HOME พื้นที่โดยรอบมหานครโตเกียว โตเกียว ฮาราจุกุ [นำเที่ยวฮาราจูกุ] แหล่งรวมความน่ารัก ! 30 สถานที่ในฮาราจูกุที่ต้องลองไปให้ได้สักครั้ง
[นำเที่ยวฮาราจูกุ] แหล่งรวมความน่ารัก !  30 สถานที่ในฮาราจูกุที่ต้องลองไปให้ได้สักครั้ง

[นำเที่ยวฮาราจูกุ] แหล่งรวมความน่ารัก ! 30 สถานที่ในฮาราจูกุที่ต้องลองไปให้ได้สักครั้ง

Last updated: 18 มิ.ย. 2563

ฮาราจูกุตั้งอยู่ในโตเกียว ย่านนี้เป็นที่รู้จักกันดีว่าเป็นแหล่งนำแฟชั่นทันสมัยหลาย ๆ อย่าง จึงเป็นแหล่งรวมตัวของวัยรุ่นที่ชอบตามเทรนด์สมัยใหม่ ที่ฮาราจูกุนี้มีร้านค้าแหวกแนวไม่เหมือนใครตั้งเรียงรายอยู่มากมาย และมีผู้คนที่สนุกกับการประดิษฐ์ประดอยแฟชั่นของตัวเองอย่างอิสระเดินกันอย่างขวักไขว่ ถือเป็นหนึ่งในแหล่งท่องเที่ยวยอดนิยมของนักท่องเที่ยวทั้งในและต่างประเทศ

ขอแนะนำแหล่งท่องเที่ยว ร้านอาหาร และแหล่งชอปปิงในย่านฮาราจูกุ ซึ่งเป็นย่านที่โด่งดังไปไกลระดับโลกในฐานะเมืองแห่งแฟชั่นล้ำสมัยให้ได้รู้จักกัน

“ฮาราจูกุ” แหล่งรวมความน่ารัก และ “โอโมเตะซันโด” ที่เปี่ยมไปด้วยความหรูหรา

Takamex / Shutterstock.com
Takamex / Shutterstock.com

หากพูดถึงฮาราจูกุ หลายคนคงนึกถึงแหล่งรวม “ความน่ารัก” ที่สาว ๆ ในญี่ปุ่นหลงใหลเป็นแน่ โดยเฉพาะ “ถนนทาเคชิตะ” ซึ่งมีผู้คนสัญจรไปมามากที่สุด ที่นี่มีร้านขายของกระจุกกระจิกสุดน่ารักและเสื้อผ้าราคาถูกมากมาย ทำให้เป็นที่นิยมในกลุ่มสาวน้อยวัยทีน เพราะมีสินค้าที่มีดีไซน์เฉพาะตัวเรียงรายให้เลือกสรร จึงคึกคักไปด้วยวัยรุ่นที่ชอบของน่ารัก ๆ และชอบตามเทรนด์แฟชั่นอยู่เสมอ นอกจากนี้ยังขึ้นชื่อว่าเป็นแหล่งที่มีร้านขนมหวานพากันมาเปิดตัวอย่างต่อเนื่องอีกด้วย มีผู้คนไม่น้อยที่หวังจะมาลิ้มรสขนมหวานสุดฮิต ไม่ว่าจะเป็นเครป หรือแพนเค้ก

สำหรับนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ ฮาราจูกุก็ถือเป็นสถานที่พิเศษเช่นกัน ฮาราจูกุจะมีวัยรุ่นในแฟชั่นเฉพาะตัวเดินสัญจรไปมา ทั้งแฟชั่นสายโลลิตาในชุดที่เต็มไปด้วยลูกไม้และกระโปรงพลิ้ว ๆ หรือ แฟชั่นสายโกธิคที่เน้นสีดำเป็นหลัก หรือแม้แต่คอสเพลย์ที่ราวกับหลุดออกมาจากโลกอนิเมะก็เห็นได้จนชินตาที่นี่ ดังนั้นจึงมีนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติที่สนใจแฟชั่นไม่เหมือนใครเช่นนี้มาเยี่ยมเยียนฮาราจูกุกันเพิ่มมากขึ้นเรื่อย ๆ

dan mano / Shutterstock.com
dan mano / Shutterstock.com

นอกจากนั้น ร้านขายของฝากสำหรับชาวต่างชาติ “โอเรนทัล บาร์ซ่า” ซึ่งมีบรรยากาศของ “วอชิงตันไฮซ์” สถานที่ซึ่งเคยเป็นที่อยู่อาศัยสำหรับทหารอเมริกาในอดีตหลงเหลืออยู่ หรือร้านขายสินค้าคาแรคเตอร์กระจุกกระจิก “คิดดี้แลนด์” ก็เป็นแหล่งท่องเที่ยวยอดนิยมเช่นกัน

