประมาณ 13 นาที ก็จะสามารถมองเห็นทิวทัศน์ของท่าเรือเซ็นไดและภูเขาต่าง ๆ ที่อยู่ไกล ๆ ได้ พื้นที่ด้านล่างของชิงช้าสวรรค์เป็น “สวนสนุก” ที่มีเครื่องเล่นรูปตัวการ์ตูน สนุกกันได้ทั้งครอบครัวตลอดทั้งวันเลยทีเดียว

มิตซุยเอาท์เล็ตพาร์ค ท่าเรือเซ็นได มีบริการสำหรับนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติที่มาเที่ยวญี่ปุ่นอย่างครบครัน มีการแจกคูปองส่วนลดให้กับลูกค้าชาวต่างชาติที่ใช้บริการทัวร์ หรือรถบัสด่วนจากสนามบินเซ็นได และยังมีร้านปลอดภาษีเยอะมาก สำหรับร้านที่ไม่มีการงดเว้นภาษีก็มีโอกาสได้รับส่วนลดเมื่อแสดงพาสปอร์ต อีกทั้งบางช่วงมีจัดโปรโมชั่นแจกบัตรส่วนลดให้กับผู้ถือบัตรเครดิต SCB, บัตรเครดิตกรุงศรีของไทย, บัตรเครดิต UOB ของสิงคโปร์ด้วย
อย่าลืมเช็กข้อมูลโปรโมชั่นและบริการต่าง ๆ ทางเว็บไซต์ก่อนออกไปช้อปกันนะ

ไดอิซึมิ พรีเมี่ยม เอาท์เล็ต ตั้งอยู่ในย่านที่อยู่อาศัยชานเมืองเซ็นได เป็นอาคารที่มีรูปแบบเหมือนเมืองทางตะวันออกเฉียงเหนือของอเมริกา ให้คุณได้เดินช้อปปิ้งในบรรยากาศที่เหมือนอยู่ในรีสอร์ต อยู่ห่างจากสถานี JR เซ็นไดเพียงประมาณ 30 นาทีหากเดินทางด้วยรถยนต์ ในศูนย์การค้า “อิซึมิพาร์คทาวน์ ทาปิโอะ” ที่อยู่ติดกัน มีศูนย์อาหารและภัตตาคารครบครัน และมีดรักสโตร์ด้วย ศูนย์การค้านี้เชื่อมกับเอาท์เล็ตด้วยสะพาน สามารถไปมาได้สะดวกในระหว่างการช้อปปิ้ง

หากขับรถจากสนามบินเซ็นได ขึ้นทางด่วนจะใช้เวลาประมาณ 40 นาที แต่ถ้าหากมาจากบริเวณสถานี JR เซ็นไดประมาณ 30 นาทีก็จะถึง หากต้องการเดินทางโดยรถไฟหรือรถบัส ระหว่างสนามบินเซ็นไดกับสถานี JR เซ็นไดให้ขึ้นสาย Sendai Airport Access Line และเปลี่ยนต่อรถไฟใต้ดินเทศบาลเมืองเซ็นไดสายนัมโบคุที่สถานี JR เซ็นได ประมาณ 25 นาที ไปถึงสถานีรถไฟใต้ดินสถานีอิซึมิจูโอ จากนั้นขึ้นรถบัสโดยสารประจำทางหรือแท็กซี่ จากสถานีใช้เวลาประมาณ 20 นาทีก็จะถึงเอาท์เล็ต

ขอแนะนำแบรนด์เด็ด ๆ ในไดอิซึมิ พรีเมี่ยม เอาท์เล็ต ที่มีทั้งร้านซีเล็คท์ช็อปของแบรนด์เสื้อผ้าแนวแคชชวล, ร้านอุปกรณ์กีฬายอดนิยมทั้งในญี่ปุ่นและต่างประเทศ, ร้านขายเสื้อผ้าเด็กโดยเฉพาะที่มีแต่ของน่ารักเต็มไปหมดจนเลือกไม่ถูกกันเลย

บีมส์เป็นร้านซีเล็คท์ช็อปเสื้อผ้า ซึ่งมีช็อปเอาท์เล็ตแค่ที่นี่ที่เดียวในโทโฮคุ มีสินค้าออริจินัลของเฉพาะที่เอาท์เล็ตเยอะด้วยนะ มีครบทั้งชุดลำลองที่ใช้ได้ในชีวิตประจำวัน และชุดเป็นทางการที่ใช้ทำงานหรือใส่ทำธุรกิจได้ ของทั้งผู้ชายและผู้หญิงให้เลือกสรร

