ประเทศญี่ปุ่นเป็นประเทศที่มีภูเขาเป็นจำนวนมาก จึงทำให้มีหุบเขาและลำธารเกิดขึ้นมา
จากปรากฏการณ์ธรรมชาติเป็นจำนวนมาก เช่น ภูเขาไฟที่ยังไม่ดับและการกัดกร่อน เป็นต้น
โขดหินธรรมชาติที่มีรูปร่างไม่ซ้ำแบบ ซึ่งใช้เวลายาวนานหลายปีในการสร้างตัว
และน้ำใสที่ไหลต่อเนื่องมาตั้งแต่สมัยก่อนนั้น เป็นเสน่ห์ของหุบเขาและลำธารของประเทศญี่ปุ่น
นอกจากนี้ยังมีเสน่ห์มากมายที่จะแตกต่างกันไปตามแต่ละฤดูกาลอีกด้วย
เช่น ฤดูใบไม้ผลิที่เขียวขจี ฤดูร้อนที่จะทำให้รู้สึกถึงความเย็นสบาย ฤดูใบไม้ร่วงที่สามารถ
จะเพลิดเพลินกับเหล่าใบไม้เปลี่ยนสีได้ เป็นต้น

"ลำธารโอระเสะ" ในจังหวัดอาโอโมรินั้นมีความยาวถึง 14 กิโลเมตรและมีลักษณะเด่นตรงที่
มีน้ำตกอยู่ในระหว่างลำธาร "ลำธารอิริกาว่า" ที่อยู่ในจิจิบุจังหวัดไซตามะนั้น
ยังคงมี "ป่าดงดิบ" ที่มนุษย์ยังไม่ได้แตะต้อง และกลายเป็นสถานที่แห่งการผ่อนคลาย
ในเมืองโตเกียวที่เป็นเมืองหลวงของญี่ปุ่นก็มี "หุบเขาโทโดโรคิ" ที่สามารถเดินไปจาก
สถานี "โทโดโรคิ" สายโทคิวโอมาจิได้ภายใน 5 นาที

แน่นอนว่า "การเดินเขา" เป็นวิธีที่เหมาะสำหรับเดินเที่ยวในหุบเขาและลำธาร
และ "การล่องลำธาร" ที่นั่งเรือลำเล็ก ๆ ล่องไปตามลำธารก็มีชื่อเสียงด้วยเช่นกัน
แหล่งท่องเที่ยวสำหรับการล่องลำธารนั้นมีที่อื่นอีก เช่น "การล่องลำธารนากาโทโร่" เป็นต้น
นอกจากนี้ในลำธารก็ยังมีปลาแม่น้ำอย่าง "อิวานะ (ปลาเทราต์)"
และ "ยามาเมะ (ปลาชนิดหนึ่งในตระกูลแซลมอนญี่ปุ่น)" อาศัยอยู่ จึงทำให้มีการจัด "งานตกปลาลำธาร"
เพื่อไปตกปลาเหล่านั้นด้วย แต่เนื่องจากอาจต้องได้รับการอนุญาตในการตกปลาในลำธารก่อน
ดังนั้นควรตรวจสอบไว้ล่วงหน้า

ประเทศญี่ปุ่นเป็นประเทศเกาะที่ล้อมรอบไปด้วยทะเล และมีแม่น้ำสายเล็กกับสายใหญ่ไหลมาบรรจบกัน
และไหลลงสู่ทะเล ทะเลสาบก็มีหลากหลายประเภท ตั้งแต่ทะเลสาบธรรมชาติที่ล้อมรอบด้วยภูเขา
ไปจนถึงทะเลสาบที่ถูกสร้างขึ้นด้วยเขื่อน บริเวณ "โอคุตะมะ" ที่ตั้งอยู่ห่าง
จากเมืองโตเกียวโดยรถไฟประมาณ 2 ชั่วโมงนั้นมีทิวทัศน์ของเขื่อน
อีกทั้งยังสามารถชมทิวทัศน์ของทะเลสาบที่ถูกห้อมล้อมด้วยภูเขาอันสวยงาม
ที่จะเปลี่ยนแปลงไปตามแต่ละฤดูกาลได้อีกด้วย

ทะเลสาบที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในประเทศญี่ปุ่นคือ "ทะเลสาบบิวะ" ที่อยู่ในจังหวัดชิกะ
ซึ่งมีพื้นที่ขนาดประมาณ 670 ตารางกิโลเมตร นอกจากนี้ในบริเวณรอบ ๆ "ภูเขาฟูจิ"
ที่ครอบคลุมทั้งจังหวัดชิซุโอกะกับจังหวัดยามานาชินั้นก็มีทะเลสาบอีก 5 แห่ง
เช่น "ทะเลสาบโมโตสุ" และ "ทะเลสาบโชจิ" เป็นต้น อีกทั้งผู้คนก็คุ้นเคยกับทะเลสาบเหล่านี้ว่า
เป็น "ทะเลสาบทั้งห้าของฟูจิ"

สำหรับประเทศญี่ปุ่นที่มีสี่ฤดูนั้นจะมีทิวทัศน์สีสันของต้นไม้ที่เปลี่ยนแปลงไปตามแต่ละฤดูกาล
สามารถกล่าวได้ว่าวิธีการเพลิดเพลินกับสีที่ตัดกันของแม่น้ำทะเลสาบกับ
การเปลี่ยนแปลงของทิวทัศน์เหล่านั้นก็เป็นวิธีการเพลิดเพลินเฉพาะในญี่ปุ่นเท่านั้น
นอกจากนี้ก็มีหลายคนที่ทำกิจกรรมอย่างเรือคายัคและเรือแคนนู นอกเหนือจาก
"ทะเลสาบชิโระมารุ" ในเมืองโตเกียวแล้ว ก็ยังสามารถสัมผัสกับประสบการณ์ของเรือคายัค
ได้ที่ทะเลสาบในแถบชานเมืองอีกด้วย