อีกด้านหนึ่งคือถนนโอโมเตะซันโดที่เชื่อมต่อมาจากฮาราจูกุ ยิ่งเข้าใกล้ฝั่งอาโอยามะก็ยิ่งมีบรรยากาศสงบแบบผู้ใหญ่มากขึ้น สามารถสัมผัสได้ถึงบรรยากาศหรูหราจากร้านสินค้าแบรนด์เนมชื่อดัง ร้านขายของกระจุกกระจิกคูล ๆ และคาเฟ่ที่ตั้งเรียงรายอยู่มากมาย

นอกจากนั้น ฮาราจูกุยังเป็นแหล่งรวมสถานที่ที่มีบรรยากาศแตกต่างกันไป ไม่ว่าจะเป็นอุระฮาราจูกุ แคทสตรีท หรือ ศาลเจ้าเมจิและสวนโยโยกิที่ถือเป็นโอเอซิสใจกลางเมืองหลวง ไม่ได้มีแค่การทานอาหารหรือชอปปิง แต่แค่ได้เดินเล่นชมบรรยากาศของฮาราจูกุก็รู้สึกสนุกได้แล้ว แถมอาจจะได้พบเจอของน่ารัก ๆ ที่อดไม่ไหวจนต้องอัพลงโซเชียลมีเดียด้วยก็เป็นได้

สัมผัสมนต์เสน่ห์รอบด้าน ! สถานที่แนะนำและจุดเด่นของแต่ละพื้นที่

ฮาราจูกุ แบ่งพื้นที่ออกเป็นถนนทาเคชิตะ อุระฮาราจูกุ และแคทสตรีท ซึ่งแต่ละพื้นที่ก็มีจุดเด่นที่แตกต่างกันออกไป นอกจากนั้นยังสามารถเข้าไปเยี่ยมชมสวนโยโยกิและศาลเจ้าเมจิชื่อดังซึ่งถือเป็นสถานที่ทางประวัติศาสตร์ของญี่ปุ่นที่ช่วยเติมพลังบวกให้ชีวิต

“ถนนทาเคชิตะ” ที่เต็มไปด้วยของน่ารัก ยอดฮิตในหมู่สาว ๆ

StockStudio / Shutterstock.com
StockStudio / Shutterstock.com

บนถนนที่ทอดยาวออกมาจากประตูทาเคชิตะ สถานี JR ฮาราจูกุ ไปจนถึงสี่แยกถนนเมจิ มีร้านค้ายอดฮิตที่สาวน้อยผู้ชื่นชอบของน่ารัก ๆ ต้องมารวมตัวกันเรียงรายยาวออกไปประมาณ 350 เมตร มีร้านขายสินค้าราคาย่อมเยาที่แม้แต่เด็ก ๆ ก็ซื้อได้มากมาย ตั้งแต่เสื้อผ้านำเทรนด์ ร้านขายของกระจุกกระจิก ไปจนถึงร้านขายขนมหวานที่พากันมากระตุ้นต่อมสาวน้อยกันไม่หยุดหย่อน ถนนทาเคชิตะผู้นำแฟชั่นสุดน่ารักแห่งนี้ แค่ได้เดินดูของเฉย ๆ ก็ตื่นเต้นแล้ว หากมาถึงที่นี่แล้วก็อย่าลืมสั่งเครปหรือของหวานอร่อย ๆ มาทานกันด้วยนะ

โดดเด่นด้วยทิวต้นเคยากิ ! ร้านค้าหรูหราเรียงราย “โอโมเตะซันโด”

โดดเด่นด้วยทิวต้นเคยากิ ! ร้านค้าหรูหราเรียงราย “โอโมเตะซันโด”