ไนกี้ เป็นแบรนด์รองเท้าผ้าใบและชุดกีฬาจากอเมริกา โด่งดังด้วยรองเท้าสุดฮิตระดับโลกอย่างไนกี้ แอร์แม็กซ์ และแอร์จอร์แดนอันเป็นสัญลักษณ์แห่งยุคสมัย ซึ่งในหมู่เอาท์เล็ตมี “ร้านล้างสต๊อก” ที่จะได้พบกับรองเท้าและเสื้อผ้าต่าง ๆ ได้ในราคาลดกระหน่ำขั้นสุดท้ายแบบนี้เพียงแค่ 2 ร้านในญี่ปุ่นเท่านั้น

อาดิดาส แบรนด์สินค้ากีฬาสัญชาติเยอรมันที่โด่งดังในระดับสากล ข้อดีของสาขานี้คือ นอกจากพวกรองเท้าที่เป็นที่นิยมมากในญี่ปุ่นแล้ว ก็ยังมีชุดออกกำลังกาย เสื้อผ้ากีฬาที่ครบถ้วนทั้งด้านฟังก์ชั่นและด้านดีไซน์ให้เลือกมากมาย

กุลเซ่ แบรนด์ผลิตภัณฑ์ชุดชั้นในเนื้อดีใส่สบายและมีรูปแบบการใช้งานดีเยี่ยมที่ได้รับความนิยมมากในประเทศญี่ปุ่น ที่เอาท์เล็ตนอกจากพวกชุดชั้นในแล้ว ยังมีถุงน่องและถุงเท้ามากมายหลากหลายชนิด ในราคาที่น่าสนใจให้เลือกเยอะมาก เหมาะกับซื้อเหมาในช่วงฤดูกาลต่าง ๆ

แบรนด์เสื้อผ้าเด็กแนวโรแมนติกน่ารัก นอกจากเสื้อผ้าแบบลำลองของเด็กแล้ว ยังมีเสื้อผ้าที่ใช้ใส่แบบทางการของเด็กด้วยนะ

ไดอิซึมิ พรีเมี่ยม เอาท์เล็ตมีทั้งคาเฟ่และร้านของหวานที่เหมาะกับไปแวะพักระหว่างการช้อปปิ้งอยู่มากมาย มีแต่ร้านสวย ๆ เก๋ ๆ ทั้งนั้น แวะไปนั่งเล่นใช้ช่วงเวลาดี ๆ ได้เลยล่ะ

แบรนด์ช็อกโกแลตที่ถือกำเนิดที่สวิตเซอร์แลนด์ปีค.ศ.1845 ที่ตอนนี้เป็นที่นิยมมีวางขายกว่า 120 ประเทศทั่วโลก สามารถไปซื้อช็อกโกแลต โดยเลือกรสชาติพื้นฐานอย่างมิลค์ช็อกโกแลต หรือรสชาติตามฤดูกาลได้ตามใจชอบ ใส่ถุงแล้วช่างน้ำหนักได้เลย มีเครื่องดื่มช็อกโกแลตและไอศกรีมซอฟต์ครีมด้วย แวะไปฟินกับของหวานที่มีกลิ่นหอมของคาเคาชั้นดี ที่พื้นที่นั่งทานในร้านกันเถอะ

คาเฟ่ที่มีต้นกำเนิดในซีแอตเทิล เสิร์ฟกาแฟสุดพิเศษที่ชงอย่างพิถีพิถันทุก ๆ แก้ว นอกจากกาแฟแล้วก็ยังมีชา ลาเต้เต้นมถั่วเหลือง เครื่องดื่มปั่นและน้ำผลไม้ให้เลือกมากมาย นอกจากเครื่องดื่มแล้วก็ยังมีอาหารเที่ยง เช่น แซนด์วิช หรือขนมอย่างแพนเค้กให้เลือกทานด้วย

อาคารศูนย์การค้าที่เชื่อมต่อกับไดอิซึมิ พรีเมี่ยม เอาท์เล็ตด้วยสะพานก็คืออิซึมิพาร์คทาวน์ ทาปิโอะนั่นเอง ที่นี่มีร้าน “bene posto” ขายเสื้อผ้าเอาท์ดอร์และเสื้อผ้าลำลอง ร้านขายของจุกจิกแนวธรรมชาติ “โมคุชิโด” ฯลฯ มีหลายร้านที่เหมาะกับการจับจ่ายช้อปปิ้งทั่วไป และร้านที่มีสินค้าสำหรับเลือกซื้อเป็นของขวัญหรือของฝากได้ง่ายก็มีอยู่เยอะเลย

นอกจากนี้ยังมีร้านอาหารและร้านกาแฟมากมาย โดยเฉพาะในศูนย์อาหารที่มีข้อดีตรงที่สามารถแวะไปทานได้ง่ายระหว่างเดินช้องปิ้ง หากเดินซื้อของจนเหนื่อยแล้ว ก็แวะไปฟินกับช่วงของหวานด้วยเครปแสนนุ่มราวกับจะละลายได้ที่ “MOMI&TOY'S” กันได้นะ

ก่อนอื่นแวะไปที่ประชาสัมพันธ์กันก่อนเลย คุณจะได้รับคูปองส่วนลดสำหรับนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติที่แสดงพาสปอร์ต และจะได้ช้อปปิ้งในราคาที่ถูกลงจากราคาของเอาท์เล็ตที่ถูกอยู่แล้วลงไปอีก นอกจากนี้ สามารถเช็กร้านที่ให้จ่ายด้วยบัตรกินเร็นของจีน และร้านค้าปลอดภาษีได้ที่เว็บไซต์ทางการ ที่มีบริการทั้งภาษาอังกฤษ ภาษาจีน ภาษาเกาหลีและภาษาไทยได้เลย

อิออนมอลล์ นาโทริ เป็นศูนย์การค้าขนาดใหญ่ที่สุดในโทโฮคุ จุดเด่นคือมีร้านค้าหลากหลายประเภทที่ไม่ว่าใครก็สามารถสนุกได้

หากเดินทางมาทางรถไฟ สถานีที่ใกล้ที่สุดก็คือ “สถานีโมริเซกิโนะชิตะ” ซึ่งเชื่อมต่อกับอิออนเลย จากสถานีเซ็นไดกับสนามบินเซ็นไดสามารถขึ้นสาย Sendai Airport Access Line มาถึงได้โดยไม่ต้องต่อรถ จึงเหมาะกับการแวะช้อปปิ้งระหว่างท่องเที่ยวมาก ในศูนย์การค้ามีล็อกเกอร์หยอดเหรียญขนาดใหญ่สำหรับเก็บกระเป๋าเดินทางไว้บริการอยู่ทุกชั้น จึงสามารถเดินเที่ยวในศูนย์การค้าอย่างตัวเบาสบายได้ ศูนย์การค้ามีขนาดกว้างใหญ่ แม้จะเป็นวันที่ฝนตกก็สามารถเดินเล่นอยู่ภายในตัวอาคารได้ทั้งวันโดยไม่รู้เบื่อเลยล่ะ

ร้านค้ายอดฮิตของนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติในอิออน นาโทริจะได้แก่ อิออน, ยูนิโคล่, โคจิม่า x บิ๊ก คาเมร่า, มูจิ (มูจิรูชิ เรียวฮิน) เป็นต้น ร้านอุปกรณ์กีฬาอย่าง สปอร์ต ออโธริตี้ หรือ มูราซากิ สปอร์ตก็เป็นที่นิยมเช่นกัน

ส่วนใหญ่สินค้าจากร้านแบรนด์แฮปปิเนส หรือเครื่องสำอางไม่ใส่สารเคมีผสมยี่ห้อฟังเคล จะถูกเลือกซื้อเป็นของฝากบ่อย ๆ แต่ถ้าหากอยากได้ของแบบญี่ปุ่นแท้ ๆ แล้วก็ขอแนะนำร้านของจุกจิกญี่ปุ่น “วาโมโนยะ คายะ” ที่สามารถหาซื้อสินค้าแบบญี่ปุ่นแท้ ๆ สวย ๆ ได้ในราคาที่ไม่แพง

ไดร์เป่าผมรุ่นล่าสุดที่วางขายที่ร้านขายเครื่องใช้ไฟฟ้าโคจิม่า x บิ๊ก คาเมร่า เป็นสินค้าที่ได้รับความนิยมมาก มีฟังก์ชั่นการใช้งานที่ยอดเยี่ยมตามแบบฉบับเครื่องใช้ไฟฟ้าญี่ปุ่น และร้านนี้สามารถซื้อสินค้าแบบปลอดภาษีได้ด้วย อย่าลืมไปทำเรื่องขอคืนภาษีกันนะ!