โอโมเตะซันโดคือเส้นทางสำหรับไปสักการะศาลเจ้าเมจิ เป็นถนนใหญ่ที่เชื่อมระหว่างฮาราจูกุกับอาโอยามะ เมื่อพูดถึงโอโมเตะซันโดก็จะต้องนึกถึงทิวต้นเคยากิที่จะมีการประดับไฟสีทองระยิบระยับได้บรรยากาศโรแมนติกเมื่อเข้าช่วงฤดูหนาว สองข้างทางเป็นทางลาดไม่ชันนัก มีจุดศูนย์กลางอยู่ที่โอโมเตะซันโดฮิลส์ซึ่งถือเป็นแลนด์มาร์กสำคัญ และมีร้านค้าที่เป็นที่จับตามองทั้งสินค้าแบรนด์เนมสุดไฮโซและคาเฟ่เรียงรายตามสองข้างทาง ถือเป็นย่านที่ดูดีมีสไตล์และสงบเงียบไม่วุ่นวาย

สัมผัสประสบการณ์ตามล่าหาสมบัติ ! “อุระฮาราจูกุ แคทสตรีท” แหล่งรวมร้านค้าที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว

MADSOLAR / Shutterstock.com
MADSOLAR / Shutterstock.com

เมื่อเดินผ่านถนนทาเคชิตะจากสถานีฮาราจูกุและข้ามผ่านถนนเมจิจะพบกับถนนแคบ ๆ ที่ค่อย ๆ กว้างขึ้นซึ่งเรียกกันว่า อุระฮาราจูกุ เนื่องจากร้านค้าทั้งหลายเข้ามาเปิดตัวเพิ่มขึ้นหลังจากที่มีถนนทาเคชิตะแล้ว จึงเรียกที่นี่ว่า “อุระ(ด้านหลัง)” และในบริเวณนั้นยังมี “แคทสตรีท” ถนนสายชอปปิงที่หลายคนคุ้นเคยกันดีว่ามีร้านขายสินค้าที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวมากมาย ซึ่งได้รับความนิยมอย่างสูงเช่นกัน

แต่เดิมถนนเส้นนี้อยู่ในย่านที่พักอาศัย เมื่อเทียบกับถนนด้านหน้าแล้วจึงมีผู้คนสัญจรไปมาไม่มากนัก บนถนนเส้นนี้มีร้านอาหารที่ปรับปรุงมาจากบ้านพักแอบซ่อนตัวอยู่ หรือร้านค้าดูดีมีสไตล์ที่ดัดแปลงมาจากอาคารเก่า ถือเป็นพื้นที่ที่เหมาะแก่การเดินเล่นมิใช่น้อย

โอเอซิสแห่งเมืองหลวง ! “ศาลเจ้าเมจิ” ที่มีชื่อเสียงในฐานะแหล่งเสริมดวงและ “สวนโยโยกิ” ที่เปี่ยมไปด้วยธรรมชาติ

โอเอซิสแห่งเมืองหลวง ! “ศาลเจ้าเมจิ” ที่มีชื่อเสียงในฐานะแหล่งเสริมดวงและ “สวนโยโยกิ” ที่เปี่ยมไปด้วยธรรมชาติ

เมื่อเดินประมาณ 3 นาทีจากประตูทางออกโอโมเตะซันโดของสถานี JR ฮาราจูกุ หลายคนจะต้องสะดุดตากับเสาโทริอิไม้ขนาดใหญ่อย่างแน่นอน จากจุดนี้จะถือว่าเป็นพื้นที่ของศาลเจ้าเมจิ และเสาโทริอินี้ถูกขนานนามว่ามีขนาดใหญ่ที่สุดในญี่ปุ่นอีกด้วย เมื่อเดินลอดผ่านเสาโทริอิไปประมาณ 10 นาทีจะถึงอาคารของศาลหลัก ศาลเจ้าเมจิก่อตั้งเมื่อปี 1920 เป็นศาลเจ้าเพื่อบวงสรวงจักรพรรดิเมจิและจักรพรรดินีโชเก็งพระพันปีหลวง พื้นที่กว้างขวางในศาลเจ้านั้นมีต้นไม้ใหญ่ปลูกอยู่กว่าสองแสนต้น บรรยากาศสงบร่มรื่นนี้ทำให้ลืมไปเลยว่ากำลังอยู่กลางเมืองหลวง