นอกจากนี้ก็ยังมีร้านขายแว่นปลอดภาษี ร้าน Zoff กับร้านแว่นตาปารีส มิกิ ร้านจิวเวลรี่ TSUTSUMI เครื่องสำอาง Cosmeme

ช้อปเพลินจนของเยอะเกินไปก็สามารถใช้บริการไปรษณีย์ที่อยู่ในห้างได้เลย สามารถส่งของได้น้ำหนักสูงสุด 30 กิโลกรัม ไปยังพื้นที่หรือประเทศต่าง ๆ ได้กว่า 120 ประเทศทั่วโลก ด้วยบริการไปรษณีย์ด่วนระหว่างประเทศ EMS มีการรับประกันฟรีมูลค่า 20,000 เยน และยังสามารถเลือกเพิ่มประกันความเสียหายได้มูลค่าสูงสุด 2 ล้านเยนตามแต่ค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม (สินค้าปลอดภาษีจำเป็นจะต้องนำเข้าประเทศผ่านทางสนามบินเท่านั้น)

ถ้าจะซื้อของฝากของเซ็นได ซูเปอร์มาร์เก็ตในอิออนมีทั้งของท้องถิ่นและสุราวางขายในราคาไม่แพง หากชื่นชอบอาหารญี่ปุ่นแนะนำให้ไปหาซื้อเครื่องปรุงและวัตถุดิบทำอาหารญี่ปุ่นที่ร้านคุเซฟุกุ หรือไปหาซื้อวัตถุดิบจากทั่วโลกและวัตถุดิบไม่เหมือนใครจากผู้ผลิตในญี่ปุ่นได้ที่ร้านคาลดี คอฟฟี่ ฟาร์ม

หาชอบของหวานแนะนำร้านขนมคาโชซันเซ็น มีขนมดังของเซ็นได “ฮากิ โนะ สึกิ” ที่คนญี่ปุ่นส่วนใหญ่รู้จักดี เป็นขนมคาสเทลลานุ่ม ๆ สอดไส้คัสตาร์ดครีมเน้น ๆ อร่อยจนชิ้นเดียวไม่พอ และขอแนะนำร้านคิคุซุยอัน NAGOMI ให้กับคนรักครีมสด คิคุฟุกุ เป็นไดฟุกุสอดไส้ถั่วกวนบดและวิปครีม นุ่มนิ่มอร่อยมาก ๆ คิคุฟุกุไส้ครีมสดถั่วแระญี่ปุ่นมีไปปรากฏในอนิเมะ “Jujutsu Kaisen มหาเวทย์ผนึกมาร” ด้วยนะ

ถ้าพูดถึงเซ็นได ก็ต้องนึกถึงลิ้นวัวของขึ้นชื่อ ซึ่งวิธีทานแบบเซ็นไดคือจะนำไปจุ่มเกลือหรือเต้าเจี้ยวมิโสะ สามารถไปหาทานลิ้นวัวของแท้แบบเซ็นไดได้ที่ร้านฟุกุสึเกะ ส่วนใครที่อยากทานราเมนอร่อย ๆ ก็ต้องนี่เลย! เอจิโกะฮิโซเมน มูจินโซ เส้นราเมนลื่น ๆ นุ่มหนุบ ที่ทำขึ้นด้วยกระบวนการโดยเฉพาะของทางร้านที่จดลิขสิทธิ์ไว้ด้วย รับรองว่าอร่อยเหาะ และใครอยากทานอาหารญี่ปุ่นก็ขอแนะนำร้านโกโคคุ ไปทานอาหารชุดที่มีกับข้าวสุดอร่อยมาพร้อมข้าวและซุปมิโสะร้อน ๆ กันได้เลย

ร้านอาหารในอิออนมอลล์ นาโทริ มีตัวอย่างอาหารจำลองวางไว้เพื่อให้นึกภาพอาหารออกได้ง่าย ๆ และในเมนูก็ยังมีรูปประกอบเยอะมาก ดังนั้นลูกค้าชาวต่างชาติสามารถสั่งอาหารได้ง่ายดาย เพียงแค่ชี้รูปของอาหารที่ต้องการในเมนูก็พอแล้ว ในศูนย์อาหารมีเก้าอี้สำหรับเด็กด้วย เด็ก ๆ จะได้อร่อยกับมื้ออาหารบนเก้าอี้ที่มีขนาดเหมาะสมกับตัวเอง