เมื่อสักการะศาลเจ้าเมจิเรียบร้อยแล้วก็ลองแวะไปที่สวนโยโยกิซึ่งอยู่ติดกัน สวนโยโยกินั้นในอดีตเคยใช้เป็นสนามฝึกของทหารบกและเป็นวอชิงตันไฮซ์ของทหารอเมริกา รวมทั้งเคยใช้เป็นหมู่บ้านนักกีฬาในช่วงที่มีการจัดงานโตเกียวโอลิมปิกอีกด้วย สวนแห่งนี้ถือเป็นที่พักผ่อนหย่อนใจของผู้คนในฐานะโอเอซิสใจกลางเมืองหลวงที่ห้อมล้อมด้วยป่าไม้และสายน้ำ นอกจากเวทีกลางแจ้งที่ใช้จัดงานอีเวนท์ต่าง ๆ แล้ว ยังมีสนามกีฬา สนามฟุตบอล ลู่สำหรับปั่นจักรยาน และลู่วิ่ง ทำให้สามารถเพลิดเพลินได้ทั้งเด็กและผู้ใหญ่

เดินทางไปฮาราจูกุยังไงดี ?

สถานี JR ฮาราจูกุนั้นมีแผนจะสร้างใหม่หลังจบโอลิมปิกปี 2020 ดังนั้นหากต้องการชมสถานีรูปร่างหน้าตาแบบนี้ก็ต้องตอนนี้เท่านั้น
สถานี JR ฮาราจูกุนั้นมีแผนจะสร้างใหม่หลังจบโอลิมปิกปี 2020 ดังนั้นหากต้องการชมสถานีรูปร่างหน้าตาแบบนี้ก็ต้องตอนนี้เท่านั้น

สามารถเดินทางมาที่ฮาราจูกุได้ด้วยการใช้บริการ 3 สถานีนี้ คือ “สถานีฮาราจูกุ” สาย JR ยามาโนเตะ “สถานีเมจิจินกูมาเอะ” และ “สถานีโอโมเตะซันโด” สายโตเกียวเมโทร ถ้าอยากจะไปแถวโอโมเตะซันโดก็ลง “สถานีโอโมเตะซันโด” หรือ “สถานีเมจิจินกูมาเอะ” แต่ขอแนะนำให้ลงสถานีฮาราจูกุที่ถือเป็นสัญลักษณ์ของฮาราจูกุ ออกจากประตูทาเคชิตะ เดินผ่านถนนทาเคชิตะแล้วเดินมุ่งหน้าไปทางอุระฮาราจูกุ แคทสตรีท ก็น่าสนุกไม่แพ้กัน นั่งสาย JR ยามาโนเตะจากสถานีชินจูกุประมาณ 6 นาทีก็ถึงสถานีฮาราจูกุ และหากนั่งจากสถานีโตเกียวจะถึงใน 27 นาที ส่วนสถานีเมจิจินกูมาเอะนั้นมีทางออกหลายทาง อย่าลืมดูดี ๆ ก่อนว่าประตูทางออกไหนใกล้จุดหมายที่ต้องการจะไป

ถึงจะเรียกกันว่าฮาราจูกุ แต่ก็มีบรรยากาศที่แตกต่างกันไปตามแต่ละพื้นที่ ทั้งถนนทาเคชิตะ อุระฮาราจูกุ โอโมเตะซันโด นอกจากนั้นยังมีศาลเจ้าเมจิและสวนโยโยกิอีกด้วย อาจจะมีภาพลักษณ์ว่าเป็นเมืองแห่งวัยรุ่น แต่ก็มีจุดเด่นตรงที่มีส่วนของเมืองที่มีบรรยากาศแบบผู้ใหญ่อยู่ด้วย ลองไปเพลิดเพลินกับอาหารรสเลิศ ชอปปิงในเมืองนำแฟชั่น หรือดื่มด่ำกับวัฒนธรรมญี่ปุ่นที่หาได้ที่ฮาราจูกุเท่านั้นกันดูนะ

*This information is from the time of this article's publication.
*Prices and options mentioned are subject to change.
*Unless stated otherwise, all prices include tax.

แชร์บทความนี้

บทความใหม่
ค้นหา