ในอิออนมอลล์ นาโทริ มีร้านของหวานและคาเฟ่ของท้องถิ่นมิยากิให้ได้ไปลิ้มรสกัน ขอแนะนำเครื่องดื่มซุนดะเชค ที่อัดแน่นไปด้วยวัตถุดิบที่เป็นอาหารเพื่อสุขภาพอย่าง ถั่วแระญี่ปุ่นของร้านขนมคาโชซันเซ็น ที่ทั้งอร่อยและดีต่อสุขภาพมาก ๆ และร้านคิคุซุยอัน NAGOMI นั้น ที่จริงแล้วบริหารโดยร้านชาเก่าแก่ จึงมีชาเขียวอร่อย ๆ และไอศกรีมซอฟต์ครีมชาเขียว ให้ได้ทานกันอร่อยในพื้นที่นั่งทานในร้าน

ELLE's COFFEE ที่เพิ่งเปิดเป็นครั้งแรกในญี่ปุ่น มีจุดเด่นที่กาแฟอร่อยและโดนัทที่เพิ่งทอดเสร็จใหม่ ๆ และแซนด์วิชที่เพิ่งทำเสร็จสด ๆ ส่วนชิจิโนะ คาเฟ่ ที่ชั้น 2 ก็เป็นคาเฟ่ยอดนิยมของชาวท้องถิ่น เมนูที่ทางร้านภูมิใจนำเสนอก็คือพิซซ่าและแพนเค้กสุดอร่อย ในร้านยังมีพื้นที่สำหรับเด็กด้วยเหมาะกับลูกค้าที่มาเป็นครอบครัว

บริการสำหรับลูกค้าของอิออนมอลล์ นาโทริ
ที่อิออนมอลล์ นาโทริ มีพื้นที่ให้เด็กเล่นได้ฟรี (โมคุโมคุฮิโรบะ, อาโอโซระฮิโรบะ เป็นต้น) เตรียมไว้สำหรับลูกค้าที่มาศูนย์การค้าเป็นครอบครัว และยังมีรถเข็นตัวการ์ตูนให้คุณหนู ๆ ได้เดินทางในห้างอย่างสนุกสนาน อีกทั้งยังมีห้องน้ำสำหรับเด็กและห้องสำหรับทารกด้วย

ภายในห้างมีป้ายหลากหลายภาษา และมีการให้บริการลูกค้าด้วยหลากหลายภาษาที่เคาน์เตอร์ประชาสัมพันธ์ผ่านการใช้เครื่องแปลภาษา เพื่อเป็นการอำนวยความสะดวกให้กับลูกค้าชาวต่างชาติ ให้สามารถเดินเล่นจับจ่ายซื้อของได้อย่างสนุกสนานและสบายใจ

เนื่องจากศูนย์การค้าในเซ็นไดที่เราได้แนะนำไปในครั้งนี้ ทุกที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก ดังนั้นในวันเสาร์อาทิตย์และวันหยุดราชการ จึงค่อนข้างแน่นหนาไปด้วยผู้คน ลองคำนวณเวลาให้เดินทางไปถึงก่อนที่คนจะมาเยอะในช่วงมื้อกลางวัน จะได้มีล็อกเกอร์ว่างฝากกระเป๋า ก็จะทำให้ใช้เวลาในศูนย์การค้าได้สะดวกยิ่งขึ้น อีกทั้งไม่ว่าจะเป็นศูนย์การค้าไหนก็มีร้านค้าเยอะแยะมากมาย หากเราตรวจสอบและกำหนดเลือกร้านที่ต้องการจะไป ก่อนที่จะเดินทางไปถึง ก็จะไม่ต้องเดินวนหรือหลงจนเหนื่อยด้วยนะ! ใช้บริการเคาน์เตอร์ประชาสัมพันธ์ให้เต็มที่ และตรวจสอบจุดรับฝากของและบริการที่เป็นประโยชน์ต่อนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติก่อนออกเดินทางก็จะช่วยได้มากเลยล่ะ

ขอให้ทุกคนสนุกกับการช้อปปิ้งระหว่างเดินทางท่องเที่ยวกันนะ!

*เนื่องจากอยู่ในช่วงดำเนินมาตราการป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 วันหยุดทำการและเวลาทำการของร้านและสถานที่ต่าง ๆ อาจจะมีการปรับเปลี่ยนได้ หากต้องการข้อมูลใหม่ที่อัปเดทอย่างละเอียด โปรดตรวจสอบที่เว็บไซต์ของสถานที่นั้น ๆ

Text by: SHOE PRESs